1.หลักนิติธรรม : การมีเกณฑ์ยุติธรรมและชัดเจน (Pair Legal Framework) ได้แก่ การตรากฏหมาย กฏข้อบังคับต่าง ๆ ให้ทันสมัยและเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับของสังคมและสังคมยินยอมพร้อมใจปฏิบัติตามกฎหมาย
2.หลักคุณธรรม : ความชอบในการใช้อำนาจ (Political Legifimacy) ได้แก่ การยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม ซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบวินัย ประกอบอาชีพสุจริต จนเป็นนิสัยประจำชาติ
3.หลักความโปร่งใส : การมีการดำเนินการที่โปร่งใส (Transparency) ได้แก่ มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์อย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้สะดวก และมีกระบวนการให้ประชาชนตรวจสอบความถูกต้องชัดเจน สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ
4.หลักการมีส่วนร่วม : การมีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง (Public Participation) ได้แก่ เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้และเสอนความคิดเห็นในการตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศ ไม่ว่าด้วยการแจ้งความเห็น การไต่สวนสาธารณะ ประชาพิจารณ์ การแสดงประชามติ หรืออื่น ๆ
5.หลักความรับผิดชอบ : ความพร้อมรับการตรวจสอบ (Accountability) ได้แก่ การตระหนักในหน้าที่ ความสำนักในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหาสาธารณะของบ้านเมือง และกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา ตลอดจนการเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และความกล้าที่จะยอมรับผลจากการกระทำของตน
6.หลักความคุ้มค่า : การบริหารที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (Efficiency and Effectiveness) ได้แก่ การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม ใช้ของอย่างคุ้มค่า สร้างสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกและรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน
การปฏิบัติงานโดยใช้หลักธรรมาภิบาลตามหลักนิติธรรม คุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบตรวจสอบได้ และหลักความคุ้มค่านั้น สำนักตรวจราชการ ฯ ได้ยึดหลักดังกล่าวในการปฏิบัติงานโดยเฉพาะหลักการมีส่วนร่วม ขณะนี้สำนักตรวจราชการ ฯ ได้ร่วมมือกับองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ในการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการรักการอ่าน ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 17 เดือนมิถุนายน 2550 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
แวะมาเยี่ยมเป็นกำลังใจ พยายามต่อไปนะครับ เพื่อพลังแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
Link รวมบล็อกเรื่องธรรมาภิบาลของกลุ่มงานใน สป. นอกเหนือจากที่สถาบันฯ สร้างให้ครับ
ผมได้สร้าง แพลนเน็ต เพื่อรวบรวมบันทึกธรรมาภิบาลของทุกสำนัก/กลุ่มงาน มาไว้ในที่เดียวกัน เมื่อเปิดเข้าไป จะเห็นทุกบันทึกรวมอยู่ด้วยกัน สามารถเลือกอ่านและแสดงความคิดเห็นได้เลย โดยบันทึกล่าสุดไม่ว่าจะเป็นของสำนัก/กลุ่มงานใดก็ตาม จะอยู่ด้านบนสุด และใล่ลงไปด้านล่าง ตามวัน/เวลา (ฉนั้น ต้องการให้ปรากฎบันทึกของท่านอยู่ด้านบนเสมอ ต้องขยันบันทึกครับ)
เข้าไปดูได้ตาม Link นี้เลยนะครับ
สาเหตุที่แปล Good Governance ว่า"หลักธรรมาภิบาล"และสร้างเป็นองค์ประกอบ 6 ประการมีต้นเหตุจากอวิชชาเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการบริหารของโลก อีกทั้งสับสนเรื่อง"ระบบที่ดี"(Quality system)ซึ่งเป็นประเด็นที่โลกเปลี่ยนแปลงการบริหาร
ปี 1987 องค์กรมาตรฐานสากล ISO ได้ประกาศให้ประเทศสมาชิกเปลี่ยนแปลงการบริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้การบริหารต้องมี"ระบบ"(Quality system)
ปี 1987 สหรัฐได้ออกกฏหมาย Public Law 100-107 จูงใจให้รางวัลทั้งภาคเอกชนและภาครัฐให้มี"การบริหารระบบ TQM" และ NIST ได้ให้ความหมาย"Governance refers to system of management..." ดังนั้น Good Governance จึงแปลว่า"ระบบที่ดี"(Quality system) ตามมาตรฐานสากลนั่นเอง
สำนักนายกฯมิได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกดังกล่าว จึงแปลคลาดเคลื่อน อันเป็นต้นเหตุสร้างความล้มเหลวในการปฏิรูปการเมืองให้รัฐบาลถึง 7 รัฐบาลจนถึงปี 2552
เพราะประเทศต่างๆเขาปฏิรูปให้การบริหารมี"ระบบ"...แต่ไทยปฏิรูปให้มี"ธรรมาภิบาล"ตามองค์ประกอบ 6 ประการ ที่เพี้ยนไปจากการปฏิรูปการบริหารตามมาตรฐานสากล
สำนักนายกฯและก.พ.ร.ใช้จ่ายเงินในการปฏิรูปการเมืองล้มเหลวไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท(400,000,000,000.00)เพราะอวิชชาไม่รู้จริงคำ Governance เพียงคำเดียว
นี่คือประวัติศาสตร์ที่ลูกหลานจะขบขันและเสียดายการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างไร้สาระของคนรุ่นนี้