องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมักจะมีปัญหาอยู่เสมอในเรื่องของการบริหารงานบุคคล ซึ่งจะพบอยู่ว่าปัญหาที่หนักอกอยู่แล้วแก้ไขได้ยาก คือ ปัญหาที่นายก.อปท. มักจะไม่ลงลอยกับปลัดของอปท. ทำให้ระหว่างสองฝ่ายต่างก็หากลเม็ดมาจัดการกัน
ไอ่จะย้ายปลัด ปลัดเองก็ไม่มีที่จะไป ก็ทำให้มีการเกิดสงครามแย่งชิงมวลชนในองค์กรกันขึ้น
ปลัดก็จะเริ่มใช่เทคนิคทางกฎหมายขู่นายก.อปทอยู่เสมอว่าถ้าเล่นกู กูก็จะเล่นมัน (ใช้ภาษาพ่อขุนหน่อยนะครับ) ถ้าแผลนายก.อปท.เรื่องผลประโยชน์มากหน่อย ก็จะอาศัยชันเชิงไม่มาก แต่ถ้าแผลนายกไม่มีปลัด อปท.คนนั้นก็ต้องเหนื่อยหน่อย แต่ปลัด อปท.ก็ลืมปัญหาไปว่า ปัจจุบัน นายก.อปท.ก็ไม่ใช่โง่นะครับ แล้วที่ปรึกษาส่วนใหญ่ก็จบกฎหมายทั้งนั้นแถมมีอิทธิพลอีกต่างหาก ทำให้ปลัด อปท.มักจะพูดกับผมอยู่เสมอว่า ไม่ได้เกิดเป็นลูกนายกให้มันรู้ไป (อาว)
นายก.อปท.ก็ต้องเริ่มหาพวกแล้ว แต่มีไม้เด็ดอยู่ 1 อย่างที่นายกชอบใช้อยู่เสมอ คือ อำนาจในการบริหารงานบุคคลไงครับ (เงินเดือนก็เอาไปซัก 1 ขั้น ต่อปีแล้วกัน โบนัสก็ได้แค่ครึ่งเท่าก็พอ (ถ้าขอให้ผมเลือกผมจะไม่ขอเลือกเรื่องนี้ ขอว่าคุณห้ามทำอะไรนะปลัดให้คุณนั่งอยู่เฉยก็พอ ผมจะเอาคนอื่นมารักษาราชการแทนคุณ (อาวหนักกว่าเดิมอีก นี้ก็จบ รู้สึกว่าไม้นี้นายก.อปท.จะเอาไปใช้อยู่มากนะครับ)
แต่ถ้าเป็นทฤษฏีทางรัฐศาสตร์แล้ว หากข้าราชการจะสู้กับนักการเมืองในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์สอนโปรแกรมสาขาวิชาการปกครองท้องถิ่นของวิทยาลัยชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ ผมก็แนะนำให้ใช้ทฤษฎีไซเบอร์เนติกส์ โดยใช้สื่อมวลชลเข้ามาช่วยนะครับ (ข้าราชการคนไหนเก็บความรู้นี้ไว้ ไม่เป็นประโยชน์วันนี้ก็นำไปใช้ในวันหน้าได้ (วันนี้ง่วงนอนแล้วต้องขอลาแม่ขวัญตาไปก่อนนะครับ ) แล้วเจอกันไหม
ไม่มีความเห็น