ตำนานการฟ้อนรำในตอนที่สี่นี้ จะกล่าวถึง กลอนตำรารำที่เป็นกลอนสุภาพ มีมาแต่โบราณ มีความหมายตามลักษณะต่างๆของ ท่ารำ อันเป็นแบบอย่างที่สืบทอดต่อๆกันมา ที่เรียกว่ารำแม่บทหรือรำแม่บทใหญ่ เป็นแม่ท่าที่ทุกคนที่เรียนในสาขาวิชานาฏศิลป์ไทยจะต้องเรียน โดยไม่สามารถจะยกเว้นได้ โดยมีบทกลอนดังต่อไปนี้
เทพประนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาช้านางนอน
ผาลาเพียงไหล่พิสมัยเรียงหมอน กังหันร่อนแขกเต้าเข้ารัง
กระต่ายชมจันทร์จันทร์ทรงกลด พระรถโยนสารมารกลับหลัง
เยื้องกรายฉุยฉายเข้าวัง มังกรเลียบถ้ำมุจลินทร์
กินนรรำซ้ำช้างประสานงา ท่าพระรามาก่งศิลป์
ภมรเคล้ามัจฉาชมวาริน หลงใหลได้สิ้นหงส์ลินลา
ท่าโตเล่นหางนางกล่อมตัว รำยั่วชักแป้งผัดหน้า
ลมพัดยอดตองบังพระสุริยา เหราเล่นน้ำบัวชูฝัก
นาคาม้วนหางกวางเดินดง พระนารายณ์ฤทธิรงค์ขว้างจักร
ช้างหว่านหญ้าหนุมานผลาญยักษ์ พระลักษณ์แผลงอิทธิฤทธี
กินนรฟ้อนฝูงยูงฟ้อนหาง ขัดจางนางท่านายสารถี
ตระเวนเวหาขี่ม้าตีคลี ตีโทนโยนทับงูขว้างค้อน
รำกระบี่สี่ท่าจีนสาวไส้ ท่าชะนีร่ายไม้ทิ้งขอน
เมขลาล่อแก้วกลางอัมพร กินนรเลียบถ้ำหนังหน้าไฟ
ท่าเสือทำลายห้างช้างทำลายโรง โจงกระเบนตีเหล็กแทงวิไสย
กรดสุเมรุเครือวัลย์พันไม้ ประไลยวาตคิดประดิษฐ์ทำ
กระหวัดเกล้าขี่ม้าเลียบค่าย กระต่ายต้องแร้วแคล้วถ้ำ
ไม่มีความเห็น