ที่มา : คอลัมน์คุยกับผู้อ่าน โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ ประเวศ วะสี
หนังสือหมอชาวบ้าน ปีที่๒o ฉบับที่๒๔o เมษายน ๒๕๔๒
กลุ่ม We are happy. รวบรวมเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕o
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของบทความเป็นอย่างสูง
การอ่านหนังสือ(ที่ดี)มีประโยชน์อย่างน้อย ๗ ประการดังนี้
๑.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก ถ้าพ่อแม่อ่านนิทานให้ลูกฟังจนเป็นนิสัย
และสร้างความสุขอันล้นเหลือให้ลูก เด็กร้อยทั้งร้อยชอบฟังนิทาน
๒.สร้างพลังจินตนาการ ผู้ที่อ่านมากจะมีพลังของจินตนาการมาก
พลังจินตนาการนำไปสู่ความจริง ความดีและความงาม
๓.สร้างพลังความรู้ ใครอ่านมากมีความรู้มาก ชาติที่ขาดพลังความรู้พัฒนาไปไม่ได้
๔.สร้างพลังทางปัญญา การอ่านมากทำให้สร้างโครงสร้างทางสมองที่ทำให้รู้
และคิดเชื่อมโยงทำให้เข้าใจเรื่องยากๆได้ เรื่องยากๆต้องอ่านจึงจะเข้าใจ
ฟังอย่างเดียวไม่เข้าใจ ถ้าไม่ข้าใจเรื่องยากกก็ไม่เข้าใจสังคมปัจจุบันซึ่งซับซ้อน
ถ้าขาดพลังทางปัญญาสังคมก็วิกฤต
๕.สร้างพลังทางจริยธรรมเพราะจริยธรรมเกิดจากปัญญาที่เข้าใจความสัมพันธ์
หรือความเชื่อมโยงในความซับซ้อน
๖.สร้างความสุขการอ่านทำให้เกิดความสุขอย่างล้นเหลือ
เมื่อมีความสุขจากการอ่านก็ไม่ไปทำสิ่งที่ฟุ่มเฟือยไม่ดีอื่นๆ
๗.สร้างบุคลิกภาพคนอ่านน้อย รู้น้อยย่อมเอะอะโวยวายก้าวร้าวคนอ่านมากมีปัญญามาก
มีความสุขมาก ย่อมสุขุมคัมภีรภาพ ชาติที่อ่านน้อยกับชาติที่อ่านมากจึงมีบุคลิกภาพต่างกัน
เพราะการอ่านกำหนดเป็นบุคลิกภาพของชาติ
การอ่านอย่างเดียวจึงให้ประโยชน์อย่างน้อย ๗ ประการ
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญๆทั้งสิ้น การลงทุนด้วยการอ่านอย่างเดียวจึงให้ได้กำไรยิ่งกว่าการลงทุน
เรื่องอื่นๆทั้งสิ้น ถ้าอยากให้ประเทศไทยดี จึงควรลงทุนในการอ่านด้วยการสร้างหนังสือดีๆ
ให้มากและสร้างนิสัยในการอ่านกันทุกระดับคือทุกคนทุกครอบครัว ทุกชุมชน ทุกองค์กร
และสถาบันเมื่อเป็นดังนั้น สังคมไทยจนเปลี่ยนบุคลิกของชาติ
และสามารถออกจากวิกฤติการณ์ไปสู่ความเจริญและศานติสุขได้
..........................................................................................................................
ไม่มีความเห็น