อาหารเช้าแบบเบาๆ

พวกเราคงจะชอบอาหารเช้าแบบง่ายๆ สบายๆ และต้องเร็วด้วย… ผู้เขียนขอนำคำแนะนำจากท่านอาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารมาฝากครับ <p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">อาจารย์ศัลยาแนะนำว่า อาหารเช้ามีความสำคัญมากกว่าที่คิด เนื่องจากร่างกาย “อดอาหาร” มาตลอดคืน คิดเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมงขึ้นไป</p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">นอกจากนั้นคนเราจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานแทบจะทันทีที่ตื่นนอน การงดอาหารเช้าอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ </p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะในเด็ก อาจทำให้ปวดท้อง ปวดหัว เพลีย หงุดหงิด ผลการเรียนหรือทำงานตกต่ำลงได้</p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">จากการทดลองในอาสาสมัครประมาณ 500 คน ใช้เวลา 1 ปี โดยกำหนดให้อาสาสมัครกินอาหารวันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 50 แคลอรีขึ้นไป และมีระยะเวลาระหว่างมื้อ 15 นาทีขึ้นไป </p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">นั่นคือ ให้อาสาสมัครกินวันละ 4 มื้อ เป็นอาหารหลัก 3 มื้อ และอาหารว่าง 1 มื้อ ผลปรากฏว่า อาสาสมัครที่งดอาหารเช้ามีโอกาสอ้วนเป็น 450% เมื่อเทียบกับอาสาสมัครที่กินอาหารเช้า</p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตัวอย่างอาหารเช้าแบบเบาและเร็ว เช่น </p><ul style="margin-top: 0cm"> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> เครื่องดื่มสำเร็จรูป 1 แก้ว เช่น เครื่องดื่มมอลต์ ข้าวโอ๊ต(เติมนมไม่มีไขมัน นมไขมันต่ำ หรือนมถั่วเหลือง) ฯลฯ </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> ถ้าต้องการลดแคลอรี ใช้น้ำตาลเทียม ให้เติมตอนเครื่องดื่มไม่ร้อนจัด เนื่องจากน้ำตาลเทียมบางชนิดอาจเสื่อมสภาพ ทำให้ไม่หวานถ้าเติมตอนร้อนจัด </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> ขนมปังโฮลวีท หรือขนมปังข้าวสาลีไม่ขัดสี(สีรำ) 1-2 แผ่น </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> น้ำผลไม้ประเภท “หวานน้อย(น้ำตาลต่ำ) หรือน้ำผัก เช่น น้ำมะเขือเทศ ฯลฯ 1 แก้ว </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> ผัก 1 ฝ่ามือ เช่น แตงกวา แครอท ฯลฯ ถ้าไม่อิ่มเพิ่มผักอีก 1 ฝ่ามือ </li> </ul><p>อาหารเช้าเบาๆ แบบนี้ป้องกันอ้วนด้วย และป้องกันโมโหหิวได้ด้วยครับ… </p><p>    ขอแนะนำให้อ่าน...         </p><ul>

รวมเรื่องสุขภาพ > ลดความอ้วน

[ Click - Click ]

รวมเรื่องสุขภาพ > สุขภาพสมอง

[ Click - Click ]

บล็อกสารคดีแบบสบายๆ > "บ้านสาระ"

http://gotoknow.org/blog/talk2u

</ul><p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">    แหล่งที่มา:                  </p><ul style="margin-top: 0cm"> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> ขอขอบพระคุณ > นักกำหนดอาหารชี้ งดอาหารเช้าส่งผลเสียต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำวิธีง่ายๆ กินถูกหลักโภชนาการ. กรุงเทพธุรกิจ BizWeek (www.bangkokbizweek.com). ปี 3. ฉบับ 151. 4-10 พฤษภาคม 2550. หน้า D8. (ทางหนังสือพิมพ์อ้างแหล่งที่มาจากมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ). </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt">ขอขอบพระคุณ > โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ IT + หน่วยรังสีกรรม > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.</li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> ขอขอบพระคุณ > ศูนย์มะเร็งลำปาง + อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี IT ศูนย์มะเร็งลำปาง > สนับสนุนทางเทคนิค + อินเตอร์เน็ต.   </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt">แนะนำให้อ่าน “บ้านสาระ” > [ Click - Click ]</li> <li class="MsoNormal" style="margin: 12pt 0cm 0pt; tab-stops: list 36.0pt"> นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์. จัดทำ > 5 พฤษภาคม 2550. </li> </ul>

[JJ]

เรียนท่านอาจารย์ หมอวัลลภ

• อาหารเช้า JJ เล่นอาหารหนักเลยครับ เป็นข้าว
• กลางวันเริ่มเบาบางเป็นก๋วยเตี๋ยวปลา
• ยามค่ำเป็นน้ำๆครับ

[นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์]

ขอแสดงความเคารพท่านอาจารย์หมอ JJ...

• ถ้าได้แบบอาจารย์น่าจะดี...
• "เช้าหนักหน่อย - กลางวันค่อยๆ น้อย - ยามบ่ายคล้อยเน้นน้ำๆ"
• น่าจะดีกับสุขภาพมากๆ เลยครับ

[๑ ใน 77 โดย หุย]

คุณพ่อ ย้ำตั้งแต่เด็กๆ ตื่นเช้า ต้องรีบไปเรียนยังไง ลูกๆ ต้องกินข้าวเช้า มีข้าวสวยร้อน กับไข่ดาว หรือ หมูผัดกระเทียมอะไรก็ว่าไป  จำได้ว่าเบื่อหมูผัดกระเทียม แต่ก็กินรองท้องค่ะ ติดนิสัยต้องกินข้าวเช้า จนบัดนี้ค่ะ ยกเว้นว่า ติดงานอะไรที่เช้ามากๆ ติดพันก็ต้องงดไปรวบกับกลางวัน 

อาม่า ตอนมีชีวิตอยู่ จะกินน้ำข้าวต้ม 1 ถ้วย สายๆ ก็กินข้าวตามปกติ ดื่มน้ำชาจีนแทนน้ำเปล่า จึงไม่เคยเป็นโรคเหน็บชา อาหารทานพออิ่ม กินขนม ชิมพอรู้รส ชอบของเปรี้ยวๆ หวานๆ ผลไม้ก็ทานไม่เยอะค่ะ แต่ทานง่าย เลี้ยงง่าย มีอายุยืนถึง 104 ปี ปลายเดือนนี้ครบรอบวันตาย 1  ปี ค่ะ ตอนเสียเหมือนคนถอดปลั๊ก คือ ไม่ค่อยทานข้าว นอนตลอดวัน ปลุกมาทานได้สองคำก็ขอนอน นอนอยู่ 2 อาทิตย์ ก็หมดลมไปเอง ทุกวันนี้ขอให้ตัวเองไม่เจ็บไม่ไข้เลี้ยงง่ายเหมือนอาม่า ค่ะ ใครได้ฟังเรื่องที่เล่า ต่างยกนิ้วให้อาม่าหุยว่า สุดยอดแล้ว เพราะไม่มีโรคภัย ไม่มีเบาหวาน ไม่มีหัวใจ ไม่มีความดัน มีปวดเมื่อย ปวดขาตามอายุเท่านั้น เดินเหินขึ้นลง วันละ 1 ครั้ง นอนพื้น ไม่นอนเตียง (ทำให้เส้นขาไม่ยึดเพราะต้องลุกขึ้นนั่ง ยืน จากพื้น) ใครไม่รู้คิดว่าไม่ยอมซื้อเตียงให้ ซื้อเบาะยัดนุ่นให้ยังไม่นอนเลย แผ่นหลังอาม่าไม่ค่อม ไม่โกง เพราะนอนพื้น ว่าแล้วก็คิดถึง แต่แกไปสบายเราก็ดีใจค่ะ ไม่ทรมาน ใครอยากอายุยืน ต้องเป็นแบบอาม่าหุยค่ะ

[นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์]

ขอขอบคุณ... คุณหุย

• ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยที่มีญาติผู้ใหญ่อายุยืน แสดงว่า รุ่นลูกหลานมีโอกาสอายุยืนกว่าประชากรทั่วไปด้วย
• การกินข้าวเช้า กินพออิ่ม(ไม่มากเกิน) อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ แบบอาม่าคุณหุยก็ทำให้อายุยืนได้ครับ...