ชีวิตที่พอเพียง : 272. ไปเยี่ยมแม่วันสงกรานต์ (๒)


        เช้ามืดวันสงกรานต์ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๐     ผมออกจากโรงแรมชุมพรพาเลซ ขับรถไปทางสนามกีฬา หาที่ออกกำลัง     ไปพบสถานที่ใหม่เอี่ยม คือ "สวนอาภากรเกียรติวงศ์" ซึ่งเป็นสวนสาธารณะของเทศบาลเมืองชุมพร     สถานที่สวยงามกว้างขวาง ยังปรับปรุงไม่เสร็จดี     และมีคนมาเดินออกกำลังเพียง ๒ - ๓ คน เพราะฝนตกปรอยๆ      ผมโชคดีที่เป็นเด็กบ้านนอก คุ้นกับฝน     ไม่เจ็บป่วยเมื่อโดนฝน

        ภายในสวนมี อนุสาวรีย์ (พลเรือเอก) กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์    ด้านหน้าอนุสาวรีย์ทำเป็นเหมือนสะพานเดินเรือ     มีธงชาติและธงเรือชักอยู่     ในบริเวณมีที่จุดประทัด     และมีสถานที่เป็นร้านขายประทัด    เพราะเชื่อกันว่าท่านชอบเสียงปืน    แต่เขามีป้ายห้ามยิงปืน     ตอนนั้นเป็นเช้าตรู่ กิจกรรมขายของหรือไหว้เสด็จเตี่ยยังไม่เริ่ม     แถมมีฝนตกปรอยๆ ด้วย สถานที่จึงเงียบสงบสบอารมณ์ผมเป็นยิ่งนัก

        ยิ่งเมื่อเข้าไปวิ่งในบริเวณก็ได้ยินเสียงนกโพระดกร้องอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ก็ยิ่งให้ความสดชื่น     เสียแต่ว่ามันรีบบินหนีไปเมื่อผมไปจ้องจะถ่ายภาพมันด้วยกล้องจิ๋วคู่กาย     วิ่งไปบริเวณที่ไม่มีคน นกปีกสีน้ำเงินตัวโตเท่าๆ นกพิราบ บินหนีไปอย่างรวดเร็ว   นอกจากนั้นในบริเวณยังมีนกยาง  นกเอี้ยง     เนื่องจากบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้สูงใหญ่ โดยเฉพาะต้นจามจุรี และต้นไทร      

         กลับมาถึงห้องพัก ลูกสาวกับป้าไป ช้อปปิ้ง ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวเหลือง และปาท่องโก๋ จากร้านใกล้ๆ โรงแรม     เอามาปรนนิบัติพ่อแม่อย่างดี     ข้าวเหนียวต่างจังหวัดห่อใหญ่ ๒ เท่าของที่กรุงเทพ    เราขอน้ำร้อนมาชงกาแฟที่ภรรยาเตรียมมา      ภรรยาต้องกินกาแฟในตอนเช้า เพื่อช่วยเร่งการเคลื่อนไหวของลำใส้     มิฉะนั้นอึไม่ออก

          โรงแรมมีแขกมาพักเต็มหมด     รถเต็มลานจอด    เราออกจากโรงแรมเวลาประมาณ ๘.๓๐ น.     ผมบอกสมาชิกว่าจะพาไปทัวร์ถนนเลียบริมทะเล     คือไปตำบลท่ายางบ้านผมผ่านถนนเลียบริมทะเล     แล้วผมก็พาหลงวนเวียนไปมาจนไปพบถนนเส้นใหญ่มาก ๔ - ๖ เลน ที่ตัดจากตำบลสามแก้ว ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมือง เลี่ยงเมือง ไปผ่ากลางตำบลนาทุ่ง จนจรดถนนปรมินทร์มรรคาที่ตำบลบางหมาก     แต่เขายังปิดช่วงรอยต่อ     เราจึงต้องหาทางอ้อม และหลงจนไปพบทางไป ตำบลปากหาด ซึ่งอยู่ริมทะเล      ไปพบทางเลียบริมทะเลจากตำบลปากหาด สู่ตำบลคอสน ซึ่งมีทางแยกไปตำบลท่ายางที่บ้านของผมอยู่ในที่สุด     เท่ากับว่าผมหลงทางจนพบทางที่ตั้งใจจะมา

          ที่บ้านมีลูกๆ หลานๆ ของแม่พากันมาจากกรุงเทพ และที่ชุมพร     ทำให้บ้านซึ่งเคยเงียบเหงาครึกครื้นขึ้นทันตา     แกะลูกพี่ลูกน้องกับผม ไปจากกรุงเทพ ไปเป็นแม่ครัวใหญ่ทำกับข้าวหลายอย่างให้กิน     เมนูยอดนิยมของผมตอนมื้อเที่ยงคือผัดยอดเหรียงกับไข่    ไข่ปลาหมึกทอด    และปลาทูย่าง     ปลาทูต้มหวาน     ผมทบทวน Family Tree ฝ่ายแม่กับแม่ น้องชาย และลูกพี่ลูกน้องที่เป็นหลานแม่     บันทึกไว้เป็นประวัติของแม่

          พอตกบ่าย เราก็ขอลาไปนอนพักผ่อนที่โรงแรม เพราะเป็นช่วงที่หนุ่มๆ สาวๆ เขาเล่นสาดน้ำกัน     และอากาศก็เป็นใจ คือฝนหยุด แดดออกจ้า ให้ความร้อนชวนเล่นสาดน้ำ     รถในบริเวณตลาดชุมพรเต็มไปด้วยรถกระบะบรรทุกหนุ่มสาวและเด็กตระเวณเล่นสาดน้ำ โดยทำหน้าที่เป็นฝ่ายรุก     มีทีมที่ตั้งหลักอยู่ริมถนนเป็นฝ่ายรับ     สังเกตว่าเล่นกันเรียบร้อยดี    

         บ่ายแก่ๆ ๑๖.๓๐ น. เราออกจากโรงแรมไปบ้านท่ายาง     แต่ก่อนจะถึงเราเลี้ยวซ้ายตรง กม. ๕ เข้าบ้านอู่ตะเภา      เพื่อไปดูนกที่บ้านปากหาด     ระหว่างทางพบสนามชนควาย มีรถกระบะและรถมอเตอร์ไซคล์จอดเต็ม     ที่จริงผมกับลูกสาวคนที่ ๒ อยากเข้าไปดู แต่เกรงใจคนรอ     เราจึงเลยไปหลังลงไปถ่ายรูปบรรยากาศจากไกลๆ   

         ที่ชายทะเลบ้านปากหาด มีนกทะเลหรือนกชายหาด ได้แก่ นกยางทะเล  นกหัวโตทรายใหญ่  และนกอีก๋อยเล็ก    ผมถ่ายรูปสวยๆ ด้วยกล้อง Sony DSC H1 ได้หลายรูป    ผมค้นพบโดยบังเอิญว่ากล้องนี้ถ่ายซูมเต็มที่กันมือสั่นโดยเล็งด้วยตาดีกว่าดูที่จอ     แล้วขับรถไปดูที่ชายทะเล ซึ่งเป็นสวนมะพร้าว ที่พี่น้องผมทุกคนได้รับมรดกจากพ่อแม่ คนละประมาณ  ๖ ไร่     หน้ากว้างติดทะเล ๑ เส้น     ลึกประมาณ ๖ เส้น     แต่ผมไม่รู้ว่าที่อยู่ตรงไหน     ไปถึงบ้านน้องชายจึงชวนไปดู     เราชวนแม่ไปดูด้วย     แม่บอกว่าเบื่อชายทะเลตรงที่ตัวแมลงชายทะเล ที่บ้านผมเรียกตัวเปิ่งกัด แล้วเป็นแผลพุพอง     ผมกับลูกๆ วางแผนกันเล่นๆ ว่าที่นี้เอาไว้สร้างอาศรมปฏิบัติธรรม     ที่ผืนนี้ทั้งหมดประมาณ ๘๐ ไร่     พี่น้องผมได้รับแบ่งคนละ ๑ เส้นตามแนวชายหาด     ที่เหลือประมาณ ๕๐ ไร่ตกเป็นของน้องชายคนที่ ๓     เขาปลูกปาล์มน้ำมันเต็มพื้นที่     งามดีมาก     ต้นยังเล็กอยู่ ยังไม่ตกทะลาย     ที่บริเวณสวนมีนกตัวดำๆ หางแฉกจำนวนมาก บินฉวัดเฉวียนอย่างรวดเร็วจับแมลงกิน    เหมือนกับที่ผมไปเห็นที่นครนายกเมื่อเดือนที่แล้ว      น้องชายบอกว่าเป็นนกจาบคา     แต่ผมกลับมาเปิดตำรา นกจาบคาไม่ใช่สีดำ    และไม่ใช่หางแฉก   

         กินอาหารเย็นฝีมือกัลยา น้องสะไภ้คนที่ ๓  และแกะ     อร่อยตามเคย     มีหลนปลาเค็ม  ผัดใบเหรียง  แกงจืดเยื่อไผ่  ห่อหมก  และแกง  หลานๆ ของแม่มากันกว่า ๑๐ คน ครึกครื้นมาก     ลูกๆ ของผมเขาอยากไปกินน้ำแข็งหวานเย็น     แต่เขาปิดวันสงกรานต์     ข้าวต้มหัวปลาเจ้าอร่อยก็หมดสิทธิ์ไปกิน    เพราะกินอาหารเย็น  พร้อมกล้วยบวดชี  และส้มโชกุน จนจุกเรียบร้อยแล้ว   

                           

                                  สนามชนควาย อู่ตะเภา

                          

       รถมอเตอร์ไซคล์จอดเต็มข้างทางบริเวณสนามชนควาย

                          

                                  รถยนต์ก็จอดเต็มไปหมด

วิจารณ์ พานิช
๑๓ เม.ย. ๕๐  วันสงกรานต์
โรงแรมชุมพรพาเลซ  

หมายเลขบันทึก: 94925เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2007 10:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2012 12:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อยากกินคะอยากกิน

วันนี้ที่โรงเรียนอบรมKMวันแรกเลยลองวิชาเปิดอ่านของท่านเป็นคนแรก จะหัดsharingบ้างนะคะอย่ารังเกรียจครูม.3คนนี้ซะก่อน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท