ครอบครัวสร้างเสริมสุขภาพ


ถ้าครอบครัวมีสุข พนักงานจะทุ่มเทให้องค์กรมากขึ้น

หลายวันมานี้ ผมไม่ได้อยู่ที่คณะในวันศุกร์ จึงไม่มีโอกาสเข้ากิจกรรมศุกร์สนทนา (Admin Journal Club) วันนี้ ถือโอกาสยกประเด็น ถ้าครอบครัวมีสุข พนักงานจะทุ่มเทให้องค์กรมากขึ้น ซึ่งจะถือเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับผู้บริหารพบบุคลากร พฤหัสบดีที่ ๔ ของเดือน

                วันที่ ๒๔พฤษภาคม ๒๕๕๐ นี้ เป็นวันครบรอบ ๑ ปี คำประกาศสร้างเสริมสุขภาพของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร คำประกาศสร้างเสริมสุขภาพฯ ต้องการให้เป็นร่มใหญ่นโยบายสุขภาพขององค์กรเพื่อส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพ เมื่อครบปีก็ทบทวนสักครั้งหนึ่ง เพื่อวางแผนปฏิบัติงานกันต่อไป                ข้อแรกของคำประกาศฯ เสนอแนะให้อาจารย์แพทย์เป็นตัวอย่างที่ดีด้านการสร้างเสริมสุขภาพ นอกจากปฏิบัติแล้วก็เขียนสมุดสุขภาพของตนเอง เพื่อกำหนดเป้าหมายการดูแลสุขภาพ ดูเหมือนข้อนี้จะไม่เกิดผลอะไรเลย อาจขัดกับนิสัยของคนไทยเราที่ไม่ค่อยชอบเขียนกันนัก                ข้อสอง มอบหมายให้ภาควิชา ๑๑ ภาค ช่วยกันจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพของเดือน แรกๆ จัดกันได้ ๓-๔ ภาค เช่น กิจกรรมแพทย์กินผักรักสุขภาพ กิจกรรมวอล์คแรลลี่ของภาควิชาอายุรศาสตร์ กิจกรรมเดิน-วิ่ง ของภาควิชาพยาธิวิทยา กิจกรรมลีลาศ ของภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ฯลฯ จากนั้นก็เลือนๆ ไป ยังตั้งเป้าหมายว่า กิจกรรมเหล่านี้ อาจมีเป้าหมายไปถึงครอบครัวของอาจารย์และบุคลากรที่เข้ามาร่วมสนุกกันได้ ดูเหมือนวอล์คแรลลี่ ที่มีสมาชิกเด็กๆ เรียกร้องอยากมาร่วมกิจกรรมอีก                ข้อสาม คาดหวังให้คณะติดตามศึกษาพฤติกรรมสุขภาพของสมาชิกอย่างเป็นระบบ อย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง เพื่อนำข้อมูลนั้นวางนโยบายสร้างเสริมสุขภาพที่ดีต่อไป ข้อสี่ ต้องการเห็นการสร้างเสริมสุขภาพเกิดขึ้นกับทุกๆ เครือข่ายพันธมิตรของคณะแพทยศาสตร์ และข้อห้า คณะสนับสนุนนโยบายมหาวิทยาลัยให้บ่ายวันพุธเป็นวันกิจกรรมออกกำลังกายสร้างเสริมสุขภาพประจำสัปดาห์ดูเหมือนว่าคำประกาศฯ นี้ยังต้องพิสูจน์สัมฤทธิผลต่อไปอีกสัก ๑ ปี แต่วันที่จะผ่านปีแรกคือ ๒๔ พฤษภาคม นี้ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม ครอบครัวสร้างเสริมสุขภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายให้สมาชิกของคณะฯ พาสมาชิกครอบครัวที่ชอบการสร้างเสริมสุขภาพมาร่วมกิจกรรมกัน และตอน ๑๕.๓๐ น. ก็จะเป็นกิจกรรมผู้บริหารพบบุคลากรเช่นทุกเดือน

               การจัดกิจกรรมครอบครัวสร้างเสริมสุขภาพ จึงเป็นการทำตามความรู้ที่ว่า หากครอบครัวมีความสุข พนักงานองค์กรก็จะทำงานให้องค์กรได้มากขึ้น คงต้องพิสูจน์กันต่อไปว่า สมาชิกครอบครัวของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรจะมีกิจกรรมออกมาในรูปไหน และจะสานต่อแนวคิดจากคำประกาศสร้างเสริมสุขภาพของปีที่สองอย่างไรต่อไป 

 

หมายเลขบันทึก: 93569เขียนเมื่อ 1 พฤษภาคม 2007 06:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2012 14:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

        ขอบพระคุณท่านคณบดี ที่ได้กรุณาสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้นกับคณะฯของเรา หลายต่อหลายสิ่งที่ผ่านมา และแนวคิดทั้ง5ข้อนี้ งานด้านทรัพยากรบุคคล จักได้ประสานงานกับ  ส่วนโรงพยาบาล งานประชาสัมพันธ์ รวมถึงภาควิชาและสำนักงานต่างๆในส่วนสำนักงานคณบดี เพื่อให้การสร้างเสริมสุขภาพเกิดขึ้นตามคำประกาศสร้างเสริมสุขภาพคณะแพทยศาสตร์และเพื่อให้เกิดผลต่อเนื่องสอดคล้องกับ ตัวชี้วัดและเกณฑ์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพของ กสพท.ตามมาตรฐาน TQA(Thailand Quality Award) ต่อไป

"หากครอบครัวมีความสุข พนักงานองค์กรก็จะทำงานให้องค์กรได้มากขึ้น"และ"มีความสุขมากขึ้น"

                                             Sirikasem

                                            May1,2007

 

 

สุขสันต์ วันแรงงานครับ ท่านคณบดี

  • ครอบครัวเป็นสุข งานได้ผลครับท่านคณบดี
  • สวัสดีวันแรงงานแห่งชาติครับ
  • ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับบันทึกดีดีค่ะ
  • หนูเห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า  "หากครอบครัวมีความสุข พนักงานองค์กรก็จะทำงานให้องค์กรได้มากขึ้น"และ"มีความสุขมากขึ้น"  เพราะครอบครัวเป็นรากฐาน/จุดเริ่มต้นของคนทุกคนในสังคมค่ะ

ขอเชิญชวนบุคลากร พาสมาชิกในครอบครัวมาร่วมกิจกรรม"ครอบครัวสร้างเสริมสุขภาพ"ในว้นที่24 พ.ค.ตั้งแต่11.00นเป็นไป ส่วนรายละเอียดทีมงานจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไปค่ะ

ครอบครัวเป็นพื้นฐานที่สำคัญของ "ทุกเรื่อง" เลยครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท