บันทึกการเมืองไทย : รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550

         ในหนังสือ "รัฐธรรมนูญใหม่...ชีวิตใหม่ของคนพิการ"  ระบุว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 จะมีจุดเด่นที่ถือว่าก้าวหน้ากว่ารัฐธรรมนูญปี 2540   อย่างน้อย 4 จุด   ได้แก่
1. ฝ่ายบริหาร จะมีอำนาจลดลง   แต่ไม่ได้ลดลงมากจนทำงานไม่ได้
2. การมีส่วนร่วมของประชาชนจะมีเพิ่มมากขึ้น
3. ระบบตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐจะต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. จริยธรรมคุณธรรมทางการเมือง  การบริหารงานของนักการเมืองและข้าราชการประจำ

         ผมเห็นด้วยกับเจตนารมณ์ทั้ง 4 ข้อ ในการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้

เอกสารอ้างอิง   รัฐธรรมนูญใหม่...ชีวิตใหม่ของคนพิการ  จัดพิมพ์โดยแผนงานสร้างเสริมสุขภาพคนพิการในสังคมไทย, สสส.

วิจารณ์  พานิช
 1 พ.ค.50

[วุฒิชัย สังข์พงษ์]

กระผมก็เป็นคนหนึ่งที่คอยเรียนรู้การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ จากข่าวทั้งทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และอินเตอร์เน็ต กระผมเห็นสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่มีค่า ปัจจุบันเป็นผลผลิตของอดีต และอนาคตก็จะเป็นผลผลิตของปัจจุบัน ซึ่งเรายังบอกไม่ได้ว่าจะมีปัจจัยอะไรบ้างในอนาคตที่จะมีผลกระทบต่อผลผลิต ถึงแม้ว่าเราคิดว่าเราอาจจะเริ่มต้นจากวัตถุดิบที่คัดสรรแล้วว่าเป็นวัตถุดิบที่ดี แต่ถ้ากระบวนการผลิตหรือการปฏิบัติไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพผลผลิตที่ออกมาอาจจะไม่เป็นอย่างที่ทุกคนวาดไว้หรือหวังไว้ใช่หรือเปล่าครับ หรือได้ผลผลิตที่ดีออกมาแต่คนใช้ไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้องก็อาจทำให้ผลผลิตดังกล่าวเสียหายหรืออาจมีผลกระทบต่อผู้ใช้ผลผลิตดังกล่าวอีกก็อาจเป็นได้จริงหรือเปล่าครับ กระผมมองว่าเราต้องมาเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน อย่างเข้าใจกระบวนการทั้งหมดที่จะทำการผลิตผลผลิตจนกระทั่งการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน โดยเงื่อนเวลาที่เหมาะสมไม่ใช่แค่ช่วงเวลาสั้นๆหรือจำกัดจนเกินไป ซึ่งต้องมองว่าผลผลิตที่จะสร้างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความหลากหลายไม่ใช่วัตถุที่กำหนดรูปแบบที่ชัดเจนได้ แต่ความเป็นสิ่งมีชีวิตอาจกำหนดได้แค่เพียงแนวทางที่อาจเป็นนามธรรมเช่น อยากให้เป็นคนดี แค่นี้ก็ยากมากๆแล้ว จริงหรือเปล่าครับ เพราะแม้แต่ตัวกระผมซึ่งพยายามแล้วก็ยังมีข้อเสียอีกหลายประการ แต่โดยหลักแล้วกระผมยึดทางสายกลางที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น หรือกระทบกับผู้อื่นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้   สำหรับร่างรัฐธรรมนูญที่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้พยายามร่างและให้โอกาสประชาชนได้แสดงความคิดเห็นเพียงเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย เพราะอะไรนั้น เป็นเพียงวิธีการหรือกระบวนการในการหาน้ำหนักเพียง 2 ด้าน แต่ในโลกของความคิดเห็นมีความจริงซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะนำมาใช้ในการจัดการความรู้ทางการเมืองหรือด้านอื่นๆ ของประเทศ บนพื้นฐานของความจริง  ถึงแม้ว่าการแสดงความคิดเห็นจะเป็นเพียงของคนบางกลุ่ม  ส่วนคนบางกลุ่มอาจไม่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเนื่องจากเป็นผู้ทำมาหากินแบบไม่ค่อยมีเวลาทำอย่างอื่นและเป็นคนหมู่มากในประเทศที่ได้ชื่อว่าประเทศกำลังพัฒนา จะไม่ค่อยได้มีโอกาสหรือเวลาที่จะมาร่วมแสดงความคิดเห็น แม้แต่กระผมที่พยายามหาโอกาสแล้วก็ยังเข้าถึงได้ยากพอสมควร แล้วพวกเขาเหล่านั้นก็คงจะมีโอกาสน้อยกว่ากระผมเป็นหลายสิบหรือร้อยเท่าแน่ๆ  แต่กระผมคิดว่าบุคคลเหล่านั้นก็จะมีความคิดเห็นกับสิ่งที่มากระทบเมื่อเขาเหล่านั้นได้ประสบ  กระผมเชื่อมั่นว่าการทำอะไรด้วยความบริสุทธิ์ใจและโปร่งใส ย่อมเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของทั้งบุคคลผู้กระทำและประเทศชาติ ขอให้ผู้มีโอกาสกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกท่านจงได้รับผลของการกระทำโดยทั่วกันเทอญ(เวลาจำกัด  จึงขอจบก่อนครับ ยังมีความคิเห็นอีกมากมายที่อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้มีประสบการณ์)

[ทีน่า]

อยากให้มีระบบอะไรก็ได้ที่จะตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง  เพราะที่ตัวเองไม่เคยไปเลือกตั้งเนื่องจากไปเลือกมาแล้วผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นกลับได้ ถามคนในเขตแถวบ้าน  แน่นอนไม่มีใครเลือกคน ๆ นี้  แต่ก็คน ๆ นี้ก็ได้เข้าไปเล่นการเมืองท้องถิ่น  อยากให้กำจัดระบบนี้แทนที่จะให้เรากาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเพราะเสียเวลา

1. เข้าคิวหาชื่อ
2. ปั๊มหัวแม่มือ
3. กาบัตร
4. หย่อนบัตร