@42648 ได้ยินมาว่าทางนาซ่าให้กระโดดค่ะ เช่นกระโดเชือก (jump rope) ให้เท้ากระแทกพื้นให้มาก (ให้มีแรง stress ลงกระดูก) แล้วจะกันปัญหากระดูกพรุนของนักบินอวกาศ

the morning routine will never be the same

กลับมาทำงานอย่างเป็นทางการเป็นวันแรก เมื่อคืนก็ย้ายมานอนที่หอ เช้านี้พาเจไปศูนย์เด็กเล็กของคณะพยาบาล พ่อเจษฏ์เกือบไปทำงานสาย (แต่ก็ยังไปทัน)

พรุ่งนี้น่าจะดีขึ้นเพราะไม่ต้องขนของมาออฟฟิศเยอะแยะแบบวันนี้

ไปเยี่ยมเจมา นอนหลับได้นานกว่าอยู่บ้านอีก (เพราะได้นมแม่ใส่ขวดไป 3 ออนซ์ก่อนนอน) แม่ไปเล่นด้วย ไปให้นม ก่อนจะกลับมานั่งเคลียร์งานต่อ แค่นั่งอ่านจม.แจ้งโน่นนี่ นั่งลง daybook ว่าตารางสอน ตารางลงคลินิก ตารางเช็คคลินิกนักศึกษา วันไหนบ้างก็มึนแล้ว มีแผนงานสอน แล้วก็เตรียม ppt slide อีก หยุดไปนานก็เป็นเช่นนี้แล

ไปทำงานมานิดๆหน่อยๆแต่ก็ยังได้กลับบ้านเร็ว วันนี้เป็นวันที่เป็น maternity leave วันสุดท้าย(แบบทางการ) วันจันทร์ที่จะถึงนี้จะต้องกลับไปทำงาน full time แล้ว วันอาทิตย์นี้ก็จะย้ายบ้านไปนอนที่หอพักเอเชี่ยนเกมส์อีกครั้ง น้องเจก็จะไปอยู่ศูนย์เด็กเล็กของคณะพยาบาล ยังดีทีงานยังไม่เยอะ คงไม่มีปัญหาปั้มนม และคงได้ไปเยี่ยมเจได้อย่างน้อยก็วันละครั้งสองครั้ง เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตอีกครั้ง บทนี้คงซัก 2-3 เดือน พอบ้านเสร็จก็จะเป็นบทต่อไป ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเนอะ (บอกตัวเอง)

วันนี้ไปอบรมวิธีการออกข้อสอบ multiple choice question โดยรศ. นพ. อานุภาพ เลขะกุล จากคณะแพทย์มอ.

ทำให้ดีนั้นยากมากๆ ฝึกออกข้อสอบข้อเดียวคิดจนมึน ต้องไปฝึกเยอะๆแล้วทะยอยทำคลังเก็บไว้เรื่อยๆถึงแม้ไม่ใช่เวลาใกล้สอบ

@42472 กรี๊ด นี่ขนาดนานๆเข้าเมืองทียังสยองเลยค่ะ

บันทึกรวบยอด สรุปประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สามเดือนเขียนทีเดียว

: P

(เจตมัยยิ้มละเมอระหว่างนั่งรถไประยอง)

เดินไปซื้อกับข้าวที่ตลาดวัดลุ่ม น่ากินไปหมด

ได้เมนูที่ยังไม่เคยทำเองแต่คิดว่าน่าจะนำไปทำเองได้คือ แกงส้ม (ตำกุ้ง) ลูกชิ้นปลาอินทรี ใส่หน่อไม้ซอยละเอียดกับใบชะอม อร่อยเหาะ ได้กากใย

อยู่ระยองอีกวันนึงแล้วก็ได้เวลากลับกรุงเทพไปทำธุระแล้ว

ที่นี่ฝนตกปรอยๆทุกวันค่ะ เจตมัยจะครบ 3 เดือนวันพรุ่งนี้

(เลี้ยงลูกวุ่นๆเพลินๆ เข้า GTK ไม่ถึง 30 ครั้งเลยมั้งเนี่ยะ 3 เดือนนี้)

แวะมาทักทาย นานๆได้เข้ามาอ่านซักที

หวังว่าทุกคนสบายดีนะคะ

อยู่ระยองต่อถึงศุกร์หน้า วันนี้ทานข้าวมันส้มตำปลาย่าง เคยกินกันไหมเอ่ย อยากรู้ว่ามันเป็นอาหารของภาคตะวันออกเท่านั้น?

