อนุทินล่าสุด


นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ


“น้ำหวาน” ฆ่ามด ที่เผลอตน

“คำหวาน” ฆ่าคน” ที่เผลอใจ  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ



ความเห็น (2)

ทำให้ดีที่สุด ใครไม่รู้ แต่เรารู้อยู่แล้ว

ทำให้ดีที่สุด ใครไม่รู้ แต่เรารู้อยู่แล้ว

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

ค่าของคน อยู่ที่ผลของใจ

     ค่าของใคร อยู่ที่ใจของเขา

            ขายไข่ปิ้ง ก็สุขได้ถ้าจิตใจดี ตำแหน่งใหญ่เป็นรัฐมนตรี จะสุขไหมถ้าใจขี้โกง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

ค่าของคน อยู่ที่ผลของใจ

     ค่าของใคร อยู่ที่ใจของเขา

            ขายไข่ปิ้ง ก็สุขได้ถ้าจิตใจดี ตำแหน่งใหญ่เป็นรัฐมนตรี จะสุขไหมถ้าใจขี้โกง



ความเห็น (1)

แต่ไม่รู้จะจริงไหมนะ ว่าค่าของคนอยู่ที่ใจ หรืออยู่ที่คนของใคร?

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

คนเรา   นั้น   มอง   แต่หน้า   ไม่รู้ใจ  ได้

คำคำนี้  ใช้ได้ตั้งแต่อดีต   จนถึงปัจจุบัจบัน

ความหมายและคำแปลนั้นสื่อได้ตรงๆๆ เลยนะค่ะ



ความเห็น (2)

คนเราต่อหน้าเรา บางครั้งทำแสนดี แต่.........ก็ทำอีกอย่างหนึ่ง ปัจจุบันมีให้เห็นอยู่มากมาย
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราจะต้องศึกษาอีกอย่างหนึ่ง คือ ตัวค

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

 

คนเราน้ัน  รู้จักแต่ภายนอกนั้นไม่ได้

การมองคนนั้น  ก็จะมองแต่ภายนอกไม่ได้

เพราะฉะนั้น  การที่เราจะรู้จักคนๆหนึ้งจะต้องศึกษา  เค้าก่อน

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

ข้อคิดดีดีในการสร้างความสุข

1. รักตัวเองให้มาก คุณจะต้องรักตัวเองก่อน ถึงจะมีความสุขได้ เพราะความสุขจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ คุณมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็นเท่านั้น ดังนั้นควรเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อดีและข้อเสียของตัวเอง และเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เห็นคุณค่าของตัวเองให้มาก และไม่ว่าใครจะพูดหรือทำอะไรให้คุณรู้สึกไม่ดีก็ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจ จำไว้ให้ดีว่า คุณค่าของคุณขึ้นอยู่กับมุมมองของตัวคุณเองนั่นแหละ

2. คาดหวังให้น้อยลง ชีวิตคนเราต้องพบกับความผิดหวังอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ เพราะสิ่งไม่คาดฝัน รวมทั้งอุปสรรคจะวนเวียนเข้ามาในชีวิตของเราอยู่เสมอ ดังนั้นไม่ควรคาดหวังสูงนัก เวลาที่ผิดหวังจะเสียใจจนรับไม่ไหวเปล่า ๆ ควรพยายามคาดหวังให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

3. เต็มใจช่วยเหลือคนอื่นตลอดเวลา คุณไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดว่าถ้าคุณช่วยเขาแล้วคุณจะได้อะไร ช่วยแค่เพราะอยากทำอะไรดี ๆ ให้ใครสักคนก็พอแล้ว ลองหวังดีช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลดูบ้าง เชื่อเถอะว่าจะทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากกว่าที่คิด

4. ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา ก็ควรมองหาข้อคิดดีๆ ที่ได้จากมัน เพราะในขณะที่เรื่องดีๆ ทำให้คุณยิ้มได้และมีกำลังใจจะสู้ชีวิต เรื่องร้ายๆ ก็เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้คุณเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเช่นกัน

5. พยายามเข้าใจคนอื่นให้มากขึ้น หลายครั้งอาจยากที่จะทำใจไม่ให้โมโห เวลาที่มีคนมาทำให้คุณหงุดหงิด อย่างเช่นเวลาที่มีคนขับรถปาดหน้าคุณ แต่ก่อนจะโมโหควรพยายามมองพวกเขาในแง่ดีก่อน เขาอาจมีธุระเร่งรีบจริงๆ หรือเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งวันแล้วก็ได้ ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง คุณจะได้รู้สึกโกรธให้น้อยลง และเห็นใจคนอื่นให้มากขึ้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

 

10 วิธีแก้ ถ้ามีเบอร์ประหลาดโทรเข้ามาในมือถือของเรา

 

 

  1. ถ้ามีเบอร์ประหลาดโทรมา เราก็รับไป พอรับเสร็จแล้วก็ให้มันเสียตังค์ไป ไม่ต้องคุยกับมันนะ รับปุ๊ป วางสายปั๊ปเลย

  2. รับไปแล้วก็ทำพูดเป็นภาษาเอเลี่ยนไปให้มันงง

  3. พูดกับมันว่า "รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมคะ ?"

  4. พูดกับมันว่า "สวัสดีค่ะ สำนักพิมพ์.....(แล้วแต่จะใส่ว่าสำนักพิมพ์อะไรนะ)จะสั่งซื้อหนังสืออะไรดีคะ มีเล่มใหม่ล่าสุดคือ.............(เอาเล่มอะไรไปก้ได้แล้วแต่จะคิด)ค่ะ

  5. พูดภาษาญี่ปุ่น ภาษอังกฤษ หรือภาษาอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ภาษไทยให้มันฟัง

  6. พูดว่า "เฮ้ย!!! จะโทรมาขัดจังหวะทำไมฟระ ผัวเมียกำลังตีกันอยู่เฟ้ย!!!!!!"

  7. พูดกับมันว่า "สวัสดีครับ นี่คือสถานีตำรวจครับ มีอะไรให้ช่วยหรือครับ" พูดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย เผื่อมันจะเป็นพวกโรคจิต ชอบโทรมาก่อกวนเรา 555+

  8. พูดว่า "ขอโทษค่ะไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ Sorry could not be contected at this time."

  9. พูดว่า "ผ้าอ้อมสวมง่าย มามี่โพโกะ เพล้น" อย่าลืมทำเสียงให้เหมือนในโฆษณาด้วยนะคะ

  10. พูดให้เหมือนกับคนยุคโบราณกำลังคุยกับมันอยู่ เช่น "ณ เพลานี้ เจ้าบังอาจคุยกับข้ารึ ทหาร! ไปจับมันมาเด็ดหัวทิ้งซะให้สิ้นซากเดี๋ยวนี้"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

ครู หรือ ครุ หรือ คุรุ เป็นคำนาม หมายถึง ผู้สั่งสอน สำหรับวันครูนั้น ตามความเชื่อโดยทั่วไปของไทย ถือว่าวันพฤหัสบดี คือ วันครู หรือ ครุวาร

 

ความหมายของดอกไม้ไหว้ครู

ดอกมะเขือ



ดอกมะเขือ เป็นดอกที่โน้มต่ำลงมาเสมอ ไม่ได้เป็นดอกที่ชูขึ้น คนโบราณจึงกำหนดให้เป็นดอกไม้สำหรับไหว้ครู ไม่ว่าจะเป็นครูดนตรี ครูมวย ครูสอนหนังสือ ก็ให้ใช้ดอกมะเขือนี้ เพื่อศิษย์จะได้อ่อนน้อมถ่อมตนพร้อมที่จะเรียนวิชาความรู้ต่างๆ นอกจากนี้มะเขือยังมีเมล็ดมาก ไปงอกงามได้ง่ายในทุกที่ เช่นเดียวกับหญ้าแพรก


หญ้าแพรก

หญ้าแพรก เป็นหญ้าที่เจริญงอกงาม แพร่กระจายพันธ์ ไปได้อย่างรวดเร็วมาก หญ้าแพรกดอกมะเขือจึงมีความหมายซ่อนเร้นอยู่ คนโบราณจึงถือเอาเป็นเคล็ดว่า ถ้าใช้หญ้าแพรกดอกมะเขือไหว้ครูแล้ว สติปัญญาของเด็กจะเจริญงอกงามเหมือนหญ้าแพรกและ ดอกมะเขือนั่นเอง


ดอกเข็ม

 

 

 

 

 

ดอกเข็ม เพราะดอกเข็มนั้นมีปลายแหลม สติปัญญาจะได้แหลมคมเหมือนดอกเข็ม และก็อาจเป็นได้ว่า เกสรดอกเข็มมีรสหวาน การใช้ดอกเข็มไหว้ครู วิชาความรู้จะให้ประโยชน์กับชีวิต ทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม

ข้าวตอก

 
ข้าวตอก เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วคนเรามักจะมีความซุกซน ความเกียจคร้าน เป็นสมบัติมากบ้าง น้อยบ้างก็ตาม ตาเมื่อเขามีความต้องการศึกษาหาความรู้ เขาก็ต้องรู้จักควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบ ในระเบียบหรือในกฎเกณฑ์ที่สถาบันได้กำหนดไว้ ใครก็ตามหากตามใจตนเอง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวเปลือกที่ถูกคั่ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นข้าวตอก

 



 

 

 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และ เบาขึ้น

1. เก็บของที่ไม่ใช้ เลิกใช้ เอาไปบริจาคให้ผู้เดือดร้อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้าเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อย่าไปเสียดายกับของที่ไม่ใช้แล้วเลย

2. ลดงานที่เครียดๆ ลงบ้าง เช่นงานประชุมที่เอาจริงเอาจังงานที่แข่งขันและหวังผลสูงถ้าเลือกได้ลาออกจากการเป็นกรรมการอะไรต่อมิอะไรเสียบ้างก็ได้บรรยากาศของการประชุมมักจะเครียดเสมอสารความเครียดก็หลั่งตลอดเวลา...รู้ไหม?

3. เลือกไปงานที่สำคัญและควรจะไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย

4. อ่านหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารให้น้อยลง โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมหรือข่าวเครียดๆ ที่ซ้ำกันทุกวัน

5. เลิกดูรายการทีวี.ที่เครียด หรือรายการข่าวหนักๆ ที่ซ้ำๆ กันทุกวัน เช่นรายการที่มีพิธีกรมานั่งเถียงกัน พูดแข่ง พูดแซวกัน 2-3 คน ดูไปฟังไปแทนที่จะสบายใจกลับเครียดมากขึ้น น่าเบื่อด้วยซ้ำ

6. อย่ารับปากหรือสัญญา ว่าจะทำอะไรให้ใครๆ ง่ายๆ ด้วยความเกรงใจเลยหัดปฏิเสธให้เป็น

7. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นเลย ทำได้ยากมากจะทำให้เราจมปลักอยู่กับความผิดหวังในตัวคนอื่นและเกลียดชังสังคมรอบตัว พยายามรักคนอื่นและยอมรับเขาตามความเป็นจริงเถิด ถ้ารักไม่ลงก็มองข้ามเขาไป และลดความคาดหวังในตัวเขาลงด้วย เมื่อเวลาผ่านไปเราหันไปมองเขาใหม่ เราจะเข้าใจยอมรับและรักเขาตามความเป็นจริงได้มากขึ้น

8. หัดไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นเพื่อนตนเองได้ จะลดขั้นตอนและความยุ่งยากใจ เวลาจะต้องทำอะไรหรือไปไหนได้มากขึ้น

9. ลดความบ้างาน บ้าเงิน บ้าอำนาจ บ้าเกียรติยศชื่อเสียงลงบ้าง จะทำให้คุณไม่เครียดกับการเฆี่ยนตัวเองให้ทำงานหนัก และแข่งขันกับคนรอบข้างตลอดเวลา จนลืมสร้างมิตรและไม่เคยพอใจตัวเองเลยไม่ว่าจะได้มามากเท่าไร

10. ถ้าจะรักใครสักคนอย่าหลงรักเขาทั้งหมดของชีวิต และอย่าเข้าไปก้าวก่ายชีวิตเขาด้วย จงคิดเพียงจะอยู่ข้างๆ เขาก็พอแล้วการรักแบบนี้จะทำให้รักกันได้นานๆ

11. ลองแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ล้างจิตใต้สำนึกที่ไม่ดีออกไปให้หมดลองทำดูตามที่แนะนำมานะครับ เราจะรู้สึกว่าชีวิตโล่งและเบามากขึ้น เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่คับแคบหรือรัดรึง อึดอัด เวลาตัวเองเบาๆ ใจสบายๆ ความคล่องตัวจะมีมากขึ้นจนคุณแปลกใจตัวเอง



ความเห็น (1)

อย่าคิดมากในบางเรื่อง ปล่อยวาง เสียดีกว่า อิอิอิ

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ



ความเห็น (1)

คิดเหมือนกันหรือเปล่า.........หรือเปล่าน่ะ

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ



ความเห็น (2)

มีหรือยังคนปลอบใจ ถ้ายังไม่มี มองดูคนข้างๆนะค่ะ

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

กําลังใจ ให้เธอนะ

เก็บแรงเอาไว้บ้างนะ
ลืมมันซะแล้วเริ่มต้นใหม่
ชีวิตยังมีวันต่อไป
ยังไม่ท้อก็สู้ใหม่ด้วยใจเธอ

คิดเล็กคิดน้อยอะไรอยู่
ฉันเองก็พอรู้ถึงปัญหา
คิดมากทำไมเสียเวลา
ชีวิตเธอยังมีค่าอย่าไปแคร์

ฉันก็คนเธอก็คนบ่นทำไม
ก็เคยเจ็บตัวเจ็บใจมาทั้งนั้น
อยู่ที่เธอจะสู้หรือหนีมัน
ชีวิตเราก็เท่านั้น...อย่ากังวล

เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง
ให้มันไหลลงไหลลงไหลลงไปเลยได้ไหม
เอาความผิดหวังที่คั่งค้างใจ
โยนทิ้งมันไปให้สายน้ำวน


แม้จะผ่านเนิ่นนานเท่าไร
หากเธอยังไม่เปลี่ยนใจไปจากเขา
เธอเจ็บน่าดู...เค้ารู้หรือเปล่า
มีประโยชน์มั้ยเล่า..ต้องเศร้าใจ

ดิ้นรนไขว่คว้าไปทำไม
เกิดแต่ตัวตอนตายก็เท่านั้น
ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ซักอัน
คิดมากก็เท่านั้น...คิดทำไม

ความเศร้าเสียใจเป็นปัญหา
และมีโชคชะตาที่โหดร้าย
คนอื่นจ้องแต่ทำลาย
แต่เธอยังมีใครคอยห่วงเธอ

อย่าทำตัวเองอย่างนี้
โอกาสหน้ายังมีอยู่เสมอ
หนทางข้างหน้าเป็นของเธอ
อย่ากังวลหากเจอปัญหาใด

ทำใจดีดีเข้าไว้
วันพรุ่งนี้จะเป็นไงใครจะรู้
สิ่งใดพลั้งสิ่งใดผิดคิดเป็นครู
วันข้างหน้ายังรออยู่สู้ต่อไป

ช่วงชีวิตที่ผ่านมาก็ผ่านพ้น
ชีวิตคนทุกคนมีจุดหมาย
เธออย่าคิดว่าชีวิตมันเดียวดาย
สู้ให้ถึงจุดหมายไปด้วยกัน

จุดเล็กเล็กของชีวิตคือปัญหา
เป็นเศษผงผ่านตาก็เท่านั้น
มองให้เป็นจุดเล็กเล็กก็แล้วกัน
ในชีวิตเรานั้นยังอีกไกล

สองขายังอยู่ต้านทานไหว
ล้มลงครั้งใดยังยืนต่อ
ก้าวล้มอีกซ้ำน้ำตาคลอ
ยังคงไม่ท้อเดินต่อไป

สวรรค์ไม่มีคำตอบ
ชีวิตตีกรอบเองไม่ได้
ทุกทุกอย่างมีทางที่ต้องไป
อย่าให้ภายในใจต้องกังวล

ถ้าไม่ลุกเธออาจโดนเหยียบซ้ำ
เก็บความเจ็บไว้จำเพื่อทำใหม่
เพราะยุคนี้ยุคของคนสู้ต่อไป
อย่าท้อแท้เกินไป...มันไม่ดี

ใครจะรู้จักดี..อนาคต
ใครเล่าจะกำหนดเส้นทางได้
อย่าไปคิดเรื่องเก่า...ให้ผ่านไป
วันพรุ่งนี้ก็เริ่มใหม่...ให้ลืมมัน

เพราะคนเราไม่เท่ากัน
โลกจริงและฝันเข้ากันไม่ได้
จึงยังมีคนผิดหวังมากมาย
ชีวิตไม่ง่ายดายอย่างที่เป็น

ชาร์จแบตให้ใจเสียก่อน
ให้พักให้ผ่อนเสียบ้าง
หยุดไว้ให้ใจมีพลัง
ให้ชีวิตยังมีหวังเดินต่อไป

เห็นผู้คนเดินผ่านไปมา
ในเวลาที่เราอยู่เฉยเฉย
ลองลุกเดินตามทางอย่างที่เคย
อย่าเพิ่งหยุดเฉยจงเดินไป

งานเธอหนักหยุดพักก็ได้
พักให้สบายให้หายอ่อนล้า
ปล่อยวางซะบ้างเรื่องที่ค้างคา
เมื่อถึงเวลาค่อยมาทำงาน

ในสมองเธอกำลังสุมปัญหา
เป็นควันไฟขึ้นมายามสับสน
อย่าได้คิดให้ชีวิตมันวกวน
อีกไม่นานจะผ่านพ้นไปด้วยดี

หากความหวังยังอยู่คู่ฟ้า
อนาคตยังแรงกล้าแสงสดใส
สองเท้ายังคงก้าวย่างต่อไป
ความสำเร็จคงไม่ไกลเกินฝ่าฟัน

หนึ่งหยดน้ำร่วงหล่นบนพื้นหญ้า
ไหลรวมเป็นสาขาสู่แม่น้ำ
รวมทุกสายสู่ท้องทะเลคราม
เหมือนหนึ่งความพยายาม...จะก้าวไกล

มองไปข้างข้างตัวเธอ
หลายสิ่งที่พบเจอคือปัญหา
มองไปข้างหลังทางที่มา
นั่นแหละสอนเธอว่าควรทำไง

เราหยุดเพื่อคิดผิดเพื่อแก้
จงดูแลหัวใจไว้ให้มั่น
วันพรุ่งนี้ยังไม่สายเกินแก้ทัน
สู้ต่อไปให้ถึงฝันอย่างตั้งใจ

ทุกปัญหาใช้เวลาคอยแก้ไข
บางครั้งต้องปล่อยผ่านไปไม่ต้องเห็น
อุปสรรคหนักไปไม่ยากเย็น
ตั้งหัวใจให้เป็นก็ผ่านไป

 

 

 



ความเห็น (1)

อย่าคิดมากนะค่ะ ทำๅไปเดี๋ยวก็ดีเองจ้า

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

                              ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้

                             แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน

                        คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น

                        แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

วิธีทำให้ชีวิตโล่งและเบาขึ้น

ใช้ไปแล้วไปบริจาคที่ไหนสักแห่งแต่ก็ยังไม่ได้ทำสักที เอาล่ะ...วันนี้เริ่มทำเสียที... ปรากฏว่า รื้อ ค้น ได้เสื้อ กางเกง เสื้อกันหนาวมากมายที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือไม่อยากใช้แล้วนับเป็นร้อยชิ้น เมื่อเอาของออกจากบ้านไปบริจาคแล้วมีความรู้สึกว่าตู้เสื้อผ้าโล่งขึ้น ตัวเองก็เบาลง ใจก็สบายขึ้นอย่างประหลาด รู้แล้วล่ะ สิ่งที่ทำไปแล้วนั้นคือ การทำให้ชีวิตโล่งและเบาขึ้นนั่นเอง

วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และ เบาขึ้น

1. เก็บของที่ไม่ใช้ เลิกใช้ เอาไปบริจาคให้ผู้เดือดร้อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้าเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อย่าไปเสียดายกับของที่ไม่ใช้แล้วเลย

2. ลดงานที่เครียดๆ ลงบ้าง เช่นงานประชุมที่เอาจริงเอาจังงานที่แข่งขันและหวังผลสูงถ้าเลือกได้ลาออกจากการเป็นกรรมการอะไรต่อมิอะไรเสียบ้างก็ได้บรรยากาศของการประชุมมักจะเครียดเสมอสารความเครียดก็หลั่งตลอดเวลา...รู้ไหม?

3. เลือกไปงานที่สำคัญและควรจะไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย

4. อ่านหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารให้น้อยลง โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมหรือข่าวเครียดๆ ที่ซ้ำกันทุกวัน

5. เลิกดูรายการทีวี.ที่เครียด หรือรายการข่าวหนักๆ ที่ซ้ำๆ กันทุกวัน เช่นรายการที่มีพิธีกรมานั่งเถียงกัน พูดแข่ง พูดแซวกัน 2-3 คน ดูไปฟังไปแทนที่จะสบายใจกลับเครียดมากขึ้น น่าเบื่อด้วยซ้ำ

6. อย่ารับปากหรือสัญญา ว่าจะทำอะไรให้ใครๆ ง่ายๆ ด้วยความเกรงใจเลยหัดปฏิเสธให้เป็น

7. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นเลย ทำได้ยากมากจะทำให้เราจมปลักอยู่กับความผิดหวังในตัวคนอื่นและเกลียดชังสังคมรอบตัว พยายามรักคนอื่นและยอมรับเขาตามความเป็นจริงเถิด ถ้ารักไม่ลงก็มองข้ามเขาไป และลดความคาดหวังในตัวเขาลงด้วย เมื่อเวลาผ่านไปเราหันไปมองเขาใหม่ เราจะเข้าใจยอมรับและรักเขาตามความเป็นจริงได้มากขึ้น

8. หัดไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นเพื่อนตนเองได้ จะลดขั้นตอนและความยุ่งยากใจ เวลาจะต้องทำอะไรหรือไปไหนได้มากขึ้น

9. ลดความบ้างาน บ้าเงิน บ้าอำนาจ บ้าเกียรติยศชื่อเสียงลงบ้าง จะทำให้คุณไม่เครียดกับการเฆี่ยนตัวเองให้ทำงานหนัก และแข่งขันกับคนรอบข้างตลอดเวลา จนลืมสร้างมิตรและไม่เคยพอใจตัวเองเลยไม่ว่าจะได้มามากเท่าไร

10. ถ้าจะรักใครสักคนอย่าหลงรักเขาทั้งหมดของชีวิต และอย่าเข้าไปก้าวก่ายชีวิตเขาด้วย จงคิดเพียงจะอยู่ข้างๆ เขาก็พอแล้วการรักแบบนี้จะทำให้รักกันได้นานๆ

11. ลองแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ล้างจิตใต้สำนึกที่ไม่ดีออกไปให้หมดลองทำดูตามที่แนะนำมานะครับ เราจะรู้สึกว่าชีวิตโล่งและเบามากขึ้น เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่คับแคบหรือรัดรึง อึดอัด เวลาตัวเองเบาๆ ใจสบายๆ ความคล่องตัวจะมีมากขึ้นจนคุณแปลกใจตัวเอง

                                  ลองทำดูสิ....

 

 



ความเห็น (2)

บางครั้งเราควรให้เวลากับตัวเองบ้าง

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

                 

ชัยชนะ..เป็นของคนที่....อึดที่สุด...

  • ความสำเร็จ...เกิดจาก...
  • อัจฉริยะ1 ส่วน
  • ที่เหลือ 9 ส่วน...เกิดจาก....
  • หยาดเหงื่อ...แรงงาน...และน้ำตาล้วนๆ...

 

  • ความยากลำบาก...เป็นมหาลัยชั้นสูง...
  • ในการฝึก...ยอดคน

 

  • ความสำเร็จ...เกิดจากความยากลำบาก...
  • ไม่มีความสำเร็จใด..ตกมาจากฟากฟ้า...

 

  • ไม่มีชัยชนะใด...ได้มาโดยไม่ต้องต่อสู้...
  • ไม่มีความสำเร็จใด...ได้มา...โดยไม่ต้องลงแรง

 

  • ความสำเร็จ...เกิดจาก..การลงมือทำ...
  • ไม่ใช่แรงอธิษฐาน...

 

  • ความสำเร็จ...มันอยู่ไกล..เกินไปถึง....
  • กับคนซึ่ง...นั่งหงอย...และคอยหา...
  • ความสำเร็จ...จะมาอยู่...แค่ปลายตา...
  • กับคนที่...คิดว่า...ต้อพยายาม...

 

  • เกิดในที่...ที่ดี...นั้นดีแน่...
  • เกิดในที่...ที่แย่...ก็ดีได้...
  • เกิดที่ดี...แล้วแย่...มีถมไป....
  • เกิดที่ไหน...ก็ดีได้...ถ้าใฝ่ดี...

 

  • ผลลัพธ์แห่ง..ความสำเร็จ....
  • ยิ่งใหญ่เกินกว่า...ที่ตามองเห็น....

 

  • คนที่จะประสบความสำเร็จ....
  • ต้องมีเป้าหมายในชีวิต...

 

  • ผู้ที่ปฎิเสธ...ไม่ทำตามความฝัน....
  • จะไม่มีทางประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้...

 

  • อดีต...ไม่สำคัญ...ว่าเราเคยเป็นใคร...
  • แต่สิ่งสำคัญ..มันอยู่ที่ว่า...
  • วันนี้...เราจะเป็นใคร...?
  • และวันพรุ่งนี้..เราต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน....

 

  • คนที่ชอบทำงานง่ายๆๆ...
  • จะเป็นได้แค่ลูกจ๊อกเขา...ตลอดชีวิต...

 

  • ผลงานล้ำค่า...ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้...
  • ล้วนเกิดจากมือ...ของคนที่ชอบทำงานหนัก...

 

  • คนที่ประสบความสำเร็จ...
  • ไม่ใช่แค่เป็นนักฝัน...
  • แต่เขาเริ่มด้วยการ...ลงมือทำ...

 

  • เอาแต่พูด...เอาแต่ท่องทฤษฎี..ไม่ลงมือปฏิบัติ...
  • ไม่มีทาง...ประสบความสำเร็จ

 

  • ความสำเร็จเริ่มต้นเมื่อ...
  • คุณเชื่อว่า...คุณทำได้...

 

  • จุดอ่อนของคนที่...ไม่ประสบความสำเร็จคือ...
  • การยอมแพ้...

 

  • คนที่ประสบความสำเร็จ
  • พยายามอีกครั้ง...เสมอ...

 

  • ความรับผิดชอบ...ทำให้...งานออกมาดี...
  • ความรัก...ทำให้...งานออกมา...สวย...
  • เป้าหมาย..ทำให้...สำเร็จ...โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย...

 

  • สาเหตุที่ทำให้คุณเห็นว่า...
  • อุปสรรค..เป็นเรื่องน่ากลัว...
  • เพราะ...คุณละสายตา...จากเป้าหมาย...


ความเห็น (1)

สาเหตุที่ทำให้คุณเห็นว่า...

อุปสรรค..เป็นเรื่องน่ากลัว...

เพราะ...คุณละสายตา...จากเป้าหมาย...

ชอบประโยคท้ายมากๆ ค่ะ

เหมือนกันประโยคที่ยังก้องในใจ

When you becoming old

The worst thing will be thinking "What if..."

( Even worse than you did and it failed )

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ


                             # โลกกลมๆใบนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ

                                     # อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง

                            # คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย

                        # ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ

                                # ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น

                                  # ในโลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีคำว่าแน่นอน

                            # ความปราถนาอย่างแรงกล้า นั่นแหละคือเหตุผล

                                     # คนเราเมื่อม้าตาย ก็ต้องลงเดิน

                            # คนเราจะไม่ต้องใช้สมองเลย ถ้าพูดแต่ความจริง

                 # ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้แต่อย่าริษยา พักได้แต่อย่าหยุด

                    # เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจจะไม่ใช่เหตุผลของคนอีกคนหนึ่ง

                      # ถ้าคุณไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร

                                      # ปัญหาทุกอย่าง ล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น

                                         # น้ำใจส่วนน้ำใจ เหตุผลส่วนเหตุผล

                                      # เรื่องดีหรือเรื่องร้ายทางที่ดีบอกกันก่อน

                       # หนทางยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ

                  # เราจะเห็นค่าความอบอุ่น ก็ต่อเมื่อเราผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว

                             # อันตรายที่สุดสำหรับชีวิตคนเรา คือ การคาดหวัง

                                       # เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย

                                     # สวรรค์นั้นพึ่งยาก คนนั้นพึ่งยากกว่า

                                  # อย่ายอมแพ้ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

                                              # จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์

   # เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน เบื้องหลังของสติ สมควรมีอารมณ์

                            # ไม่มีคำว่าบังเอิญในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่าตั้งใจ

                                # ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

                                            # หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใส

                                 # หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว

                                      # ไม่เป็นขุนนางน่ะได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้

                                         # มีแต่วันนี้ ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง

                                       # เมื่อวานก็สายเกินแก้ พรุ่งนี้ก็สายเกินไ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

                                       .. คนเรา 
                                       ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
                                       แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น 
                                       ที่ได้ทำ .. 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

 .. .. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเรา   คือ   การคาดหวัง    อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่    เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร.......



ความเห็น (1)

การทำงานของ ครู กศน. นั้น เปรียบเสมือน การปิดทองหลังพระ ที่สุดเลย จริงไหมค่ะ

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆๆๆๆ

                               

 

 

ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่มีการลงทุน

 

แต่หากเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราทำ และปรารถนาความสำเร็จ

 

เราต้องยอมจ่ายราคาในสิ่งนั้น

 

การที่ต้องอดทนในสิ่งใดนั้น...เราอาจต้องจ่ายราคาหลายอย่าง

 

อาจเป็นการสูญเสียความพึงพอใจ

 

สูญเสียความเป็นส่วนตัว ต้องยากลำบาก เสียเวลา ความคิด แรงกาย และแรงใจ

 

แต่หากสิ่งที่แลกมา   คือความมีคุณค่าและความสำเร็จ

 

การนั้นก็ควรค่าแก่ราคาที่ได้จ่ายไปกับความอดทนนั้น

 

 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

นางสาว สุนีย์ สุ กลัดแพ
เขียนเมื่อ

การทำงานแบบปิดทองหลังพระ.....

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท