เทคโนโลยีสารสนเทศกับวิถีเศรษฐกิจพอเพียง“เศรษฐกิจพอเพียง” คำนี้เป็นคำที่ได้ยินกันจนชินหู เพราะเป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่ปวงชนชาวไทย ซึ่งถือเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิตที่มั่นคง คนบางคนก็อาจเข้าใจความหมายแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่คิดว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เฉพาะในด้านเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้กับด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ ในยุคโลกาภิวัฒน์เทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนมีความสัมพันธ์กับ
เทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลาดังจะเห็นได้จากการใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้นการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศภาย
ใต้คุณลักษณะแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ข้อ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ตลอดจนใช้ความรู้ คุณธรรม ในปัจจุบันอัตราการใช้มือถือของประชาชนมีอัตราการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น บางคนมีมือถือหลาย ๆ เครื่อง พกพาไปตามที่ต่าง ๆ นอกจากมือถือที่มีอัตราการใช้เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ปริมาณการใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเพิ่มสูงขึ้น เป็นทวีคูณ เพราะว่าหลายคนมีมือถือเครื่องเดียวแต่มีซิมการ์ดหลายเลขหมาย ่ หากพิจารณาในด้านความพอประมาณ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่คนหนึ่งคนจะต้องมีซิมการ์ดโทรศัพท์มากกว่า 1 เลขหมาย ซึ่งบางคนก็อาจจะบอกว่าไม่เห็นเป็นไร เพราะสามารถที่จะซื้อหามาได้โดยไม่เดือนร้อน บางก็บอกว่าการทำธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องมีหลายหมายเลขไว้ใช้ติดต่อ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ในส่วนของความมีเหตุผล ต้องมาพิจารณาว่า ในการที่เราตัดสินใจซื้อซิมการ์ดมือถือนั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร การที่มีซิมการ์ดมือถือมากกว่า 1 เลขหมายทำให้จำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถือเพิ่มอีกเป็นเงาตามตัวเพื่อมารองรับปริมาณของ
ซิมการ์ดมือถือด้วยเพื่อความสะดวกในการใช้ จึงส่งผลให้จำเป็นต้องซื้อหามือถือเพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้วก็ควรที่จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองเพื่อเป็นการป้องกันผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะว่าในส่วนของการตลาดมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ละบริษัทต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์และมีการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าหันมาใช้สินค้าของตัวเองเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เกิดรูปแบบใหม่เกิดขึ้นมาตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ถ้าเราจะวิ่งตามไปทุกอย่างก็จะไม่มีความเหมาะสมอย่างแน่นอน ไม่มีความเพียงพอ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการเปลี่ยนรายละเอียดในการส่งเสริมการขายบ่อยมาก ในบางครั้งมีการเสนอขายซิมการ์ด
ในราคาถูกเพื่อล่อใจผู้ซื้อ
แถมด้วยการโปรโมทว่าเสียค่าโทรศัพท์นาทีแสนถูก เมื่อผู้่ซื้่อได้ซื้อซิมการ์ดมาแล้วจะต้องพบกับปัญหาที่ตามมาคือ
ซิืมการ์ดที่คิดว่าซื้อมาถูกนั้น
แต่เราต้องเสียค่าโทรศัพท์เพิ่มขึ้นอีก ถ้าเป็นอย่างกรณีแบบเติมเงิน
เมื่อถึงเวลาเติมเงินปรากฏว่าจำนวนเงินยังอยู่เยอะ
แต่จำนวนวันหมดแล้ว ทำให้ต้องซื้อบัตรเติมเงินมาเพิ่มจำนวนวันในโทรศัพท์ แต่จำนวนเงินยังไม่ได้ใช้เหลือเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ซื้ออยากที่จะได้จำนวนเงินมากกว่าจำนวนวัน เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซิมการ์ดที่ซื้อมามันไม่ถูกอย่างที่คิดไว้ ผู้ใช้จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ในการพิจารณาถึงความเหมาะสมและความต้องการของตัวเองมากกว่าที่จะตามแฟชั่นหรือสมัยนิยม ทำให้เกิดพฤติกรรมการใช้ซิมการ์ดมือถืออย่างฟุ่มเฟื่อย สิ้นเปลืองทรัพยากร โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่น่าจะเป็นห่วงมาก เพราะวัยรุ่นมีอัตราการใช้ซิมการ์ดมือถือเพิ่มมากขึ้น โดยพวกเขาคิดว่าถ้ามีซิมการ์ดมือถือจำนวนมาก ๆ ก็จะเท่ห์ จะเจ๋งในกลุ่มเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นปัญหาที่เราทุกคนควรที่จะร่วมกันคิด ร่วมกันแก้ไข ช่วยปลูกฝังให้พวกเขามีจิตใจที่เข้มแข็ง รู้ความต้องการของตนเอง อย่ายึดติดกับวัตถุเป็นที่ตั้ง ใช้สติปัญญาปกป้องตนเองไม่ให้หลงไปกับกระแสสังคมต่าง ๆ ทำให้ทุกคนต้องกลับไปย้อนคิดว่าประเด็นดังกล่าวเป็นที่เหมาะสมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยหาความพอดีในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้เอกสารอ้างอิง
1. หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับที่ 3748 วันที่ 12 ธันวาคม 2548 หน้า 56
2. www.sufficencyeconomy.org