ก่อนอื่นต้องบอกขีดจำกัดของตัวเองก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
1. ผมไม่ได้เขียนโปรแกรมให้คนอื่นใช้ เขียนเพื่อตัวเองใช้เป็นหลัก (มีข้อยกเว้นนิดหน่อย ซึ่งเกือบประมาณได้ด้วยศูนย์)
2. ผมไม่เคยเขียนโปรแกรมที่มีความยาวเกิน 2000 บรรทัด
3. ผมเขียนเป็นเพียง 2 ภาษา คือ BASIC รุ่นเก่า และ SQL รุ่นเก่า
ผมไม่คุ้น..ชิน.. กับ queue, stack, pointer, UML, XML, java, PHP, dot net, C พลัดๆ (ชื่อน่าหวาดเสียว) เมื่อก่อนยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่คุ้น..ชินยังงั้นเหมือนเดิมสิ่งที่ผมเรียนรู้จากการเขียนโปรแกรม ไม่ใช่ทักษะโปรแกรมมิ่งครับ แต่เป็นทักษะที่ใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
ตัวอย่างเช่น เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ผมเคยเขียนโปรแกรมยุบรวม text file เข้าด้วยกัน แล้วเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ text file ที่สร้างขึ้นนานแรมเดือนหายไปเกลี้ยงชั่วพริบตา ซึ่งทำให้ผมต้องปรับวิธีจัดการกับแฟ้มข้อมูลตัวเองใหม่หมด ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นที่นำไปสู่ข้อสรุปตามข้อเขียนชุดเอกสารมีชีวิตที่ผมเคยเขียนไว้ปีก่อน
Donald E. Knuth มองว่า การเขียนโปรแกรมเป็นศิลปะ
เพราะเขาเองก็เรียนรู้การใช้ชีวิตจากการขียนโปรแกรม
ยังมีอีกยาวครับ ค่อยว่ากันต่อ...
ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน
เราแต่ละคนก็คงมีวิกฤติเล็ก ๆ เฉพาะตัวที่ทำให้ตัวเราไม่เดินตกหลุมแบบนั้นซ้ำอีก
ลปรร กันก็ทำให้คนอื่นทุ่นแผลถลอกเวลาเดินครับ
สวัสดีครับอาจารย์
Donald E. Knuth มองว่า การเขียนโปรแกรมเป็นศิลปะ
เพราะเขาเองก็เรียนรู้การใช้ชีวิตจากการขียนโปรแกรม
ผมชอบการมองนี้จังครับ ศิลปะในการโปรแกรม เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เป็นการวาดด้วยสมองและจินตนาการผ่านปลายนิ้วมือสู่แป้นพิมพ์เกิดเป็นเสียงกระทบแป้นพิมพ์ออกมาได้เป็นดนตรีตาจังหวะการพิมพ์
หากเราอัดเสียงเอาไว้แล้วประกอบเป็นดนตรีแนวทางหนึ่งจะเห็นอะไรบางอย่าง ตอไปรวมกับผลของโปรแกรมอีกครับ มีทั้งตัวอักษร เสียง ภาพประกอบกัน
ขอบคุณมากๆ เลยครับ
อยากรุ้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมภาษาQBไม่ทราบว่าคุณทราบรึเปล่า
ถ้าทราบช่วยมาบอกที
คุณ คาร์