วันหนึ่งผมฟังรายการวิทยุสถานีวิทยุตำรวจนครสวรรค์…เขาพูดถึง...เอดิสันทดลองไฟฟ้า 700 ครั้ง…จนเพื่อนท้อ…บอกให้พอ…เลิกเถอะ…แต่เอดิสันมองว่าเป็นโอกาสการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่…จนเขาทำสำเร็จ…ด้วยคติ ความสำเร็จมาจาก แรงบันดาลใจ 10 % ส่วนอีก 90 % เป็นความมานะพยายาม… <p>ผมก็จำจนขึ้นใจได้ทันที...ผนวกกับการพูดคุยกันถึงเรื่องผู้สูงอายุ...</p><p></p>ผมก็นึกถึงหญิงอายุ 86 คนนี้...เธอเป็นต้อเนื้อ...ความจำเสื่อมพอประมาณ...หน้าตาเธอช่างเลื่อนลอย...คล้ายกับจิตใจมิได้อยู่กับกายหยาบตนนี้เลย… เธอคงเฝ้าคอยลูกชายคนเล็ก...ที่มักมาหาเพื่อตัดเล็บมือเล็บเท้าให้เธอทุกสัปดาห์...แม้ว่าจะมีลูกสาวอยู่ดูแลเธอถึง 3 คน...แต่ก็หาได้ทำให้เธอลดความคิดถึงลูกชายไปได้ไม่… … <p>ความสุขใจไหนจะเทียบทัน...มันล้นปรี่จนเธอต้องแสดงออกมาทั้งสีหน้า ท่าทาง และจิตใจ…</p><p> </p><p> </p><p>ทั้</p><p>ทั้งอิ่มเอิบ...ทั้งอบอุ่น...ไม่มีความต้องการอื่นใดไปมากกว่านี้แล้ว...ผู้สูงอายุ...</p><p>และนี่คือแรงบันดาลใจที่ส่งผลให้ผมมุ่งมั่น มานะที่จำทำ...</p><p>ผู้สูงอายุ...สังคมอนาคต...กับกระบวนการปรับเปลี่ยนกรอบวิธีคิด </p>
ท่านเลขาฯ....
อ่านบันทึกนี้แล้วคิดถึงการสนทนาปะสาพระคุณเจ้าที่บวชนานๆ....
บรรดาพระคุณเจ้าก็เริ่มคิดเรื่องทำนองนี้เช่นกันว่า ต่อไปแก่ๆ จะทำอย่างไร ?
ตอนอาตมาบวชใหม่ๆ สนิทสนมกับพระเถระรูปหนึ่ง... ท่านบวชตั้งแต่หนุ่มๆ และตอนนั้นท่านอายุหกสิบกว่าแล้ว ... ก็คลุกคลีอยู่ด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน อยู่ประมาณ ๔-๕ ปี (เที่ยวตามประสาพระ เช่น ไปร่วมปฏิบัติธรรมที่นั้น ไปเข้าปริวาสที่นี้ ไปบังสุกุลที่โน้น ประมาณนั้น)... ดังนั้น จึงมีเรื่องราวที่พอจะเปิดเผยซึ่งกันและกันได้บางอย่าง...
ตามที่พอรู้.. ท่านเคยเป็นเจ้าอาวาส เมื่อพระใหม่ไม่ค่อยเรียนหนังสือ ท่านก็ดุด่าตามประสา... คืนหนึ่งท่านได้ยินพระใหม่คุยกันว่า ท่านด่ามาก ออกไปมีปัญหา เดียวยิงทิ้ง .. ประมาณนี้
ท่านให้ความเห็นว่า เราช่วยเฝ้าวัดให้พวกมัน เข้ามาบวชว่านิดหน่อย จะยิง ... ออกพรรษาผมก็เลยออกจากวัด แล้วก็เริ่มอยู่ตามเปลว (เปลว คือ ป้าช้า)
สรุปว่า ท่านอยู่ป่าช้ามาสิบกว่าแห่ง ก่อนที่อาตมาจะเข้ามาบวชแล้วรู้จักกับท่าน... อาตมาเคยถามว่า ต่อไป... ถ้าเจ็บไข้หรือพึ่งตัวเองไม่ได้จะทำอย่างไร ? ...
ท่านบอกว่า ผมพก ยาตาย ไว้หลายปีแล้ว ถ้าไปไหนไม่รอด ผมก็จะกินยาตาย... ประมาณนี้
ปี ๒๕๓๔ อาตมาเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ... ประมาณ ๑-๒ ปีต่อมา... อาตมากลับสงขลา จะไปเยี่ยมท่าน ก็ได้ทราบข่าวว่า ท่านมรณภาพและเผาไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน....
ปัจจุบันอาตมายังสงสัยอยู่ว่า ท่านฉันยาตายหรือไม่ ? ตราบเท่าทุกวันนี้...
ส่วนอาตมาเองก็คิดว่า แล้วแต่เวรแต่กรรม ไม่ต้องคิดอะไรมาก...
เจริญพร
พระอาจารย์สะท้อนภาวะจิตบางอย่างที่ผมรู้สึกถึงความเป็นไปที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้...
เรื่องเป้าหมายที่ผมจะจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้สูงอายุ...ผมคุยกับ ผอ.พิมล(ผู้อำนวยการสำนักผู้สูงอายุ...ว่างั้น) เขาสรุปจากที่ผมเสนอว่า...
เรากำลังจะช่วยให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ ตายยิ้ม...
ผมฟังแล้วใจขึ้นจริง ๆ ครับ...