ดอกไม้


ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

        ค่ำนี้ ได้อ่านอนุทินของน้องสุภัทรา เล่าถึงอาการหอบที่เนื่องมาจากหวัดของคุณแม่ของเธอ ทำให้ได้ความรู้ว่า อาการหอบสืบเนื่องมาจากการเป็นหวัด

       ย้อนกลับมาดูตัวเอง ซึ่งได้รับเชื้อหวัดมาจากลูกสาวตอนที่ไปเกาหลี สองวันแรกไม่เป็นอะไร วันที่สามเริ่มมีอาการจามและน้ำมูกไหลไม่หยุดจนต้องขอยาลดน้ำมูกจากลูกมากิน (ปกติเวลาป่วยจะไม่กินยา/หาหมอ ปล่อยให้หายเอง) อาการแสดงออกมากในวันที่จะเดินทางกลับ  ตอนกลับถึงกทม.วันที่ 29 พ.ค.มีอาการหายใจหอบ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งที่ก็เคยเป็นไข้หวัด และยิ่งตอนที่เดินจากจุดเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิไปรอขึ้นเครื่องกลับอุบลฯ ในวันที่ 30 ซึ่งต้องเดินไกลมาก ก็ยิ่งหอบมาก กลับถึงอุบลฯ ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะแค่เดินไม่กี่เมตรก็หอบเลยนอนอย่างเดียว ช่วงบ่ายแก่ๆ ตื่นขึ้นมาพบว่าอาการหอบหายแล้ว เลยไปตลาดซื้อกับข้าวมากิน หลังจากที่ไม่ได้กินมาตั้งแต่เที่ยงวันที่ 30

       ช่วงนี้เดินทางบ่อยมาก ในรอบสองสัปดาห์ขึ้นเครื่อง 8 เที่ยว และใช้แรงเดินขึ้นเขาทั้งตอนที่ไปเที่ยวเชียงใหม่และเที่ยวเกาหลี กลางคืนก็นอนน้อยร่างกายเลยอ่อนแอสู้กับโรคไม่ไหว ถ้าอยู่ที่ฟาร์มไอดินฯ หรือบ้านเรือนขวัญ ในแต่ละมื้ออาหารจะทานพืชผักสมุนไพร 80 % ทานโปรตีน 20 % ทำให้พร้อมสู้โรค แต่อยู่ที่เกาหลี 4 วันเต็มๆ อาหารเป็นเนื้อสัตว์ 85 % ผัก 15 % ร่างกายคงจะปรับตัวไม่ได้

       คืนนี้ก็คงจะต้องนอนน้อย เพราะมีงานค้างที่ไม่มีแรงทำส่งในวันที่ 30 ตามที่แจ้งคณะไว้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน ซึ่งเริ่มด้วยการประชุมของมหาวิทยาลัยในภาคเช้า และเริ่มการเรียนการสอนในภาคบ่าย 

34
4
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

         เมื่อตัดสินใจที่จะเขียนบันทึกเกี่ยวกับ “มนุษยสัมพันธ์” เป็นเรื่องแรก ใน Blog “Mantoknow” ซึ่งจะลงเย็นวันนี้ ผู้เขียนได้ลองเข้าไปทำแบบทดสอบ “Human Relations Test” ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีคำถามในเรื่องต่างๆ 10 ข้อหลายๆ ข้อก็ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์ ซึ่งเป็นลักษณะของคำถามทางจิตวิทยา ผู้เขียนได้ตอบ (ส่วนที่พิมพ์ตัวหนา) ดังนี้

1. When do you feel you best? in the morning ที่เลือกตอบว่ารู้สึกดีที่สุดในตอนเช้า เพราะบางวันที่ผู้เขียนอาจรู้สึกหดหู่ หมดพลัง (ซึ่งเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก) แต่พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ความรู้สึกสดชื่น เต็มไปด้วยพลัง จะกลับมาเหมือนดังเดิม

 2. You usually walk fairly fast, with long steps.

3. When talking to people you touch or push the person to whom you are talking.

4. When relaxing, you sit with your legs stretched out or straight. (ถามแม้กระทั่งท่านั่งยามผ่อนคลาย) 

5. When something really amuses you, you react with a laugh, but not a loud one.

6. When you go to a party or social gathering, you make a quiet entrance, looking around for someone you know.

 7. You're working very hard, concentrating hard, and you're interrupted. I welcome the break.

 8. Which of the following colors do you like most? ถามสีที่ชอบ ซึ่งผู้เขียนตอบว่าชอบสีเขียว (จากตัวเลือก Red or Orange, Yellow or Light Blue, Green, Dark Blue or Purple, White, Brown or Gray)

9. When you are in bed at night, in those last few moments before going to sleep, you lie on your side, slightly curled. (ถามแม้กระทั่งท่านอน) 

10. You often dream that you are … you usually have dreamless sleep ตัวเลือกมี falling, fighting or struggling, searching for something or somebody, flying or floating, you usually have dreamless sleep, your dreams are always pleasant (และถามแม้กระทั่งความฝันซึ่งผู้เขียนตอบว่าปกติจะไม่ฝัน เพราะผู้เขียนจะนอนน้อย นอนคืนละ 4-5 ชั่วโมงแต่จะหลับสนิท หลับลึกจึงไม่ค่อยได้ฝัน และจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แต่บางครั้งที่ฝันจะตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย)

   เมื่อตอบเสร็จ เขาก็ให้แจ้งอายุ และ e-mail address ชั่วอึดใจ ผู้เขียนได้รับรายงานผลว่า Wilai Phaengsri, people see you as fresh, lively, charming & amusing. (วิไล คนมองคุณว่า คุณเป็นคนสดชื่น มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ และมีอารมณ์ขัน 

   They see you as practical, and always interesting; someone who's constantly in the center of attention, but sufficiently well-balanced not to let it go to their head. They also see you as kind, considerate, and understanding; someone who'll always cheer them up and help them out.

เว็บที่ทำแบบทดสอบ :  http://www.3smartcubes.com/pages/tests/humanrelations/humanrelations_report.asp?from=signup

8
2
ถาวร
เขียนเมื่อ

มิตรภาพในความเงียบ

      ข้าพเจ้ามองภาพนี้ด้วยความรู้สึกดี ผู้ป่วยหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งช่วงนี้มีอาการทางจิตไม่พูดคุย เหม่อลอยบ่อยๆ อีกคนอาการหลงลืม คิดคำพูดไม่ออก ไม่รู้วัน เวลา สถานที่  แต่ละวันแทบจะไม่คุย ข้าพเจ้ากระตุ้นให้พูดคุย สร้างสัมพันธภาพกัน

      จากยืนมองหน้ากันข้างๆเตียงก็เปลี่ยนมานั่งใกล้ๆกัน
      มองเห็นขนมที่โต๊ะข้างเตียงที่แม่ผู้ป่วยคนแรกซื้อมาให้  ข้าพเจ้ากระตุ้นให้รับประทานเป็นอาหารว่างเพราะผู้ป่วยผอม รับประทานอาหารได้น้อยในแต่ละมื้อ

       ภาพที่เห็นคือผู้ป่วยเอาขนมมาแบ่งกันรับประทาน กุลีกุจอแกะขนม 2-3 ห่อด้วยความพยายาม ยื่นขนมให้กัน รับประทานด้วยกันเงียบๆ ยื่นแก้วน้ำให้กัน

       ไม่มีเสียง  ไม่พูดคุย สบตากันบ้าง รับประทานเสร็จจูงมือกันไปดูทีวี

       มิตรภาพเบ่งบานในใจ ในความเงียบ ไร้สรรพเสียง

       เป็นอวัจนภาษาที่น่าทึ่ง

        ข้าพเจ้าเชื่อว่า นอกจากศักยภาพในตนเอง มนุษย์ทุกคนมีหัวใจของการแบ่งปัน มีน้ำใจ มิตรไมตรี ช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ สวยงาม

8
5
krutoiting
เขียนเมื่อ

ครูดี ผอ.ดี ยังมีอีกมาก หากพวกเขาอยู่ในแดนไกลจากเรา แต่เพียงคิดก็ใกล้กัน

3
0
Wasawat Deemarn
เขียนเมื่อ

| อนุทิน ... ๒๖๙๓ |

"ระบบอุปถัมภ์"

โครงการครูเป็นเลิศนี่มันสร้างโอกาสให้กับคนที่คอยหาผลประโยชน์มากมายจริง ๆ ไม่รู้กี่กรณีต่อกรณีแล้ว

ระบบอุปถัมภ์กำัลังจะเกิดขึ้น เมื่อผู้ช่วยคณบดีฯ ต้องการจะนำแฟนของตัวเองเข้ามาสู่ตำแหน่งอาจารย์หอพักที่ต้องดูแลเด็กครูเป็นเลิศ

ระบบอุปถัมภ์ หากได้คนดีก็ดีไป แต่มันก็ไปรังแกคนบริสุิทธิ์อีกตั้งมากมาย หากทำตัวแย่ เวลาจะเอาออก ลำบากหนัก มีผู้มีอิทธิพลมาช่วยอยู่

ตาย ๆ ตายอย่างเดียว ไม่อยากจะคิดเลย

เบื่อระบบนี้แย่แล้ว พวกเอาเปรียบสังคม

2
0
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
เขียนเมื่อ

ผู้เข้าประกวดไทยเเลนด์ก้อตลาเล้นท์จาก จังหวัดยะลา วารุณี สุวรรณรักษ์เธอมาร้องเพลง what's up สาวชาวบ้านคนหนึ่งที่เล่นเอาน้ำตาผมไหลทีเดียว เป็นกำลังใจให้เธอครับ...

6
2
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท