ผมขอกล่าวถึงคนรอบข้าง ที่คอยดูแลผม ซึ่งถือว่า มีความสำคัญสำหรับผู้ป่วยทุพพลภาพมากๆ ไม่กล่าวถึงไม่ได้
คราวนี้ ผมขอกล่าวถึงคนรอบข้าง ที่คอยดูแลผม ซึ่งถือว่า มีความสำคัญสำหรับผู้ป่วยทุพพลภาพมากๆ ไม่กล่าวถึงไม่ได้
แพทย์ ก็มีผู้ช่วยแพทย์ ผู้จัดการ ก็มีผู้ช่วยผู้จัดการ รมต. ก็มี รมช. แม้แต่พยาบาล ก็ยังมี ผู้ช่วยพยาบาล ดังนั้นผมจึงมี
ผู้ช่วยผู้ป่วย ด้วยเหมือนกัน
คนแรกเป็นลูกพี่ลูกน้อง ผู้หญิง อายุเท่ากัน มาดูแล เพราะ ณ เวลานั้นยังไม่มัใครว่างที่จะมาดูแลได้
ต่อมา น้องสาวคนโตของผมก็สามารถแบ่งเวลา มาผลัดเปลี่ยนดูแล สลับกัน 2 คน จนผมกลับบ้าน
หลายเดือนต่อมา น้องสาวผมก็ลาออกจากงาน มาช่วยงาน และดูแลผมอย่างเต็มตัว ส่วนลูกพี่ลูกน้องก็ห่างออกไป เพราะก็ต้องดูแลงานของครอบครัวเช่นกัน
ล่วงเลยมา 4 ปีกว่า ก็มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้ามองภายนอกแล้วอาจจะมีมุมมองว่าไม่ดีนัก แต่สำหรับผมแล้ว เป็นหนทางที่ถูกต้อง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ เป็นไปในทิศทางที่ผมคิดว่า "ควรจะเป็นแบบนี้" ผมจึงได้มี ผู้ช่วยผู้ป่วยคนใหม่ ชื่อพี่ "บัว"
พี่บัว เป็นชาวอุบลฯ ที่มามีครอบครัวที่ศรีสะเกษ เข้ามาทำงานในพื้นที่กนุงเทพฯ-ปริมณฑล 10 กว่าปี เปลี่ยนงานมาหลายอย่าง จนได้มาเป็นคนดูแลคนป่วย ที่ศูนย์ฯ แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และแฟนของผมติดต่อมาให้ แต่เป็นเพราะศูนย์ฯ เอาเปรียบเรื่องรายได้ ผมจึงให้พี่ ออกจากศูนย์ฯ มาดูแลผมโดยตรง
ถึงตรงนี้ ผมขอเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย บางข้อ คือเรื่อง การหยุดงาน ลางาน หรืออีกนัยคือ ปกติผู้ทุพพลภาพต้องมีคนดูแลตลอด แม้แต่เวลานอน เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือแบบทันทีทันใด ซึ่งก็เกิดกับผมมาหลายครั้งแล้ว (ผมจะเล่าในตอนที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ศึกษากันอีกที) แต่ในความเป็นจริง ถ้าคนดูแลไม่ได้เป็นญาติ หรือพี่น้องท้องเดียวกัน ก็จะต้องกลับบ้านต่างจังหวัด กลับไปหาครอบครัว เช่นกัน
ดังนั้น การที่ได้คนดูแล จากศูนย์ฯ เมื่อคนดูแลจะกลับบ้าน ทางศูนย์ฯ ต้องรับผิดชอบหาคนอื่นมาแทน ซึ่งจะทำให้การดูแลไม่ขาดช่วง แต่ข้อเสียคือ ถ้าเราได้คนดูแลดีแล้ว เมื่อเปลี่ยนคนกลับบ้าน ก็อาจจะไม่ได้คนเดิมมาดูแล หรือบางครั้งอาจถูกขอเพิ่มค่าใช้จ่าย ถ้าเขารู้ว่าเราต้องการคนนี้
แต่ถ้าเรามีคนดูแลที่ถูกใจ คนเดียว ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านต่างจังหวัด บางครั้งผมถึงกับต้องอดทนนิดหน่อย เช่น ไม่เช็ดตัว 3 วัน พอแกกลับมา ผมจะดีใจมาก นี่ก็เป็นข้อคิดที่ผมเลี่ยงไม่ได้ เป็นระยะๆ ตามฤดูกาล เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ดำนา เกี่ยวข้าว ลูกเปิดเทอม เป็นต้นครับ
ประสบการณ์เกี่ยวกับผู้ดูแลผม หรือ ผู้ช่วยผู้ป่วย ก็คงมีเท่านี้ก่อน ตอนหน้าผมขอพูดถึง สรุปความช่วยเหลือ หรือสิ่งที่ได้รับจากบริษัท Berli Jucker ครับ
ตอนนี้สั้นๆ ขอจบก่อนครับ
ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
mobile : 089-6910225
Tel। & Fax.: 02-9232724
email :
[email protected]