ดอกไม้


02 ชฎารัตน์ ปุระมาปัด
เขียนเมื่อ

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข

ในสังคมปัจจุบันนี้มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ  (Information Technology =IT) ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตของเราเป็นอย่างดี เช่น ด้านการศึกษา ด้านการทำงานต่างๆ และการติดต่อสื่อสาร เป็นต้น  ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในหน่วยงานภาครัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชนอย่างมาก 

  พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทในงานด้านการส่งเสริมสุขภาพอนามัย การป้องกัน ควบคุม การรักษาโรคภัย และการฟื้นฟูสมรรถภาพของประชาชนมากขึ้น ซึ่งการที่จะทำให้งานมีศักยภาพรวดเร็ว ทันสมัยและเป็นปัจจุบันมากที่สุด ควรจะมีการสร้างและนำเสนอบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง  เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคที่อุบัติการณ์ขึ้นใหม่ เพื่อประชาชนจะได้มีความรู้ที่รวดเร็วและสามารถป้องกันได้ทันท่วงที การรวบรวมการสร้างฐานข้อมูล เพื่อใช้งานจัดเก็บข้อมูลเรื่องต่างๆของผู้มารับบริการ แทนวิธีการเก็บข้อมูลแบบเก่าหรือแบบที่เป็นเอกสาร และงานด้านการวิจัยก็ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมากโดยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เป็นต้น ดังนั้นหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขจึงได้มีการพัฒนาเว็ปไซต์ www.moph.go.th และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้างและนำเสนอบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนให้ได้อย่างทั่วถึง โดยตระหนักถึงประชาชนทุกกลุ่มทุกอาชีพ

อย่างไรก็ตาม  การที่จะพัฒนาเว็ปไซต์และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องใช้งบประมาณสูงและใช้เวลาในการเตรียมการนาน  ซึ่งในปัจจุบันสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่  โครงการต่างๆ ก็ยังต้องชะลอตัว  แต่การสร้างแผนงานและวิสัยทัศน์ที่ดีเกี่ยวกับการทำให้หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็สามารถปฏิบัติได้  สิ่งที่ควรตระหนักและสร้างความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ  คือ ข้อมูลที่เป็นความจริง  ถูกต้อง  แม่นยำ  โปร่งใส และเป็นปัจจุบันที่สุด ซึ่งก็จะทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีมากขึ้น  เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

 

10
2
02 ชฎารัตน์ ปุระมาปัด
เขียนเมื่อ

ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ

       วันพฤหัสบดี ที่ 2  สิงหาคม  2555  ที่ผ่านมา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆอีก 7 คน ก็ได้นัดหมายกันไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติ เวลา 18.00 น.ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา โดยในงานนั้นจะมีงานปั้นและแกะสลักเทียนนานาชาติ  ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว  จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2555  ที่ทุ่งศรีเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี   ซึ่งเป็นประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี  จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการแสดงศิลปะการแกะสลักเทียนและวัฒนธรรมการแห่เทียนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อที่จะได้เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่มีความงดงามล่ำค่าไว้สืบเนื่องต่อกันไปสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน เมื่อข้าพเจ้าได้รู้ว่าจะได้ไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาตินี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกตื่นเต้นและตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นเยาวชนคนอุบลราชธานีมากขึ้น เพราะการทำกิจกรรมนี้ก็เท่ากับว่าเราต้องไปเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมของเราด้วย ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ากดดันมากขึ้นเพราะกลัวว่าจะทำไม่ได้  แต่ว่าในลึกๆของก้นบึ้งของหัวใจของข้าพเจ้าได้สั่งออกมาว่าจะต้องทำให้ได้ และต้องทำให้ได้ดีที่สุดด้วย   เมื่อเป็นคำสั่งแล้วก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องสู้ต่อไปเพื่อจะได้พบเจอกับความสำเร็จ  พอถึง เวลา 18.00 น.  พวกเราก็รวมตัวกันได้แล้วจากนั้นก็พากันเดินไปทักทายและสนทนากับชาวต่างชาติ 

                

                 

        ในขณะที่ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ เดินหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะสนทนาด้วยนั้น  ก็มีอุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะเดินไปหาใครก็บอกว่ารีบๆๆบ้าง  ไม่สะดวกบ้าง  และอื่นๆ อีกต่างนานา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ก็ได้แต่น้อยใจ และคิดตั้งคำถามว่าเพราะอะไร ถึงได้มีอุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะถามไปแล้ว 3-4  คน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถสนทนาได้เลย จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ก็ได้เจอกับชาวต่างชาติคนที่ 5 เธอเป็นผู้หญิง ที่น่ารักมากในสายตาของข้าพเจ้าและน่าจะเป็นคนใจดี ก็เลยคิดว่าคนนี้น่าจะสามารถสนทนากับกลุ่มของข้าพเจ้าได้ ก็เลยเดินไปหา ความรู้สึกตอนนั้นทั้งตื่นเต้นและเป็นกล้าๆกลัวๆ ที่จะสนทนากับเธอ "จะทำยังไงกันดีนะ" พูดกับเพื่อนๆ  ข้าพเจ้าก็เลยตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปถามเธอ ข้าพเจ้าคิดอยู่ในใจว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  แล้วพอเดินไปถึงเห็นเธอยืนอยู่กับคนไทย ก็เลยเข้าไปพูดคุยกับคนไทยนั้นก่อน  จากนั้นคนไทยคนนั้นก็ได้สนทนากับเธอ แล้วเธอก็เลยมองมาที่พวกเรา ต่อจากนั้นพวกเราจึงได้สนทนากับเธอ  และได้ขออนุญาตในการสนทนาเธอ เธอก็อนุญาตให้สนทนากับเธอได้เป็นไปอย่างที่ข้าพเจ้าคิดไว้ไม่มีผิดว่าเธอจะเป็นคนที่ใจดี  หลังจากนั้นข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ยิ่งพากันตื่นเต้นมากขึ้นกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้  เพราะตอนนี้ได้อยู่และพูดคุยใกล้ๆกันกับชาวต่างชาติ   บทสนทนาของกลุ่มพวกเราก็เป็นประโยคที่พื้นฐานทั่วไป   เช่น

  • May I have your name , please?
  • Where are you from ?
  • Where do you stay  in Ubon Ratchathani ?
  • What do you think of the Candal Festival?
  • How  do you get the infomation of the the  Candal Festival?
  • How many times have you been to the Candal Festival?

        ขณะที่เราทำการสนทนานั้นก็ได้มีการบันทึกวิดีโอไว้   ความรู้สึกตอนที่บันทึกก็เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งของพวกเราที่มีความรู้สึกตื่นเต้น และกังวลมาก แต่ก็คิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าจะต้องทำให้ได้ หลังจากที่ทำการบันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว  พวกเราก็ได้ร่วมกันถ่ายภาพกับเธอคนนั้น ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมากอีกรูปหนึ่ง เพราะกว่าจะได้มาก็ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆมากมาย

                 

        หลังจากที่ได้ไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติครั้งนี้  ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆก็ได้คำตอบที่น่าประทับใจมากจากเธอ คือ  เธอชื่อ Diana. Washington-DC. America.   เธอเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน   เธอพักอยู่ที่อำนาจเจริญ  และเธอบอกว่าเธอชอบศิลปะการแกะสลักเทียนและประเพณีการแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานีมาก  เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตาและสวยงามมาก  โดยการไปสนทนาครั้งนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นคนไทย และคนจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้เห็นประเพณีอันสวยงามและล่ำค่านี้  ซึ่งขณะนั้นก็ทำให้ข้าพเจ้าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย เพราะอย่างน้อยเราก็เป็นส่วนหนึ่งของเยาวชนที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี  และจากที่ตื่นเต้นและกลัวๆนั้นก็หายไปหมดเลย  ทำให้การสนทนาครั้งนี้ของกลุ่มข้าพเจ้าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี  ขอขอบคุณ ผศ. วิไล  แพงศรี  มากนะค่ะที่ได้ให้ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมดีดีนี้คะ

               

 

                 

 

                

    ข้อมูอภาพจาก @Chadarutalbum : Thursday 2th August 2012

11
5
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท