๑๗. ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
ชอบข้อความนี้จังค่ะ
คำด่าเหมือนการส่งไปรษณีย์ หากไม่มีผู้รับก็จะส่งกลับไปหาผู้ส่งเอง
ไม่มีความเห็น
๑๖. ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เข้ามาในแวดวงของ GotoKnow อีกครั้งด้วยความขอบคุณ ดร.จันทวรรณ กับการจัดการเรื่องการเข้ารหัส ค่ะ ขอบพระคุณจริง ๆ
ไม่มีความเห็น
๑๕.ในที่สุดหลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัยและพ้ฒนาทางการศึกษา ที่ปั้นตั้งแต่ปลายปีก็เริ่มมีนิมิตหมายที่ดี ออกจากคณะกรรมการกลั่นกรอง เตรียมเข้าสภาวิชาการแล้ว....วววววว
ไม่มีความเห็น
๑๔. บันทึกให้พี่บูม
ในที่สุดพี่บูมก็สอบเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้อย่างน่าภูมิใจ ส่วนการตัดสินใจทิ้งไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคต..
ไม่มีความเห็น
๑๒.ภายในปีนี้ ๒๕๕๒ จะต้องตั้งสติปรับปรุงงานส่งขอผลงานวิชาการให้จงได้....ทำได้ถ้าลงมือทำ ทำอะไรเพื่อคนอื่นได้ตั้งเยอะ สู้สู้สู้...เพื่อตัวเอง
ไม่มีความเห็น
๑๑.ภายในสัปดาห์นี้...???
เร่งเขียนผลการประเมินโครงการประชุมสัมมนาการจัดการศึกษาฟรี ๑๕ ปี อย่างมีคุณภาพ ...ข้อสอบส่งหมดแล้ว... เสาร์นี้สอน....เคลียร์ว่างวันอาทิตย์ได้ตั้งใจว่าจะให้เป็นวันของลูก...
ไม่มีความเห็น
๑๐.วันวานจิตตก...แย่จังคุมอารมณ์ไม่อยู่ ปรี๊ดแตกทุกทีหากโดนเอาเปรียบหรือการเลือกปฏิบัติ จิตมันโลดแล่นยากควบคุม เล่นเอาไม่อยู่จริง ๆ พอทำไปแล้ว ไม่สบายใจเลย...สงสารคนที่ต้องรองรับอารมณ์ วันนี้จักสวดมนต์แผ่เมตตา ขออโหสิกรรม แต่วันหน้าจักพยายามไม่ให้เกิดอีก...ดีนะที่ยังไม่เข้าไปฟ้องเจ้านายเขาไม่งั้นคงแย่...ขอโทษจริง ๆ เลย...
ไม่มีความเห็น
๙.วันนี้ผลการประเมินการสอนบัณฑิตศึกษาออกแล้ว...อิอิ เป็นปลื้ม เนี่ยแหล่ะคือกระจกส่องที่ใสและชัดเจนที่สุดของครู
หมายเหตุ ของภาคปกติในเทอมแล้วก็ปลื้มด้วยอ่ะ
ไม่มีความเห็น
๘.เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนอื่นได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเราเองได้ เป็นคำพูดทีเราบอกเพื่อนทุกครั้งยามที่เขาน้อยใจหรือรู้สึกทุกข์ใจที่เจ้านายหรือคนอื่นต่อว่า...
วันนี้เราคงต้องบอกกับตัวเอง...เราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือความคิดของเราได้แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือความคิดของคนอื่น..จริงสินะแล้วไยเลยต้องทุกข์
ไม่มีความเห็น
๗.สมุดเล่มเล็กของลูก สัปดาห์ก่อนคุณครูให้ลูกเขียนกลอนแปด กาพย์ยานี๑๑ กลอนสี่ใส่สมุดเล่มเล็กที่ทำขึ้นด้วยกระดาษ A๔ พับครึ่งด้านยาว แล้วพับทบเป็นสี่ส่วน จากนั้นกลางออกแล้วใช้คัตเตอร์กีดกลางแผ่นกระดาษตามแนวยาว ตรงรอยที่พับจากส่วนที่สองจนสุดส่วนที่สาม แล้วค่อยๆ ดึงให้เป็นหน้าหนังสือ ทั้งหมดจะได้ ๔ แผ่น หากนับส่วนที่เขียนได้จะได้ถึงแปดหน้าเล็ก ๆ เป็นการบ้านที่เราสามารถคิดร่วมกับลูกได้และดีใจที่เขามีความสุขกับการทำงานเขาค่อย ๆ แต่งโดยแม่ก็ช่วยเติมต่อหรือกระตุ้นจนสำเร็จ ตกแต่งทาสี น่ารักเชียวค่ะ
