คืนนี้เป็นคืนแรกที่เริ่มต้นกรีดยางในสวนหลังบ้าน(หลังจากฝนตกอย่างหนักเมื่อช่วงสงกรานต์ และได้เบิกหน้ายางไปเมื่อสองวันก่อน)
ดวงใจอยากตามพ่อเข้าไปในสวนด้วย
หลังจากที่เอาแม่ขึ้นนอนแล้ว ในขณะที่พี่เพชรนั่งขายของอยู่ในร้าน... ช่วงหัวค่ำ
..
ที่ผ่านมา... ลูกไม่เคยร้องขอตามพ่อเข้าไปในสวนเลยสักครั้งเดียว
แต่มาวันนี้...คืนนี้ ดวงใจอยากตามพ่อเข้าไปในสวนจริง ๆ ด้วยการแต่งตัวรอพร้อมกับเตรียมไฟฉายใส่ไว้ที่หัว เหมือนที่เคยเห็นพ่อมาก่อนหน้านี้....ด้วยความเคยชิน
พ่อมองดูลูกด้วยความเอ็นดู และสงสาร เพราะการเดินท่องไปในสวนยางยามค่ำคืนนั้น ไม่ใช่เรื่องสนุกสนานเลย
ในความมืด... มีทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ทั้งสัตว์มีพิษและอันตรายอื่นๆ มากมายหลายอย่าง จนแทบจะบอกปฎิเสธลูกไปเดี๋ยวนั้น
แต่ด้วยเห็นว่า...ลูกมีความตั้งใจเป็นกำลังที่จะตามพ่อเข้าไป จึงไม่อาจที่จะปฏิเสธความตั้งใจของลูกลงได้
แต่ถึงแม้ว่าลูกจะเดินอยู่ในความมืด... พ่อก็ยังสัมผัสถึงความกระตือรือล้นของลูกได้
ทั้งน้ำเสียงและอากัปกริยาที่ลูกแสดงออกมา
...
...
...
ในความเงียบ ........ยามค่ำคืน ขณะที่เราเดินไปด้วยกัน
...
...
สักพักหนึ่ง ดวงใจก็ถามพ่อว่า..."พ่อไม่เหงาหรอกหรือ? ที่เดินท่อง ๆ ในสวนแบบนี้คนเดียว"
..
ได้ตอบลูกไปว่า...."ในความเงียบแบบนี้แหละดี มันทำให้พ่อมีสมาธิ และใจจดจ่ออยู่กับงานที่พ่อทำ ไม่วอกแวก หากพลาดพลั้งไป ปลายมีดที่คมกริบในมือพ่อนี้ มันอาจเป็นอันตรายกับพ่อได้"
..
..
และมีหลายคำถาม หลายถ้อยคำ..... ที่ลูกได้พูดคุยกับพ่อ
ตลอดเวลาร่วมชั่วโมงทีเดียว.. ที่ลูกอดทนเดินเป็นเพื่อนพ่อ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ แต่ลูกกลับไม่บ่นสักคำ พร้อมกับยิ้มและบอกพ่อว่า..."จะเดินเป็นเพื่อนพ่อจนกว่าพ่อตัดยางแปลงนี้เสร็จ"
..
(พ่อคิดในใจว่า...ลูกคงเดินไม่ไหวหรอก หากงานแล้วเสร็จต้องใช้เวลา ประมาณ 3 ชั่วโมงทีเดียว)
..
แต่พ่อก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปหรอกนะ พ่อปล่อยให้ดวงใจพูดคุยเป็นเพื่อนพ่ออยู่อย่างนั้น ....
ระหว่างทางที่พ่อทำหน้าที่ของพ่ออยู่นั้นเอง ... ลูกได้พูดถามพ่ออีกว่า....
"พ่อจ๋า..กว่าน้ำยางจะเต็มจอกเนี่ย!! พ่อต้องตัดกี่วันจ๊ะ?."
"และพ่อทำงานแบบนี้ ...เหนื่อยมั้ยจ๊ะ?"
