ดอกไม้


ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

สิ่ง “ที่สุด” ของชีวิต

...สิ่งร่ำรวยที่สุด คือ สุขภาพที่แข็งแรง

...ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดของชีวิต คือ การทะนงตัว

...การผิดพลาดร้ายแรงที่สุดของชีวิต คือ การเล่นการพนัน

...ความสุขมากที่สุขของชีวิต คือ การช่วยเหลือผู้อื่น

 ...ของกำนัลที่มีค่ามากที่สุดของชีวิต คือการให้อภัย

...การยอมรับและนับถือได้มากที่สุดของชีวิต คือ ความก้าวหน้า

...ความชั่วช้าต่ำต้อยที่สุดของชีวิต คือ การข่มเหงผู้อื่น

...บาปกรรรมใหญ่ที่สุดของชีวิต คือ ไม่กตัญญู

...ความโง่เขลาที่สุดของชีวิต คือ การติดยาเสพติด

...การล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของชีวิต คือ ความสิ้นหวัง

ไปอ่านเจอ นำมาเล่าต่อครับ

20
2
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

หลักง่ายๆในการดู "พระกรุ" แท้ๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อไปเดินตลาดพระ

1. หลากโทนสี ทั้งแนวราบ(บนพื้นผิว) และแนวดิ่ง (การงอกทับกันหรือตามรอยสึกกร่อน)
2. ผุหรือกร่อนอย่างน้อยสองแบบ คือจากในกรุ (รอบองค์เสมอกัน) และจากการใช้ (ส่วนนูน)
3. เนื้อในแกร่งแน่น เนื้อนอก(ตามร่องที่ผิวยังเหลือ)จะดูยุ่ย
4. ศิลปะ มีที่มาชัดเจน (ต้องศึกษาพุทธศิลป์ของแต่ละยุคแต่ละเมือง)
5. มีพิมพ์ทรง และตำหนิถูกต้อง

แล้วจึงค่อยขอส่อง เพื่อดู

6. มีชั้นต่างๆครบ ตามหลักการแต่ละเนื้อ ทั้งดินและโลหะ
7. ถ้ามีเม็ดทราย ผิวนอกจะต้องมน และกร่อนเป็นริ้วละเอียดทุกเม็ด และมักมีร่องทรายรอบเม็ด
8. ถ้าดินดิบ จะฉ่ำใน แห้งนอก (ถ้าแก่ว่านจะฉ่ำทั้งในและนอก)
9. ถ้าดินเผา จะเห็นชั้นของการเผา และชั้นของการผุสวนทางกัน
10. พระรอดเนื้อหินเผา เนื้อจะต้องเป็นหินกร่อน มีทั้งชั้นการเผา และชั้นการผุสวนทางกัน

เห็นดังนี้แล้วจึงค่อยหยิบ

สำหรับคนที่ดูเป็นจริงๆแล้ว ดูชัดๆเพียงข้อเดียวก็ผ่านเลยครับ

7
1
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

เมื่อวาน 18 เมย 56 มีนักเรียนรุ่นใหญ่ ที่เป็นนักธุรกิจรุ่นกลางๆ จาก กทม ขับรถเบนซ์มาเรียนวิธีดู พระเนื้อผง เนื้อดิน และเนื้อชิน ที่บ้านผม

ขนพระเก๊มา 2 กระเป๋าใหญ่ ผมใช้เวลาดู ทั้งหมดประมาณ 10 นาที ก็ตีเก๊ได้หมดทุกกล่อง
โดยการดูทีละกล่อง เพราะเก๊ตาเปล่าล้วนๆ รวมแล้วเกือบร้อยกล่อง
ที่น่าจะมีทุนการหยิบมาหลายล้าน มีเลี่ยมทอง ตลับทอง ไม่ต่ำกว่า 20 องค์ เต็มสองกล่อง

ผล...... เก๊ 100%

หลังจากนั้น ผมก็ให้หัดดู "วัสดุการสอน" ของแท้ ทั้งเปลือกหอย ดิน หิน ทราย ฯลฯ

พอทดสอบความรู้แล้ว จึงให้เริ่มดูจากพระแท้ดูง่าย ไปหาพระแท้ดูยาก

พอดูเป็น ก็เริ่มอธิบายหลักการดูพระแท้ ทีละองค์

โดยเน้นหลักการ และพัฒนาการของพระแต่ละเนื้อ

ทำให้เขาเพิ่งเข้าใจวิธีการดูพระแท้
และรู้ว่าตัวเองหลงทางมานาน หมดไปหลายล้าน

พออธิบายจบ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

เขาก็พูดออกมาอย่างโล่งใจ ว่า

"ผมรู้สึกว่า "ดูพระแท้ เป็นแล้ว" อย่างน้อยก็อีกระดับหนึ่ง"

เป็นเช่นนี้เอง
555555

11
1
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

หลักที่สำคัญในการดูพระเนื้อโลหะโบราณ ที่มักจะมีโลหะปะปนกันมากมายแบบโละโบราณ

จึงจำง่ายๆ ว่า

"คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้"

หมายถึง

1. การดูพระเนื้อโลหะโบราณแท้ๆ นั้น สนิมต้องมีอย่างน้อยที่สุด 2 ชนิด มีชนิดเดียว แบบเดียว วางเลย เพราะเก๊แน่นอน
2. แต่ควรจะมี ตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไป จึงจะมั่นใจได้
และ ที่สำคัญพอๆกัน ก็คือ
3. สีของสนิมต้องตรงกับชนิดโลหะที่มีอยูในเนื้อพระนั้นๆ เท่านั้น
...
ดังนั้น
ถ้าสนิมมีชนิดเดียว และหรือชนิดสนิมไม่ตรงกับโลหะในเนื้อพระนั้นๆ  แม้แต่ชนิดเดียว ก็ต้องวาง "นำกลับบ้านไม่ได้" ครับ

อิอิอิอิอิอิ


9
2
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

สังคมจะเข้มแข็งและมีพลังได้นั้

อย่างหนึ่งก็คือการส่งเสริมคนดี ให้ทำความดีต่อไป
และทำให้เขาได้เป็น "ตัวอย่าง" ของการทำความดี
นึ่คือหลักของการแสดง "มุทิตาจิต" เพื่อสร้างสรรสังคม

เพราะ
คนที่ทำความดีอยู่นั้น บางคนก็ชัดเจน บางคนก็ยังสงสัยตัวเอง
ทั้งๆที่ความสุขจากการ "ทำความดี" เหล่านี้มาจาก "มรรค" และ"ผล" ของเขาเอง ล้วนๆครับ 

คนภายนอกทั่วไปนั้น อย่างมากก็แค่ "ชี้" ให้เขาเห็น ในสิ่งที่เขามี เท่านั้นครับ 
เขาอาจจะเห็นเองแล้ว ไม่แน่ใจ หรือไม่กล้าพูด ก็เป็นไปได้ครับ 

การยกย่องเขา จะทำให้เขามีความมั่นใจ ไม่คลอนแคลนไปจาก "แกน" แห่งความดี

นี่คือประโยชน์ของ "มุทิตาจิต" เพื่อสังคม ที่ผมเข้าใจครับ

15
2
ดร. แสวง รวยสูงเนิน
เขียนเมื่อ

การสอน ในห้องการดูพระแท้ เมื่อคืน วันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา 

********************************
ผมใช้อุปมาเนื้อพระเป็นปูนคอนกรีต ที่คาดว่าทุกคนจะคุ้นเคย
ที่มีช่องว่าง จากพื้นที่ ที่เคยมีน้ำอยู่ เมื่อน้ำระเหยไป จึงเกิดเป็นช่องว่างอยู่ในโครงสร้าง

ช่องว่างและโครงสร้างดังกล่าว ทำให้มี การเคลื่อนที่ ของน้ําและสารละลาย ที่เป็นปูนไบคาร์บอเนต และมีแคลเซียมคาร์บอเนต ปนมาด้วย ในระดับต่ำ จึงทำให้เกิด การสะสมของปูน แคลเซียมไบคาร์บอเนต และแคลเซียมคาร์บอเนต ที่พื้นที่ผิว

การสะสมดังกล่าว ทำให้เกิด พื้นผิวที่ไม่เรียบ จึงเกิดกับภาพความเหี่ยว เป็นลูกคลื่นเล็ก อยู่ในทั้งที่ต่ำ และบนสัน
การสะสมดังกล่าว จะทำให้มีการอุดตัน ของทางไหลของน้ำ และการอุดตันที่เกิดขึ้น ก็จะเกิดแรงดันทำให้มีการปริแยกของเนื้อ หรือ การ ทำให้ช่องว่างเดิมบางช่องขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนที่มารวมอยู่ที่เดียว ทำให้เห็นเป็นรูน้ำตา หรือบ่อน้ำพุอย่างชัดเจน ซึ่งจะเกิดในพระที่มีอายุมากตั้งแต่ 50 ถึง 80 ปีขึ้นไป

นี่คือการพัฒนาการ ของเนื้อปูน ผ่านระบบโครงสร้างและของว่าง เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี 5 ปี 10 ปี 20 ปี 80 ปีร้อยปีหรือ 150 ปี ที่จะมี ระดับการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน และสามารถนำมาพิจารณาอายุของพระได้ตามหลักการดังกล่าว
ในคืนนี้ ผมจะอธิบายต่อในเรื่องของ การพัฒนาการโดยธรรมชาติ ของในเนื้อปูน

และการพัฒนาการที่เกิดจากการใช้งาน ของน้ำมัน ที่ผสมอยู่ในเนื้อปูนเหล่านั้น

โปรดติดตาม ตอนต่อไปครับ

7
0
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท