หลังจากที่เรากลับมาจากมหาชีวาลัยแล้ว มดก็กลับมาพักที่บ้านของทิพย์อีกครั้ง คุณแม่ของทิพย์ยังคงใจดีกับมดเสมอ เมื่อรืนแล้วสินะที่มดกับทิพย์จะต้องเดินทางไกลอีกครั้ง โดยมีจุดหมายปลายทางคือ “ศูนย์การศึกษาคนตาบอดที่จังหวัดขอนแก่น เราสองคนมีเวลาพักเติมพลังชีวิตให้เต็มเปี่ยมอีกหนึ่งวัน
“มด วันนี้อากาศหนาวจังเลย”ทิพย์บ่น
“เราก็ว่าอย่างงั้นแหละทิพย์ แต่วันนี้เราเดินทางมาไกล ไม่อาบคงไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้าละกันนะทิพย์”มดบอก วันนี้ขอทรยศสมาคมคนไม่อาบน้ำแห่งประเทศไทยก่อนวันนึงละกัน
เช้าวันต่อมา ความเหนื่อยอ่อนทำให้มดกับทิพย์ตื่นสาย วันนี้ทิพย์อยู่บ้านแต่มดมีรายการที่จะต้องเข้าไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อส่งหนังสือประวัติศาสตร์เวียดนามที่ยืมมาจากสำนักวิทยบริการ เพื่อทำรายงานส่งท้ายวิชาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทิพย์ยังคงนอนต่อ ในระหว่างการรอพี่ปอมารับที่หน้าบ้าน มดท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ด เพื่อค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับการจดทะเบียนคนพิการ เป็นความรู้พื้นฐานให้ทิพย์ ไม่น่าเชื่อว่าในจำนวนคนพิการทั่วประเทศที่มีการสันนิษฐานว่ามีประมาณสองล้านคน จะมีคนจดทะเบียนคนพิการเพียงหกแสนกว่าคน ซึ่งรวมถึงทิพย์ด้วย ไม่แปลกหรอกที่คนพิการส่วนมากยังไม่จดทะเบียนคนพิการ เพราะพวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าทำไม
ตัองจดทะเบียนคนพิการ จดแล้วจะมีประโยชน์อย่างไร จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนพิการไทยดีขึ้นหรือเปล่า อันที่จริงมดคิดนะว่า การจดทะเบียนคนพิการเป็นสิ่งที่จำเป็นเหมือนกัน อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการแสดงให้ใครๆรู้ว่า เราเป็นคนพิการที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านความจำเป็นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของตัวผู้พิการเอง
เสียงโทรศัพท์มือถือของมดดังขึ้น พี่ปอโทรมา บอกว่าจะมาถึงมหาสารคามเวลาประมาณสิบเอ็ดโมง มดกระวีกระวาดรีบอาบน้ำแต่งตัวรอพี่ปอ หลังจากกินอาหารเช้ากึ่งเที่ยงแล้ว มดมายืนรอพี่ปอที่หน้าบ้านของทิพย์ เผื่อว่าพี่ปอจะหาเราไม่เจอ
จริงอย่างที่มดคาด พี่ปอหาเราไม่เจอจริงๆด้วย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านที่ทิพย์อยู่ เป็นบ้านหลังไหน ทั้งที่เดินมาถึงละแวกนี้แล้ว มดกับทิพย์พยายามบอกรายละเอียดของพื้นที่ใกล้เคียงให้มากที่สุด เท่าที่สายตาอันน้อยนิดจะพอมองเห็น จนพี่ปอสามารถหาบ้านของทิพย์เจอในที่สุด
“ไปนะทิพย์ ฝากบอกคุณแม่ของทิพย์ด้วยว่าเราไปส่งหนังสือใน ม. เดี๋ยวเย็นๆก็คงกลับ”มดบอกก่อนจะก้าวออกจากบ้านของทิพย์ โดยมีพี่ปอเป็นคนนำทางที่ดี สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยไม่จำเป็นต้องใช้ไม้เท้าขาวในเวลานี้
วันนี้ที่มหาวิทยาลัยคราคร่ำไปด้วยนิสิตที่เข้ามาลงทะเบียนเรียนในช่วงซัมเมอร์ นี้เป็นการแก่งแย่งที่ดุเดือดอีกอย่างหนึ่งในสังคมมหาวิทยาลัย ถ้าอินเตอร์เน็ดช้าแม้สักวินาทีเดียว ก็อาจไม่มีที่นั่งเรียนในวิชาศึกษาทั่วไปที่ต้องการ ถ้าหากพวกผู้ใหญ่จะกรุณาจัดระเบียบทุกอย่างให้ดีสักนิด ไม่เห็นแก่เม็ดเงินที่จะเข้ามาในมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างก็คงไม่สับสนวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันที่เริ่มลงทะเบียนเรียน
ลงจากรถสองแถว พี่ปอพามดมาที่อาคารบรมราชกุมารี วันนี้นิสิตหลายคนมาจ่ายค่าหน่วยกิจที่นี่ และหลายคนอีกเหมือนกันที่มาแก้ปัญหาการลงทะเบียนเรียน ในระหว่างที่มดนั่งรอพี่ปอที่ไปจ่ายค่าหน่วยกิจนั้น เสียงใครคนหนึ่งทักขึ้น เป็นเสียงที่ไม่คุ้นหูเอาซะเลย
“มดจำเราได้มั๊ย” น้ำเสียงนั้นทักทายอย่างแจ่มใส มดส่ายหน้าเป็นสัญะว่าจำไม่ได้
“เราภาไง ที่เจอกันตอนไปเรียนเซ็กซ์ไง” คำพูดของเพื่อนทำให้มดถึงบางอ้อ มดเคยได้รับความช่วยเหลือจากภากับเพื่อนอีกคนที่ชื่อ เพ็ญ ตอนที่ไปเรียนเพศศึกษากับการเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตครอบครัว ซึ่งเป็นวิชาศึกษาทั่วไปอีกวิชาหนึ่งในหมวดวิทยาศาสตร์สุขภาพ วันนั้นเอ้ เพื่อนคนหนึ่งของมดไม่อยู่ ไม่มีใครไปเรียนวิชานี้เป็นเพื่อนมด ดีที่มีภากับเพ็ญ เป็นเพื่อนใหม่คอยช่วยเหลือ เพราะวิชานี้เลิกตั้งสองทุ่ม ถ้ากลับเองคงไม่ปลอดภัยแน่ ภาบอกกับมดว่าภากลับบ้าน ไม่ได้เรียนซัมเมอร์ และภาก็ได้ไปดูคอนเสิร์ต msu รู้สึกชื่นชมในตัวของนิสิตพิการทุกคนที่สามารถก้าวเข้ามาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยและเรียนได้เช่นเดียวกับคนปรกติ
“พี่ที่เรียนศึกษาศาสตร์คนนั้นชื่ออะไรนะจ๊ะ”ภาถามอย่างสนใจแกมชื่นชม
“พี่เค้าชื่อพี่นะ เรียนเอกภาษาอังกฤษจ้ะ” มดตอบรู้สึกภูมิใจแทนนิสิตรุ่นพี่ที่เรตติ้งดีขนาดนี้
บ่ายโมงแล้วพี่ปอพามดมากินก๋วยเตี๋ยวที่โรงอาหารกลาง ก่อนจะพามาที่หอบรบือ ห้อง 106 อดีตห้องพักของมดกับพี่ปอ เพราะซัมเมอร์นี้ ทางสำนักกิจการหอพักให้นิสิตคนอื่นมาพักที่ห้องนี้
“มด รอพี่อยู่นี่นะ พี่ไปลงทะเบียนเพิ่มก่อน”พี่ปอบอกก่อนจะหายไปเป็นชั่วโมง มดคาดว่าพี่ปอคงจะไปพลาซ่า ศูนย์อินเตอร์เน็ตที่อยู่ใกล้ๆอย่างแน่นอน
บ่ายสามโมง พี่ปอกลับมาได้พักหนึ่ง ก็มีเพื่อนร่วมห้องกลับมาด้วยดูเหมือนพี่เค้าจะเพิ่งกลับมาจากบ้าน พี่ปอชวนมดไปโลตัส มดเองก็อยากจะรู้จักรูเมตของพี่ปอคนนี้เหมือนกัน จึงชวนพี่เค้าไปด้วย มดกับพี่ปอรู้จากพี่เค้าว่าพี่เค้าชื่อ พี่จูน เรียนบัญชี ท่าทางของพี่เค้าแสนจะเรียบร้อยอย่างสุดขั้วเมื่อเทียบกับลิงทะโมนอย่างมด ดูเหมือนพี่จูนจะเป็นคนไม่ค่อยพูด พี่ปอพยายามชวนพี่จูนคุยระหว่างการเดินทาง แต่ในใจก็ไม่อยากปรับตัวเข้ากับรูเมตคนใหม่ รู้สึกกดดัน แล้วความมีน้ำใจของพี่จูนก็แสดงออกมาจากใจที่โลตัส พี่จูนช่วยมดกับพี่ปอถือของอย่างเต็มใจ
“เดี๋ยวเค้าเดินไปส่งมดที่บ้านเพื่อนก่อนนะ”พี่ปอบอกกับพี่จูน
“ให้เค้าเดินไปเป็นเพื่อนมั๊ย” พี่จูนถาม
“ไม่เป็นไรจ้ะ” พี่ปอปฏิเสธ
“งั้นเค้าเดินเล่นรอที่เอคโปรนะ จะได้กลับพร้อมกัน”พี่จูนพูดก่อนจะส่งของให้มดและเดินไปที่เอคโปรพลาซ่า
“แล้วอย่างนี้พี่จะกล้าไล่เค้าไปอยู่ห้องพี่ตั๊กหรอ” พี่ปอเพิ่งมองเห็นความมีน้ำใจของรูเมตใหม่ก็วันนี้เอง ไม่อยากให้พี่จูนต้องไปอยู่กับพี่ตั๊กที่เป็นลูกสาวคนเดียวที่เอาแต่ใจ อดีตรูเมตของพี่ปอตอนเทอมที่แล้ว
“พี่จะอยู่กับเมตคนนี้แหละ” พี่ปอตัดสินใจ อคติที่เคยมีในใจหายไปหมดสิ้น มิตรภาพระหว่างพี่ปอกับพี่จูนกำลังงอกงามขึ้น
เมื่อแรกเจอพี่จูนมากับเพื่อน ความไม่เป็นมิตรที่ฉายออกมาจากแววตาเพื่อนพี่จูนอย่างชัดเจนจนพี่ปอสังเกตได้ทำให้เกิดอคติในใจของพี่ปอ แต่วันนี้มันได้ลบเลือนไปจนหมดสิ้นแล้ว ด้วย…การชะล้างมัน…ด้วยน้ำใจ…ที่บริสุทธิ์…จากพี่จูน
เมื่อ พ. 16 พฤษภาคม 2550 @ 12:30 จาก 202.28.35.2 ลบ [261920]