..
..
พ่อยิ้ม...และได้ตอบลูกไปว่า...
"ก็ประมาณ 2-5 วัน แหละ แล้วแต่ว่ายางต้นไหนจะมีน้ำยางออกดี "
..
..
"การทำงานทุกอย่างมันเหนื่อยทั้งนั้นแหละลูก อยู่แต่ว่าเราจะเลือกเหนื่อยแบบไหน หากเราเรียนสูงๆ...เราก็ได้ทำงานที่ใช้สมองมากกว่าแรงกาย มันก็เหนื่อยไปอีกแบบหนึ่ง แต่มันก็ไม่ลำบากและเหนื่อยเท่านี้นะลูก"
"แบบพ่อเนี่ย!!ไม่เป็นไร เพราะพ่อแก่แล้ว และพ่อเลือกที่จะเป็นชาวสวนเอง มันเหนื่อยก็จริงอยู่ แต่ในชีวิตบั้นปลายของพ่อมันมีความสุขไปอีกแบบหนึ่งนะลูก..."
..
..
"ลูกเห็นมั้ย!! กว่าพ่อจะได้เงินมาให้ลูกใช้กินขนม ไปโรงเรียนนั้นนะ มันไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ นะ"
"เพราะฉะนั้นเงินที่พ่อได้มา และเอาไปให้ลูกได้ใช้นั้น มันจึงมีค่ามากเลยทีเดียว ลูกเห็นใช่มั้ย!!"
...
...
(พ่อหยุดพูดไป...สักครู่)
"เราต้องรู้ค่าของเงินนะลูก!!"
...
...
...
หลังจากนั้นอีกไม่นาน... พ่อก็ตัดสินใจพาดวงใจไปส่งบ้าน
ระหว่างทาง สังเกตว่า...ดวงใจพูดน้อยลง นิ่งมากขึ้น...
...
พ่อรับรู้ได้อย่างหนึ่ง...
ขณะที่พ่อเดินจูงมือลูกกลับบ้าน......
ค่ำคืนนี้... พ่อได้พูดสอนให้ลูกรู้ค่าของเงิน.. จากหยดน้ำยางที่ลูกเห็น....
เรียนคุณแสง...มาส่งดวงใจเข้านอน
ดวงใจได้มาสัมผัสการทำงานของพ่อ เป็นการเรียนรู้ที่เข้าใจได้มากมายกว่าคพูดที่พร่ำบ่นให้รู้คุณค่าของเงินจากการทำงานของพ่อ
ยอดเยี่ยมค่ะ ดวงใจของน้องดวงใจ
...เป็นเวลาที่มีคุณค่ายิ่งระหว่างพ่อ ลูก นะคะ...
เป็นวิธีการสอนที่ดีมากๆ ค่ะ
น่ารัก อบอุ่น และประทับใจในการอบรมและประสบการชีวิตที่ให้กับลูกค่ะ หนูดวงใจจะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพอย่างแน่นอน
วีรบุรุษ..ในความงาม...ยุทธศาสตร์ในการสอนลูก และลูกที่ใฝ่รู้ ...คือการก้าวสู่สังคมที่ดีในอนาคต
ทุกย่างก้าวที่เดินกลับ..ดวงใจคงเห็นคุณค่าของเงิน...และชื่่นชมในความเข้มแข็งอดทนของพ่อ
เยี่ยมมากค่ะ ทุกวันนี้พ่อ ๆ แม่ ๆ ไม่ค่อยได้สอนหรือทำให้ลูกเห็นว่า กว่าจะได้เงินมาเลี้ยงดูลูกนั้น ยากลำบากเพียงใด
มองเห็นชีวิตการทำงาน
เห้นคุณค่าของเวลา
ขอบคุณมากๆครับ
คุณพ่อเป็นต้นแบบที่ดีของลูกอย่างแท้จริง ชื่นชมพี่เสมอและขอบคุณมากๆครับผม
ขอบคุณอาจารย์ขจิต และอาจารย์ป๊อบ มากครับ