ถ้าหากกล่าวว่า...เด็กคืออนาคตของชาติ...เด็กคือต้นกล้าที่รอวันเติบโต ถ้าเช่นนั้นพวกเขาจะเติบโตและรับใช้สังคมได้อย่างไร หากปราศจากความรักและการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว เนื่องเพราะทุกวันนี้ข่าวพ่อแม่ทำลายลูก เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กถูกนำไปขายบริการทางเพศ เด็กถูกข่มขืน เด็กติดเชื้อเอดส์ ฯลฯ มีให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน | ||||
นี่คือ คำถามของหญิงคนหนึ่งที่เฝ้ามองและดูแลเด็กๆด้วยความรัก ผู้หญิงคนนั้นคือ “สุธาสินี น้อยอินทร์” หรือ “แม่ติ๋ว” ของเด็กๆแห่ง “บ้านโฮมฮัก” จ.ยโสธรหรือมูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน **“บ้านโฮมฮัก” บ้านแห่งรักของเด็กและเยาวชน สุธาสินีเล่าว่า บ้านโฮมฮักมีอายุมากว่า 20 ปีแล้ว ขณะนี้มีสมาชิก 104 คน ติดเชื้อเอดส์และรับยาแล้วประมาณ 20 % นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ถูกลวงละเมิดทางเพศ กลุ่มที่พ่อแม่ทำร้ายทุบตี และขณะนี้มีเด็กอีก 8 คนที่ฝากไว้ในโรงเรียนของศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ เพราะเด็ก 8 คนนี้ถูกคุกคามจากพวกค้ามนุษย์ที่ตามมาถึงบ้านโฮมฮักโดยทางโรงเรียนยินดีรับเด็กไว้ แต่ต้องเสียค่าเล่าเรียนเป็นหมื่น ขณะอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกคุกคามคือ พ่อแม่ที่นำตัวเด็กกลับไปแต่ไม่ดูแล นำเด็กกลับบ้านเพียงเพราะต้องการเงินจากรัฐ เมื่อรัฐให้เงินช่วยเหลือเด็กติดเชื้อผ่านทางองค์การบริหารส่วนตำบล และมีเงื่อนไขว่าเด็กต้องอยู่ที่บ้านถึงจะได้รับเงิน พ่อแม่จึงนำตัวเด็กกลับไปโดยไม่ได้ดูแล เด็กบางคนไม่ได้กินยา หรือบางคนต้องกินข้าวสารทำให้เขาเสียชีวิต | ||||
“สิ่งหนึ่งที่พูดกับลูกๆเสมอว่า เมื่อไหร่ที่ลูกรักใครลูกจะเจ็บ ถ้าเขารู้ว่าเราเป็นเอดส์ เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมใจไว้ แต่ถ้าเขายอมรับได้สิ่งที่ตามมาคือ การป้องกัน ทำอย่างไรจะไม่แพร่เชื้อ หรือถ้าไม่บอกและแพร่เชื้อให้เขาถือว่าเราทำลายสังคม” สุธาสินีแสดงความคิดเห็นว่า ทุกวันนี้ผู้คนพูดถึงแต่เรื่องถุงยางอนามัย นั่นไม่ใช่ต้นตอของปัญหา แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือพ่อแม่ไม่มีความรับผิดชอบ ซึ่งทำให้ปัจจุบันนี้พบเห็นเด็กเร่ร่อน เด็กขายบริการทางเพศมากขึ้น ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะพ่อแม่วิ่งเข้าสู่กระแสเศรษฐกิจ และกระแสบริโภคนิยมจึงทอดทิ้งเด็กไว้กับชุมชน ทำให้เด็กขาดความรัก ความอบอุ่น เด็กจึงโหยหาความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาขาดไป เมื่อขาดความรักเขาจะทำในสิ่งที่ได้รักมา เช่น เด็กแต่งตัวเพราะต้องการให้คนมอง ซึ่งจะทำให้เขามีความสุข อยากให้สังคมช่วยกันมองช่วยกันแก้ปัญหาจะได้ไม่มีเด็กเร่ร่อน เด็กกำพร้า และไม่ควรมองว่าเอดส์เกิดจากพฤติกรรมส่ำส่อนทางเพศเพียงอย่างเดียว | ||||
“การช่วยเหลือเด็กไม่ควรมองว่าช่วยกลุ่มไหนดีกว่ากัน หรือคิดว่าคงมีใครช่วยเหลืออยู่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ตายพวกเขาโตได้ทั้งหมด อยากให้เมตตาเด็กทุกกลุ่ม เราเชื่อว่าเด็กเป็นต้นกล้าที่รอวันเติบโตและเขาจะเป็นพลังให้สังคม ตอนนี้เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาช่วยเราได้ เมื่อเห็นแม่เหนื่อย พี่ก็จะช่วยเลี้ยงน้อง ช่วยซักผ้าให้น้อง หรือเด็กที่ออกจากบ้านโฮมฮักหลังจบปริญญาตรีแล้วบางคนรับราชการ เช่น เป็นทหาร ตำรวจ ครู หรือครูศูนย์เด็กเล็ก บางคนทำงานเอกชน อาชีพเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของพวกเขา ลูกๆบางคนบอกว่าเขาอยากเป็นนักข่าว บางคนอยากเป็นนักร้อง หรือเป็นพยาบาล การดูแลเด็กๆเราไม่ได้หวังสิ่งใดนอกจากต้องการเลี้ยงให้เขาเติบโตและรับใช้สังคม เด็กที่ออกจากบ้านโฮมฮักไปเราติดตามทุกคน สิ่งหนึ่งที่รู้คือ ไม่มีใครทำลายสังคม” “ในอนาคตบ้านโฮมฮักอาจจะต้องรองรับเด็กมากขึ้น และบ้านหลังนี้ก็ยินดีที่จะดูแลเด็ก ถ้าสิ่งนี้จะทำให้พวกเขามีอนาคตที่สดใส ซึ่งคงต้องใช้ความรักประคองพวกเขา” สุธาสินีเล่าถึงหน้าที่ที่ต้องเดินหน้าต่อไป **วอนธารน้ำใจหลั่งไหลสู่ต้นกล้า แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ขณะนี้บ้านโฮมฮัก ซึ่งดูแลเด็กๆกว่า 100 ชีวิตกำลังประสบปัญหาเรื่องเงินทุนเพื่อนำมาเป็นค่าอาหาร ยา และค่าเล่าเรียน กิจกรรมต่างๆที่เคยปฏิบัติเพื่อนำรายได้เข้ามูลนิธิฯ กลับสิ้นสุดลง เมื่อโรคมะเร็งมาบั่นทอนสุขภาพกายขอสุธาสินีในขณะที่ค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลเด็กๆ กลับสูงขึ้น | ||||
“เด็กๆต้องการความรัก การสัมผัส พวกเขาโชคร้ายอยู่แล้วที่เป็นเอดส์ และสูญเสียพ่อแม่ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นเรื่องเวรกรรม แต่ถ้าหากคิดว่าเป็นเวรกรรมก็อยากให้ช่วยเหลือเขา อย่าหวาดระแวงว่าเขาจะนำเชื้อเอดส์มาติด เด็กๆต้องเติบโตพวกเขาต้องกินอาหารต้องไปโรงเรียน ไม่อยากให้ถามว่าพวกเขาเป็นเด็กที่ไหนแต่สิ่งหนึ่งที่รู้คือ เขาเป็นเด็กของประเทศไทย เป็นเด็กของสังคมไทย อยากบอกสังคมว่าถ้าต้องการให้เด็กๆ มาแทนพวกเราและเป็นพลังของสังคมต่อไป อยากให้ช่วยแปลงความรักมาเป็นสิ่งของเพราะหน้าหนาวเขาต้องมีผ้าห่ม เสื้อกันหนาว เมื่อมียุงเขาต้องใช้มุ้ง เราเชื่อว่าเมื่อเขาโตขึ้นเขาต้องรับผิดชอบสังคมร่วมกับคนอื่นอย่างแน่นอน” สำหรับผู้ที่ต้องการร่วมบริจาคให้เด็กๆมีชีวิตที่ยืนยาว และมีโอกาสเรียนหนังสือ สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เลขบัญชี 561-2-21187-7 และถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเรื่องของใช้จำเป็น หรือเป็นอาสาสมัคร สามารถสอบถามได้ที่ โทร. 0-4572-2241, 08-1075-4953, 08-1067-1626 |
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2550 07:51 น. <hr />
มิถุนายนนี้ Green Wave มีกิจกรรมดีดีมาฝากกัน...ใน “GREEN CHARITY GAME” เราอยากให้คุณเป็นส่วนหนึ่งนำพาความสุข เดินทาง..มาหาเด็กๆ และ เยาวชนที่ถูกทอดทิ้งให้ผจญปัญหาชีวิตที่เขาไม่ได้ก่อ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้ก้าวต่อไปด้วยความรัก ความเข้าใจ โดยเงินทุกบาทจากเครื่องเล่นและบู๊ธเกมจะถูกมอบให้กับมูลนิธิบ้านโฮมฮัก หรือ มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เพื่อ...ช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้พวกเขามีอนาคตที่สดใสต่อไป และ...ปิดท้ายความสุขแห่งวันด้วยคอนเสิร์ต จากศิลปินคุณภาพ | ||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||