ไม่มีความเห็น
๖.ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...บางครั้งเป็นภาระงานที่ยากยิ่ง อุปสรรคนานัปการ ทั้งงานประจำในหน้าที่และมรสุมชีวิตที่โหมกระหน่ำ ราวกับว่าจักไม่สามารถผ่านพ้นมาได้ อาจจะเป็นก้าวย่างที่ลำบากแต่สำหรับวันนี้ ประสบการณ์ที่ได้รับมีคุณค่ายิ่งกับการดำรงอยู่ ขอขอบพระคุณผู้บริหารจัดการ นักวิจัยโครงการนวัตกรรมแนวพุทธ มูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพ สสส. ที่ให้โอกาสดิฉันในการรับประสบการณ์ที่เปี่ยมคุณค่ากับการใช้ชีวิต...อย่างมีสติ
ไม่มีความเห็น
๕.รู้สึกกังวลกับการเอ่ยปากปฏิเสธ แต่เมื่อตอบรับ...กลับกลายเป็นว่าสร้างทุกข์หนักให้กับชีวิต พี่ ๆ ที่ปรารถนาดีบอกว่า รู้จักการปฏิเสธเสียบ้าง ทำเพื่อคนอื่นเป็นสิ่งดี แต่ทำมากเกินไปก็สร้างทุกข์ได้ ชีวิตของเราวนเวียนเช่นนั้นตลอดเวลา จนกระทั่ง...ทุกวันนี้จักพยายามเอ่ยปฏิเสธหากมันเกินตัวจริง ๆ ขอบคุณที่สอนให้ปฏิเสธเป็น..สุขเหลือเกิน...
ไม่มีความเห็น
๔.วันนี้...เหนื่อยเหลือเกินกับการสอนภาคพิเศษ บางทีอดคิดไม่ได้ว่า คนเราไยต้องขวนขวาย ตะเกียกตะกายอะไรมากมาย......เอาอะไรกันนักหนากับชีวิต...
คิดอีกมุมหนึ่ง...ตราบใดที่มีงานทำนั่นก็หมายความว่า เรายังมีคุณค่าเขาจึงจ้างทำงาน...ข้อคิดพวกนี้ได้มาจากเมล์ส่งต่อเก็บมาคิดก็ทำให้มีพลังที่จะก้าวเดินต่อไป..นี่กระมังที่เขาว่าคิดทางบวกทำให้มีพลัง...!
ไม่มีความเห็น
๓.น่าขอบคุณ GTK ที่ทำอนุทินไว้ให้ เข้าใจธรรมชาติของคนได้ดีเหลือเกิน เวลาเขียนอนุทินนึกถึงตัวเองเวลาบ่น บ่น บ่น หรือเอาไว้เขียนระบายยามบ่นออกมาไม่ได้ ...ขอบคุณค่ะ GTK
ไม่มีความเห็น
๒.สอนให้เป็นนักวิจัยได้หรือ ??
ใช้เวลานานกว่าสิบปีที่เฝ้าเพียรตอบคำถามของอาจารย์ ดูเหมือนว่าคำตอบที่พบ ได้.. ไม่ได้.. ได้.. ไม่ได้.. วนเวียนเช่นนี้อย่างไม่รู้จบรู้สิ้น...แต่ได้เรียนรู้อะไรมากมายกับการหาคำตอบ ศักยภาพของมนุษย์นี้มหัศจรรย์นัก ช่างมีหลากหลายรูปแบบการเรียนรู้ ถึงเรียนลัด...รวดเร็ว ถึงเนิ่นนาน เรียบง่าย ถึงซับซ้อน....ยังคงหาคำตอบอีกเรื่อยไป
ดิฉันลืมตอบคำถามนั้นไปนานนับปี เหตุใดเล่าวันนี้จึงหวนนึก คงเป็นการตรวจงานของนักศึกษานั่นเอง ทำไม ทำไม ทำไม เขาจักใส่หัวใจไปในงานสักนิดไม่ได้เชียวหรือ....
ไม่มีความเห็น
๑. ศาสตร์การประเมินได้รับการพัฒนาอย่างกว้างขวาง แต่ในทางปฏิบัติดูเหมือนว่า CIPP Model ของ Stufflebeam และคณะ มักจะเป็นคำตอบสุดท้ายของในการเลือกใช้รูปแบบการประเมินของนักประเมิน โดยเฉพาะวงการศึกษา ดิฉันไม่ปฏิเสธคุณค่าของรูปแบบประเมินดังกล่าว หากแต่อยากเสนอแนวคิดการประเมินที่เอื้อต่อการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่รู้จักกันดีในหมู่นักวิชาการ "การประเมินเสริมพลัง" Empowerment Evaluation ซึ่งเป็นแนวคิดการประเมินที่อิงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แนวคิดการประเมินที่ให้ผลผลิตการประเมินมากกว่าการรายงานคุณค่า
ทางเลือกใหม่สำหรับนักวิจัยและพัฒนา....
ไม่มีความเห็น