ช่วงนี้มาเลี้ยงลูกอยู่ระยองเพราะเจษฎ์ไปอเมริกา เมื่อวันก่อนเดินทาง 2 วันพาไปเที่ยวสวนเลยมีรูปมาฝากค่ะ

@38323, @38328: รูปเจตมัยมาแล้วครับ

เช้าๆเจอารมณ์ดีมาก อ้อแอ้ในคอแล้ว ใครเล่นก็ได้ อยู่นิ่งๆคนเดียวก็ได้

กลางวันก็โอเค กินแล้วนอนมั่ง ไม่นอนมั่ง แต่ไม่ร้อง

ตอนเย็นๆค่ำๆนี่งอแง เป็นแบบนี้ 3-4 วันต่ออาทิตย์ กินหลายรอบมากถึงจะอิ่มยอมนอน ร้องจนนึกว่าโดนยุงกันรึเปล่า ลมเต็มท้องรึเปล่า แต่พอกินแล้วก็เงียบหลับตา แต่...อย่าตายใจ เจหลับแบบวางลงเตียงแล้วร้อง ต้องให้นมกินใหม่อีกแล้วก็จับเรอ แล้วค่อยวาง แล้วก็ร้องใหม่ เป็นแบบนี้ 2 - 4 รอบ แล้วพอจะหลับจริงขึ้นมาก็หลับซะเฉยๆ เวลาจะวางลงเตียงทีพ่อแม่นี่กล้าๆกลัวๆ คิดว่าเอายังวะ เอายังวะ  เหอะๆ

ฮาโหล เทส มาส่งเสียงเล็กน้อยค่ะ มาบอกว่ายังอยู่ดี : )

พอดีเจตมัยชีพจรลงเท้า ไปเขาใหญ่ ไปชะอำ ไปบ้านย่า ไปฉีดวัคซีน ไปดูบ้าน

ใช่แล้วค่ะ เจตมัยมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว หลังเล็กๆน่ารักดี เป็นบ้านเก่า 20 ปี ต้องแต่งต้องซ่อมอีกเยอะ ช่วงนี้เลยวุ่นไปดูบ้านแล้วก็คิดว่าจะทำยังไงกับมันบ้าง

ขอให้ผู้เข้าร่วม forum หนุกหนาน มีความสุข และได้งานนะคะ

เทคนิคกล่อมเจนอนที่ได้ผลทันตาคือให้ลง sling แล้วให้พ่อเดิน

เจจะหลับใน sling เลย ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง

เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เจตมัยออกเดินทางไกลเป็นครั้งแรก ให้ทานนมจนอิ่ม หลับแล้วจับลง car seat สามารถนั่งหลับไปได้จนถึงข้าวแกงบ้านสวน อยุธยา ก็ให้นมจนหลับอีกรอบก็หลับไปได้ถึงเขาใหญ่เลย ขากลับก็หลับรวดเลยถึงกรุงเทพฯไม่มีตื่นกลางทาง แถมคืนที่นอนอยู่ที่บ้านเขาใหญ่ เจตื่นทีเดียวตอนเที่ยงคืน แล้วก็ตีห้าครึ่ง 

ท่าทางลูกคนนี้จะชอบเดินทางจริงๆ

เจตมัยร้องไห้อยู่ 2 วัน พอแม่ตามใจให้ทานนมเมื่อต้องการ ก็กลับมาเป็นเด็กดีเหมือนเดิม วันก่อนเพื่อนน้องใหม่ที่มีลูกอายุ 3 wks ก็บอกว่าช่วงนี้ (2-3wks) จะติดเต้ามาก แล้วอยู่ดีๆก็ทำน้ำหนัก ตัวโตแข็งขึ้นมากเลย  confirm ที่ไปอ่านเจอว่า ทารกแรกเกิดไม่มี gradual growth แต่จะมีช่วง growth spurt แบบนี้ที่ร้องจะทานนมทุกชม. แล้วก็จะ clinging เป็นพิเศษ

โล่งใจที่ลูกไม่ได้เป็น colic เพราะถ้า colic จะร้องเวลาเดิมทุกวัน และร้องแบบกำไม่กำมือเกร็งไปหมด

เมื่อคืนเจนอนรอบแรก 5 ชม. คงหมดแรงเพราะแผลงฤทธิ์ไปตอนกลางวัน

วันนี้อ่านเจอว่า ถ้าอยู่ดีๆลูกให้ nurse บ่อยขึ้นมาเฉยๆ รู้สึก cling ขึ้นมาบ่อยกว่าปกติ ไม่ต้องตกใจ ในเด็กเล็กแรกเกิดเป็นเพราะจะมี growth spurt แต่ถ้าเป็นเด็ก toddler แปลว่าเด็กจะไม่สบาย

สงสัยเจจะมี growth spurt ทำน้ำหนักช่วงนี้แน่ๆ วันนี้ตอนเย็นก็ร้องจะทานนมท่าเดียว กว่าจะนอนแม่หมดนมเลย

เจตมัยอายุครบ 2 อาทิตย์พอดี ธรรมดานอนง่าย นอนนาน แต่วันนี้ฉลองอะไรไม่รู้ กลางวันนอนไปแค่ 2 รอบ รอบละ 2 ชม. (รอบ 8 โมง กับรอบเที่ยง) นอกนั้นตาแป๋ว จะทานนมท่าเดียว ถ้าอุ้มไม่ร้อง ถ้าวางลงเตียงแหกปาก วันนี้เหนื่อยกันทั้งบ้านเพราะสลับกันปราบเซียน ในที่สุดก็จัดการได้ด้วยการอาบน้ำอุ่นเป็นรอบที่สอง ให้ทานนม แล้วก็หลับไปตอนสองทุ่มกว่าๆ เจคงเหนื่อยมาทั้งวันหมดแรงพอดี

ไม่รู้จริงๆว่าวันนี้เจเป็นอะไร ผิดปกติมาก เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเยอะผิดปกติอะไรนี่นา (9pm-1am, 1:30-3:30am, 4:30-6:30am) คือก็เยอะเหมือนทุกๆวัน แม่กับยายเริ่มสงสัยว่าต้องใช้ pacifier รึเปล่าเนี่ยะ

เมื่อคืนเจนอนได้ตั้งแต่เที่ยงคืนครึ่งถึงตี 4:47 พ่อกับแม่เลยได้นอนอิ่มหน่อย ตื่นมาก็ไม่ร้อง (เป็นแบบ quiet alert) พอทำปากจ๊วบจาบก็ได้ทานนมต่อตอนใกล้ๆตี 5 อิ่มแล้วก็นอนตี 5:15 ยาวถึง 8 โมงเช้า

ขอให้เจเป็นเด็กดีแบบนี้ต่อไปเถิด เพี้ยง

แม่เลยว่างเขียนบันทึกระหว่างเจหลับไป 1 บันทึก เรื่อง ภาวะตัวเหลือง (Jaundice in healthy newborn)

ประสบการณ์อิ่มอุ่น (และในที่สุดเพลงเพลงนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป)

เจตมัยขอบคุณคุณน้า คุณอา คุณลุง คุณป้าทุกท่านสำหรับคำอวยพรนะครับ : )

@36539 อ่านแล้วจำได้ว่าเคยอ่านตอนเรียนเรื่อง Death and dying งานเขียนของท่าน Thay บทนี้ใช้ได้ดีในการคุยกับคนที่กำลังสูญเสียคนที่รักไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน (จริงๆเรื่อง impermanent และ interconnectedness ใช้ได้กับทุกเรื่องเนอะ) ขอบคุณพี่กะปุ๋มที่นำมาบันทึกไว้ที่นี่ค่ะ อ่านแล้วเย็นดีจัง

หายไปหลายวัน เจตมัยอายุ 3 วันแล้วครับ

สุดยอด นี่แหละอย่าตัดสินคนจากภายนอก

ดูแล้วจะร้องไห้

วันนี้เล่น Wii ไปแป๊บเดียว เจตมัยดิ้นมากกว่าปกติ!

คุณยายหมอบอกว่า เล่นไป เจอยากเล่นบ้างจะได้ออกมาเร็วๆ เหอะๆ

@36266 ประชาธิปไตยของฝรั่งด้วยกันก็ไม่เหมือนกันค่ะ (ของคนไทยด้วยกันนี่ไม่ต้องพูดถึง) คนส่วนมากคิดว่ามันคือการยอมรับเสียงหมู่มากแค่นั้นจบ แต่จะมีซักกี่คนที่เน้นสิทธิที่เท่าเทียมกัน การมีเสรีภาพของทุกคน และ การรับฟังเสียงของทั้งคนหมู่มากและคนกลุ่มน้อย

"Deep Democracy goes a step further in the effort towards fostering a deeper level of dialogue and inclusiveness that makes space for all people (with the individual right to vote) as well as all various and competing views, tensions, feelings, and styles of communication - in a way that supports awareness of relative rank, power, and privilege, and the potential of these forces to marginalize other views, individuals, and groups." - Mindell