เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อุดมด้วยสารไลโคพีน: ผลขี้พร้าไฟ


"เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ".. อุดมด้วยสารไลโคพีน: ผลขี้พร้าไฟ



พืชผักในท้องถิ่นที่ปลูกและรู้จักสรรพคุณกันมาตั้งแต่บรรพชนเป็นองค์ความรู้ที่ได้ถ่ายทอดสั่งสมกันมาเป็นภูมิปัญญา   ปัจจุบันนี้เทคโนโลยี การศึกษาวิจัย และการดำรงชีวิตเปลี่ยนไป  พืชผักบางชนิด ที่เคยกินยอด  หรือผลอ่อน   แต่มาวันนี้กลับพบว่าพืชเหล่านั้นมีสารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าในผลสุก  ซึ่งให้เนื้อที่มีรสขมกว่า  ในขณะที่เยื่อหุ้มเมล็ดกลับมีสารที่มีคุณค่ามากกว่าส่วนอื่น  เช่นสารไลโคพีน (Lycopene)  ที่พบในพืชชนิดหนึ่ง ทางปักษ์ใต้เรียกกันว่า "ขี้พร้าไฟ"   พืชตระกูลแตง เช่นเดียวกับ ฟักเขียว ซึ่งปักษ์ใต้เรียกว่า "ขี้พร้า"  ส่วน"ขี้พร้าไฟ"   อ๋อ..ผู้คนรู้จักกันในชื่อ "ฟักข้าว”     ได้นำเสนอไว้ที่นี่  ขี้พร้าไฟ”..ฟักข้าว..ดียิ่งนัก.. สำหรับผู้รักสุขภาพ..(๑)    



ผลขี้พร้าไฟ/ฟักข้าว เลื้อยไต่บนต้นฉำฉา ห้อยแขวนด้วยน้ำหนัก ๙๐๐ กรัม


ขี้พร้าไฟ/ฟักข้าว มีชื่อละตินว่า  Momordica cochinchinensis (Lour.) Spreng  นอกจากจะมีรงควัตถุ เบต้าแคโรทีนอยด์ซึ่ง พบมากในพืชสีเหลือง/ส้ม/แดง แล้วยังอุดมไปด้วยไลโคพีน  พบมากที่เยื่อหุ้มเมล็ด ซึ่งมีปริมาณไลโคพีนมากกว่าที่เนื้อของผลสุก  โดยรวมแล้วมีสารไลโคพีน มากกว่ามะเขือเทศ 12 เท่า  สารไลโคพีนละลายได้ดีในไขมัน  น้ำมันคุณภาพดีๆ ในการปรุงอาหารจึงช่วยทำให้สารไลโคพีนดูดซึมได้ดี  ร่างกายนำไปใช้ได้ เต็มที่


ไลโคพีน เป็นสารพฤกษเคมี (phytonutrient) ในกลุ่มคาโรตินอยด์  รู้จักกันว่าสารชนิดนี้มีมากในมะเขือเทศ  ชื่อของสารไลโคพีน จึงมีที่มาจากชื่อของมะเขือเทศ Solanum lycopersicum ...เป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมาก  ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์  ทำให้เป็นที่นิยมนำมาใช้ทั้งในทางการแพทย์  เพื่อการรักษา ปัองกัน ลดความเสี่ยงในกลุ่มหลอดเลือดหัวใจ  มะเร็ง และเพื่อเสริมความสวยงามของผิวพรรณ  ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายทั้งในรูปอาหารเสริม ต่างๆและเครื่องสำอาง


วันนี้จึงเป็นทางเลือก ที่จะนำมาทำเครื่องดื่ม/ ซุปข้น  เพิ่มพลังและ รักษาสุขภาพ  ปรุงสดจากขี้พร้าไฟ/ ฟักข้าว  โดยขนาดผลสุกที่นำมาใช้วันนี้มีน้ำหนัก ๙๐๐ กรัม  การันตีว่า ขี้พร้าไฟหนึ่งผลนี้ ใช้ประโยชน์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์  อะไรบ้าง?? …โปรดติดตาม...เข้าครัวไปด้วยกันกัับแม่ครัวมือสมัครเล่นที่นี่  http://burongtani.oas.psu.ac.th/blog/1298


การทำเครื่องดื่ม อุดมไลโคพีน  โดยนำส่วนเยื่อหุ้มเมล็ดและเนื้อผลสุกที่ปั่นแยกส่วนกัน (สามารถเก็บไว้ในลักษณะพิวเร่: puree... เป็นระยะเวลานานในตู้เย็น)  นำแต่ละส่วนมาเติมน้ำ  หรือเป็นส่วนผสมของทั้งสองในสัดส่วนที่ต้องการของเครื่องดื่ม  ก่อนนำไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ  เติมเกลือป่นเล็กน้อย  และน้ำผึ้งรวง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน  ยกลงจากเตาไปแช่น้ำเย็นทันที  และสุดท้ายเติมรสตามความพอใจ ด้วยมะนาว..ทำให้ได้เครื่องดื่มจากส่วนผสมของวัตถุดิบดังกล่าว..ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง..สร้างความแปลกใหม่ให้กับรสชาติ และให้ความสดชื่นได้ดีทีเดียว 


ผลสุกที่ผ่าตามยาว   ส่วนเนื้อ (สีเหลือง) ลักษณะนุ่ม เนื้อเนียน ทำให้ตักง่ายด้วยช้อน  เหลือเพียงเปลือกบางๆ การใช้ช้อนตัก คว้านเนื้อออกมา เพื่อลดการสัมผัสจากมือเรา 



ส่วนเยื่อหุ้มเมล็ด ใช้ช้อนขูดออกจากเมล็ด  และเยื่อที่ติดเมล็ดให้นำใส่ในตะแกรง เติมน้ำให้ท่วมแกว่งไปมา



เยื้อหุ้มเมล็ดที่แยกออกมา และเปลือกที่ตักเนื้อออก ยังคงทรงรูปเช่นเดิม เอาใส่เครื่องดื่มที่ได้ ก็ให้สัมผัสที่ดีไม่น้อย



เยื่อหุ้มเมล็ด (สีแดง)  เนื้อผลสุก (สีเหลือง)  น้ำสีแดงที่ชะเยื่อหุ้มเมล็ด (ในถ้วยตวง) และเมล็ดแข็ง (สีดำ)



ปั่นแยกส่วนของเยื่่อหุ้มเมล็ดและเนื้อผลสุก (ปั่นไม่ต้องเติมน้ำ)



ปริมาณที่ได้ ในถ้วยตวง (เยื่อหุ้มเมล็ด) ในกระบอกตวง (เนื้อของผล)



ผลิตภัณฑ์ที่สามแก้ว.... มีตวามแตกต่างกันของ texture และรสชาติ

แก้วกลาง : ส่วนใสของน้ำชะเมล็ด ส่วนนี้ไม่ได้เติมน้ำผึ้งรวง  กินแล้วได้ความสด รสธรรมชาติไม่มีอะไรเจือปน 

แก้วซ้าย: เป็นส่วนของเนื้อผลสุกที่เจือน้ำผึ้ง  หวาน ข้น เนื้อเนียน 

แก้วขวา: เป็นส่วนของเยื้อหุ้มเมล็ด สีแดงที่สุด  ยังคงมี texture ของเยื่อให้ได้ลิ้มรส ขณะดื่่ม




ลองเดาว่า..แก้วไหน?? คือผลิตภัณฑ์ส่วนใด จากภาพด้านข้าง



ซุปข้น..ส่วนเนื้อผลสุก เนียนคล้ายซุปฟักทอง  ใช้ช้อนตักแต่ละคำ ชิมพร้อมกับชมว่า อร่อยจริงๆนะ ฝีมือใครเนี่ย :-))


ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีทั่วกัน..

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://burongtani.oas.psu.ac.th/blog/1298


๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

หมายเลขบันทึก: 520874เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2013 18:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2013 08:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

ยังไม่เคยได้ลิ้มลอง ขี้พร้าไฟ นี้เลยค่ะ

สีเหมือนไม่กล้าดื่ม อิอิ 

ขอบคุณนะคะ สำหรับสาระดีๆ ประโยชน์มากมาย :)

...

เห็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในบันทึกนี้ แล้วคิดถึงร้านน้ำผักผลไม้ที่ SCB Park ครับ

น่าทานค่ะไม่เคยรู้จักเลยค่ะ ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน

ดีมากๆค่ะ ใช้ประโยชน์ดีต่อสุขภาพได้ทั้งลูก น่าอร่อยน่าชิมทั้งหมดเลย ขอบคุณมากนะคะ

ดูน่าอร่อยจังเลยครับ ดูจากภาพแล้วซุปข้นมะเขือเทศแพ้ไปเลยครับ อยากให้บันทึกนี้มีคนอ่านเยอะๆ ครับ ของดีบ้านเราไม่ต้องไปเอาสูตรฝรั่งครับ

อาจารย์ครับ ที่เกษตรฯมีนักวิจัยทำเรื่องนี้ครับ

เอานกมาฝากพี่


นกอะไรครับ



ไข่อะไรเนี่ย

เป็นน้ำที่มีคุณค่าและสีสันน่าทานมากนะคะ

ขอบคุณคะ ที่ร่วมบันทึก อาหารเพื่อสุขภาพ ทำให้รู้จักกับสาร lycopene พร้อมวิธีทำที่ออกมาน่ารับประทาน  หากเราหามะพร้าไฟยากและไม่ชอบมะเขือเทศ พอจะหาพืชอื่นทดแทนได้ไหมคะ

สวัสดีค่ะบังวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- น้ำผลไม้ ขี้พร้าไฟนี้ ..ลองทำครั้งแรกค่ะ เพราะส่วนใหญ่น้องๆเขาก็จะเอามาทำน้ำหมัก..เราอยากกินน้ำสด ก็เลยลองทำดู ไม่ยากนี่นา  และเป็นเพราะวัตถุิดิบ มีให้ทดลองอยู่บ่อยๆ  ไม่ต้องซื้อค่ะ  ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะค่ะ 

ได้เข้าไปอ่านงาน..สมัชชาที่ได้ลิงค์ไว้ไให้แล้วค่ะ  ทีมงานหลายภาึคี ร่วมมือกันแข็งขันนะค่ะ ทั้งด้าน สิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลต่อสุขภาพ..น่าชื่นชมค่ะ ..หากปะเหมาะคงมีโอกาสจะได้เข้าไปร่วมกระบวนบ้างค่ะบัง..ตอนนี้ก็ติดตามจากบันทึกที่บังฯ นำมาแบ่งปันนะค่ะ ขอบคุณค่ะ :-))

สวัสดีค่ะน้องหนูรี หนูรี...สีจากธรรมชาติของขี้พร้าไฟ  สดใส  น่าทานจริงๆนะค่ะ. สีเข้มกว่ามะเขือเทศ และแครอทค่ะ แถมปริมาณก็เยอะด้วย ...ถ้าใครชอบกินแครอทสดๆ  (พี่ชอบ.. กัดกินจากหัวเลยนะค่ะ  แต่ต้องเป็นประเภทหัวเล็กๆ สดจากไร่นะค่ะ...) หรือ น้ำแครอทปั่น ก็จะรู้สึกกว่ามีกลิ่นแครอท  แต่น้ำขี้พร้าไฟ สดๆ ในส่วนเยื่อหุ้มเมล็ด  พีว่าอร่อยที่สุด เพราะไม่ขม กลิ่นสดชื่นคล้ายแตง และที่ทำไม่ใ่ส่น้ำผึ้งรวงหรืออื่นๆเลย  พี่ทำชนิดเข้มข้น เลยมีสี ออกมาฉูดฉาด  แดงอมส้ม ทำให้แม่ครัวใหญ่ อย่างน้องหนูรีไม่กล้ากินซะนี่...แต่มีประโยชน์น๊า...ส่วนอื่นๆที่ทำให้สีดูคล้ำไป เพราะพี่่ใส่น้ำผึ้งรวงที่ค้างปี สีเลยไม่ใสค่ะ..ตอนนี้เริ่มเพาะเมล็ด 29 เมล็ดในผลที่เอามาทำน้ำ หากอยู่รอดเป็นต้นเมื่อไหร่ ก็จะได้มาบอกกล่าวนะค่ะ :-))

สวัสดีค่ะ น้องแอ๊ด ขจิต ฝอยทอง..อืมม์..ยั่วด้วยภาพนก..มาพร้อมไข่นกด้วยละซิ...ไข่นก อะไรน๊า..บอกใบ้ให้หน่อยไม่ได้เหรอ ว่าเจอที่ไหนเอ่ย??? จะได้เดากลุ่มได้ใกล้เคียงหน่อยค่ะ...แต่ถ้าให้ตอบ ก็จะบอกว่า ..ไข่ีนกตีนเทียน.. เพราะสังเกตดูจาก รังที่วางไข่ ..ไม่นิยมทำรังแบบลงทุนมาก..

ส่วนนกสีสวย..อะไรหล่ะนี่...ทีเห็นแถวปักษ์ใต้บ่อยๆ ก็จะเป็น พญาไฟใหญ่ เพศผู้  สีแดงแสบตา เรียกความตื่นเต้นได้ดี เพราะสีนี่หล่ะค่ะ  พบได้ทั่วไปในป่าใหญ่  เวลาไปดูนกเช่น ป่าบาลา ..เพราะน้องแอ๊ดบอกว่า เป็นนกอพยพของที่กำแพงแสน...หน้านี้นกอพยพเยอะด้วยซิค่ะ.. ทำให้นึกถึงทริบที่พะเนินทุ่งเสียจริงๆเชียวค่ะน้องแอ๊ด

สีสันจากธรรมชาติ ช่างสดใสจริงๆ แถมอุดมด้วยสารที่มีประโยชน์มากมาย ดูน่าชวนชิมจริงๆ :-))

สวัสดีค่ะ น้องหนูรี  อืมม์ ..ขนมปัง ปอนด์นี้คิดถึงว่า อุดมด้วยสาร GABA หอมกลิ่นข้าวกล้องแน่ๆเลย ขอบคุณแม่ครัวในดวงใจ ใส่ใจสุขภาพ ที่มีเมนูอร่อยๆ น่าทาน เสนอวิธีการทำตามได้อย่างสนุก ดูแล้วน่าทาน....  ได้เวลาทานกาแฟเช้านี้แล้วหล่ะค่ะ  จิบกาแฟไปก็อ่านบันทึกไปค่ะ  ตื่นเช้ามาก็เจอสิ่งที่ถูกใจ  ขอบคุณมากมายนะค่ะ ชาวถ้ำ .....จากคนริม เลค่ะ  :-))

สวัสดีค่ะคุณหมอ ป.

ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยือนและฝากความเห็นไว้  ถ้าไม่มี ขี้พร้าไฟ หรือ ฟักข้าว และไม่ชอบมะเขือเทศ  ผลไม้ชนิดอื่นที่มีสารไลโคพีน เช่น แตงโม หรือ ผลฝรั่ง ซึ่งมีรายงานการพบสารไลโคพีนมากเช่นกันค่ะ  เพียงแต่เมื่อเทียบกับปริมาณ ไลโคพีนจากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวจะมีมากกว่า   อ้อ  ฝรั่งขี้นก  ฝรั่งไทยๆที่ลูกเล็กๆสีแดงๆเรื่อๆ (เมื่อก่อนชอบทานก้นมาก สมัยเด็กๆ) ก็จะมีสารไลโคพีนค่ะ  

  • คงจะอร่อยมากน๊ะครับ อาจารย์

ไข่นกอยู่บนพื้นดิน ครับ ใบ้ว่านกเสียงดังมากๆ

555

พี่ครับ บ้านพี่อยู่ชุมพร แถวๆๆไหนครับ

จำได้ว่าพ่อพี่เคยเป็นผอ.ด้วย

สวัสดีค่ะน้องแอ๊ด

บ้านพี่ อยู่ที่อำเภอหลังสวนค่ะ และอยู่ที่บ้านสวน ที่ห่างออกมาจากตลาดสัก 15 กม. ค่ะ เสียดาย ช่วงที่น้องแอ๊ดทำกิจกรรมอบรมครูฯ   พี่ยังอยู่ที่ปัตตานีค่ะ (ต้องทำหน้าที่รักษาราชการงานเมือง ในช่วงที่ส่วนใหญ่ ก็ลาพักผ่อนกัน)   กว่าพี่จะได้กลับไปเยีียมบ้านก็ช่วงสงกรานต์โน่นหล่ะค่ะ  คงคลาดกันกะน้องแอ๊ด.. คงมีสักวันที่ได้เจอกัน.. "in person" ...  ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ :-))

น่าจะหาทานยากนะคะ พอเป็นน้ำ สีคล้ายบีทรูส หรือเสาวรสที่สีเข้ม ๆ ค่ะ หากมีโอกาสได้ดื่ม คงชื่่นใจนะคะ

แวะมาเยี่ยม และฝากข่าวกิจกรรมค่ะ

http://www.gotoknow.org/posts/532394

ไม่ได้ค่อยเข้า G2K เช่นกันค่ะ เห็นว่าช่วงนี้ น่าจะปิดเทอมแล้ว เลยหากิจกรรมมาปิดท้ายโครงการ ก่อนจะเร่งทำหนังสือ e book ให้ได้อ่านกันค่ะ สาระน่ารู้ในบันทึกอาจารย์มีมากมายจริง ๆ ช่วยเลือกให้เป็นคุณูปการแก่หนังสือ Happy Ba สัก ๕ บันทึกนะคะ ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ 

สวัสดีค่ะอาจารย์ Sila

ขอบคุณที่แวะมาเยือน นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆจะเตรียมน้ำขี้พร้าไฟ หรือ ฟักข้าวไว้ต้อนรับค่ะ  อืมม์...ดับความร้อนหน้านี้ด้วยค่ะ...ส่วนเรื่องการเลือกบันทึกนั้น  จะได้เลือกและรวบรวมส่งไปให้นะค่ะ..:-))

เพิ่งกลับมาจากหลังสวนชุมพร เดือน พค. จะไปอีกครับ

อบรมภาษาอังกฤษผู้บริหารชุมพรเขต 2(2)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท