* * ปลาทอง * *


จำนวนปลาที่จะเลี้ยงควรเป็น 6 ตัว 8 ตัว หรือ 9 ตัว ถือว่าเป็นมงคล คนในบ้านจะมีจิตใจแจ่มใสขึ้น ฐานะการเงินก็จะดีขึ้น

       สืบเนื่องจากน้องสาวสามีได้งานทำใหม่จึงเอาปลาทองที่น้องเค้าเลี้ยงไว้มาฝากเราให้ช่วยเลี้ยง 2 ตัวพร้อมตู้และอุปกรณ์ เราก็เลี้ยงมาได้สักระยะนึง ก็นึกขึ้นได้ว่าตามหลักฮวงจุ้ยแล้วเนี่ยเค้าบอกว่าถ้าเลี้ยงปลาทองควรเลี้ยง 6 ตัว 8 ตัว หรือ 9 ตัว เพื่อเสริมดวงและแก้เคล็ด 

       คือถ้ารู้สึกว่า ชีวิตแห้งแล้ง  ความเป็นอยู่ในบ้านมิได้ลำบากมาก แต่จิตใจแห้งแล้งขาดชีวิต ชีวา บางครั้งเงินทองก็ติดขัดไม่ราบรื่น คนในบ้านไม่มีความสดชื่น กระตือรือร้น

วิธีแก้เคล็ดก็คือ
       ให้เลี้ยงปลาตู้สวยงามประดับบ้าน เลือกให้มีปลาเงิน-ปลาทอง ร่วมด้วยยิ่งดี จำนวนปลาที่จะเลี้ยงควรเป็น 6 ตัว 8 ตัว หรือ 9 ตัว ถือว่าเป็นมงคล คนในบ้านจะมีจิตใจแจ่มใสขึ้น ฐานะการเงินก็จะดีขึ้น มีโชคมีลาภไม่ขาด แต่ต้องดูแลตู้ปลาให้สะอาดสดใสอยู่เสมอ

       ฉะนั้นแล้ว เราก็เลยไปซื้อตู้ปลาที่มันใหญ่กว่าเดิมเพื่อที่จะรองรับปลา 8 ตัวให้อยู่อย่างสบายๆ กันดีกว่า เย็นวันเสาร์ก็เลยไปเดินตลาดจตุจักรซื้อตู้ปลามาตู้นึง รอาคา 1,500 บาท รวมอุปกรณ์ พร้อมขาตั้งครบชุด (มีรูปมาให้ดูด้วยนะ) แล้วก็ซื้อหินซื้อไม้น้ำมาประดับ และก็ซื้อปลามาเพิ่มอีกให้เป็น 8 ตัว เบ็ดเสร็จหมดเงินไป 1,890 งบบานปลายเลย - -" แต่ก็นะ สามีบอกว่า เห็นเราอยากได้ ซื้อก็ซื้อ เพราะเค้าไม่ค่อยจะซื้ออะไรให้เราเลย ก็แอบดีใจ อิอิ ^ ^

       ได้ตู้ปลากลับมาห้อง 3 ทุ่มกว่า ตกแต่งตู้ปลากัน 2 คน (น่าจะเป็นเค้าคนเดียวมากกว่า ส่วนเราเป็นกำลังใจให้ หยิบโน่น หยิบนี่ แหะๆๆ) กว่าจะเสร็จปาไปเที่ยงคืนกว่าๆ เราก็นอนดูตู้ปลาด้วยความสำราญใจ ด้วยว่าเราแต่งงานกันแล้วแต่ก็ยังไม่มีบ้าน ยังอาศัยที่ห้องพักของพนักงานที่ทำงานเราเหมือนเดิม จะเลี้ยงสัตว์อย่างอื่นมันก็ไม่ได้เนอะ งั้นก็เลี้ยงปลาทองนี่แหละไหนๆ ก็ไหนๆแล้วนี่นา

       แต่ตื่นเช้ามาไข่ปลาเต็มตู้เล้ย!!!! ตื่นเต้นมากรีบปลุกสามี (ที่นอนตื่นสายเพราะเป็นวันหยุด) เค้าก็งัวเงียๆ เออ ๆๆ แล้วนอนต่อ เราก็มานั่งดูไข่ปลานี่นา ถึงว่าเมื่อคืนเห็นปลาคู่นึงว่ายไล่กันอยู่ ไอ้เราก็ไม่รู้ว่ามันจะวางไข่ได้เร็วขนาดนี้ (ทำไมคนเราไม่ท้องง่ายเหมือนปลาบ้างน๊า...) วันนี้จึงมาหาข้อมูลเรื่องปลาทอง...เหมือนเดิม อยากรู้อะไรไป google

       ได้ข้อมูลคร่าวๆ เรื่องการเลี้ยงปลาทองมาดังนี้

       ปลาทองเป็นปลาที่มีต้นกำเนิดสายพันธุ์จากตระกูลปลาใน ปลาตะเพียน หรือปลาคาร์พ ปลาทองทุกชนิด ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดก็ตาม จะมีอยู่ในสายพันธุ์ (Species): Carassius auratus. โดยการแบ่งสายพันธุ์ทางวิทยาศาสตร์

ชนิดของปลาทองที่นิยมเลี้ยงโดยทั่วไป

1. หัวสิงห์
               เป็นปลาทองสายพันธุ์หนึ่ง ที่มีลักษณะเด่นคือ จะไม่มีกระโดงหลัง เป็นปลาทองที่มีราคาค่าตัวสูงมากเหมือนกัน ปัจจุบันที่เป็นที่ต้องการของตลาด มีอยู่ 2 สายพันธุ์หลัก คือ สิงห์จีน และสิงห์ญี่ปุ่น

สิงห์จีน จะมีหลังที่โค้งครึ่งวงกลมลักษณะป้านกว่าสิงห์ญี่ปุ่น และมีลักษณะเด่นคือจะมีวุ้นที่บริเวณเยอะ สีพื้นฐานเป็นสีเหลืองนวลหรือทองสะท้อนแสง

สิงห์ญี่ปุ่น จะมีหลังที่โค้งมนครึ่งวงกลมน่าดูกว่า และมีวุ้นส่วนหัวน้อยกว่าแต่จะมีวุ้นส่วนแก้มที่มากกว่า สีพื้นฐานเป็นสีเหลืองเข้มถึงแดงเข้ม

          ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ และความนิยมจนสองสายพันธุ์นี่แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน จนถึงพัฒนาสายพันธุ์เด่นตามที่ต้องการเช่น เน้นวุ้น, เน้นขนาด, หางแฉก หรือกระทั่งความโค้งมน สามารถแยกความงามได้เป็นแบบ Top View / Side View

2. ฮอลลันดาฮอลันดา 
               เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะพึ่งเลี้ยงปลามานานแล้ว หรือพึ่งจะมาหัดเลี้ยง เพราะสายพันธุ์ออรันดาห์นี้ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นปลาที่มีความอดทนสูง ว่ากันง่ายๆ ก็คือตายยาก จุดเด่นของสายพันธุ์นี้ก็คือ มีวุ้นเยอะ หรือที่เค้าเรียกว่าหัววุ้น แต่จะแตกต่างกับสิงห์ก็คือ สายพันธุ์นี้จะมีกระโดงหลังครับ

3. ลักเล่ห์ ลักเล่ห์
               จุดเด่นของปลาสายพันธุ์นี้ก็คือ ตาของมันที่โปนออกมามาก ปัจจุบันนี้มีหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นเล่ห์ดำ, เล่ห์ควาย, เล่ห์ห้าสี และเล่ห์นาก

4. ริวกิ้น ริวกิ้น
               เป็นสายพันธุ์ที่สวยอีกสายพันธุ์หนึ่ง จุดเด่นของสายพันธุ์นี้ก็คือส่วนหลัง จะมีโหนกสูงสวย ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าคล้ายคลึงกันลักเล่ห์อูฐ เพราะว่าเล่ห์อูฐนั้นได้ผ่านการผสมข้ามสายพันธุ์กันริวกิ้นนั่นเอง

5. เกร็ดแก้ว
เกร็ดแก้ว               เป็นปลาทองสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองไทย มีรูปร่างอ้วนกลมเหมือนปลาปักเป้าเวลาพองตัว ถ้าสังเกตุที่เกร็ดของเค้าจะดูเหมือนน้อยหน่าสวยดี แปลกดีด้วย

 6. โคเม็ท โคเม็ท
               ปลาทองพันธุ์นี้เป็นปลาทองที่มีลักษณะค่อนข้างธรรมดา แต่มีความงดงามพอสมควร ลำตัวค่อนข้างบอบบาง มีสีที่ดาษดื่นทั่วๆไปคือ สีแดงเข้ม แต่ถ้าเป็นสีเหลืองอร่ามทั้งตัว จะเป็นปลาที่หาได้ยยากและมีราคาแพง หางเป็นแบบชนิดหางแฉกต่อนข้างยาว ปลาทองพันธุ์นี้เป็นปลาที่ค่อนค้างปราดเปรียว การเคลื่อนไหวว่องไว สำหรับในประเทศไทย ก็ยังไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันสักเท่าใดนัก

7. ลูกโป่ง ลูกโป่ง
               เป็นปลาทองที่มีลักษณะเด่นคือ บริเวณแก้มใต้ตาทั้งสองข้างจะมีถุงขนาดใหญ่ คล้ายกับลูกโป่ง ลำคัวทรงเพรียว หลังโค้ง ไม่มีครีบหลัง สีทอง หรือเหลืองเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะที่ดีคือ ลูกโป่งต้องมีขนาดสมส่วนเท่ากันทั้งสองข้าง และใหญ่กว่าส่วนหัวของปลา

การเลือกซื้อปลาทอง 
               ควรศึกษาดูเสียก่อนว่า

1. ปลาทองสายพันธุ์ที่เราจะนำมาเลี้ยงนั้นมีจุดเด่น ,จุดแข็งตรงไหน? เช่น สายพันธุ์ออรันดา เป็นปลาที่ค่อนข้างแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย ถ้าเรารู้ตัวเราว่าเราเลี้ยงปลาไม่ค่อยเก่ง เราก็ควรจะเลือกพันธุ์ดังกล่าว เป็นต้น

2. ร้านขาย, บ่อ, บ้านที่ขาย ควรที่จะไว้ใจได้ ไม่ใช่ว่าเห็นเราซื้อปลาไม่เป็น ก็เลยเอาปลาที่มีลักษณะไม่สวยมาขายให้ ในราคาแพง

3. ส่วนลักษณะของปลาที่แข็งแรงนั้น ควรที่จะว่ายนํ้าอยู่ตลอดเวลา ไม่เหงาซึมตามลำตัวไม่มีบาดแผลหรือเกร็ดหลุด และไม่มีสัตว์จำพวกเห็บปลาหรือ หนอนสมอเกาะอยู่

4. ส่วนลักษณะที่สวยงามของปลาทองนั้น ต้องใช้ความชำนาญนิดนึง รูปร่างได้สัดส่วนตามสายพันธุ์ สีสันสดเข้ม ครีบครบไม่หักงอ 

ทีนี้เราก็ได้ข้อมูลคร่าวๆกันแล้วเนอะ สงสัยว่า ปลาทองของเราจะเป็นฮอลันดานี่กระมัง 555 ตอนซื้อก็ไม่ได้ถามเค้า เนื่องว่า เราไม่ได้ซีเรียสว่าจะพันธุ์อะไรยังไง เอาว่าชอบก็เอามาเลย (นิสัยแบบนี้ไม่ดีเหมือนกัน ^ ^") แล้วทีนี้ปลาเรามันวางไข่แล้วอ่ะ จะทำไงดีมันถึงจะฟักเป็นตัวออกมาได้ ก็ลองไปดูวิธีอนุบาลปลากันละกัน

      พื้นฐานทั่วไปของปลาชนิดนี้ มีวงจรชีวิตอยู่ได้ 4-5 ปี หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแล ที่สำคัญอย่าเลี้ยงปลาตากแดด น้ำต้องสะอาด ไม่มีส่วนผสมของคลอรีน อายุ 1-1 ปีครึ่ง ก็วางไข่ได้แล้ว โดยมักวางไข่ และฟักได้ดีในฤดูหนาว หากอยู่ ในสภาวะอากาศที่เหมาะสม สามารถ ฟักเป็นตัวได้ภายใน 2-4 วัน

       :: การเลือกพ่อแม่พันธุ์ปลาทอง :: 
               ปลาทองจะเจริญพัฒนาจนกระทั่งมีความสมบูรณ์เพศเมื่อมีอายุประมาณ 6 เดือน น้ำหนัก 30 กรัม ก็สามารถใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ได้แล้ว แต่แม่ปลาขนาดเล็กจะให้ไข่น้อย และไข่มีขนาดเล็ก การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ ควรตรวจสอบลักษณะรูปร่างให้มีลักษณะ ตรงตามสายพันธุ์ สมบูรณ์แข็งแรง มีครีบตั้งแข็งไม่ฉีกขาด มีเกล็ดเป็นเงางาม และตรวจสอบความสมบูรณ์เพศ ดังนี้

ปลาเพศผู้
ในฤดูผสมพันธุ์ บริเวณแผ่นปิดเหงือก (operculum) และด้านหน้าของครีบหูจะมี ตุ่มเล็ก ๆ คล้ายเม็ดสิวเรียกว่า pearl organ เกิดขึ้น เวลาสัมผัสจะรู้สึกสากมือ

ปลาเพศเมีย
มีรูปร่างกลมและป้อมกว่าเพศผู้ ปลาเพศเมียที่มีไข่แก่เต็มที่พร้อมจะผสมพันธุ์นั้น ส่วนท้องจะอูมใหญ่ และอ่อนนิ่ม บริเวณก้นจะบวมและมีสีแดงเรื่อ ๆ แม่ปลาที่ใช้ไม่ควร มีอายุเกิน 1 1/2 ปี เนื่องจากแม่ปลาที่มีอายุมากเกินไปจะไม่วางไข่

เราข้ามขั้นตอนไปดูการฝักไข่เลยดีกว่าเนอะ

การฟักไข่
               นำรังเทียมที่มีไข่เกาะติดไปฟักในถังฟักไข่ ซึ่งอาจใช้บ่อซีเมนต์ ถังไฟเบอร์ โอ่ง หรือกะละมังพลาสติกก็ได้ ถ้าใช้ถังไฟเบอร์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร ใส่น้ำลึก 50-60 เซนติเมตร จะใช้ฟักไข่ได้ประมาณ 100,000 ฟอง ให้อากาศตลอดเวลา ไข่ปลาทองจะฟักออกมาเป็นตัวภายใน 2-4 วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิน้ำ ลูกปลาแรกฟัก มีขนาดเล็กมาก ตัวใส เกาะติดกับรังไข ่หลังจากฟักเป็นตัวแล้วประมาณ 2-3 วัน ลูกปลาจึงจะว่ายออกจากรังไข่ และว่ายน้ำเป็นอิสระ ลักษณะตัวมีสีเข้มขึ้น จะนำรังเทียมออกจากบ่อในระยะนี้แล้วอนุบาลในบ่อเดิมต่อไป หรืออาจย้ายลูกปลา ไปอนุบาลในบ่อใหม่ก็ได้

        อันนี้เราไม่มีรังเทียม แต่ดีว่าเราซื้อไม้น้ำมาด้วย 2 ต้นก็เลยมีที่ให้ไข่เกาะ แล้วสามียังเอาลูกกอล์ฟใส่ลงไปในตู้ปลาอีกต่างหาก อิอิอิ
 
การอนุบาลลูกปลาทอง 
        ลูกปลาทองที่ฟักออกเป็นตัวระยะแรก จะยังไม่กินอาหาร เนื่องจากยังใช้อาหาร จากถุงไข่แดงที่ติดอยู่กับหน้าท้องได้

       เมื่อลูกปลาอายุ 3 วัน ถุงไข่แดงจะยุบ จึงเริ่มกินอาหาร อาหารในระยะแรกคือ ไข่แดงต้มสุกบดละเอียด ละลายน้ำสาดให้กินวันละ 3-4 ครั้ง ลูกปลา 100,000 ตัว ให้ไข่ประมาณวันละ 1 ฟอง

      เมื่อลูกปลาอายุ 1 สัปดาห์ ควรเสริมไรแดงให้ลูกปลากิน ลูกปลาจึงจะเจริญเติบโต ได้รวดเร็ว และแข็งแรงสมบูรณ์ หรือให้ไรแดงตั้งแต่วันที่ 3 เลยก็ได้

       เมื่อลูกปลาอายุ 1 เดือน จึงทำการคัดขนาดและย้ายบ่อ โดยคัดปลาที่มีขนาดใกล้เคียงกันไปอยู่ในบ่อใหม่และให้อาหารเม็ดปลาดุกเล็ก หรืออาหารมีชีวิต ได้แก่ ลูกน้ำ หนอนแดง เป็นต้น เมื่อลูกปลาทองมีอายุประมาณ 1.5-2.5 เดือน จะเริ่มเปลี่ยนสี ช่วงนี้ทำให้การคัดปลาที่มีลักษณะสวยงามถูกต้องตามสายพันธุ์
เพื่อเลี้ยงไว้ต่อไป ส่วนปลาที่เหลือจะนำไปเลี้ยงรวมกันอีกบ่อ เป็นปลาทองที่ จำหน่ายในราคาที่ถูกกว่า สำหรับปลาที่พิการและถูกคัดทิ้งจะนำไปจำหน่าย เป็นปลาเหยื่อ

ว่าแล้วการหาข้อมูลเกี่ยวกับปลาทองของเราก็จบด้วยประการฉะนี้ หากท่านใดสนใจเพิ่มเติม หาข้อมูลได้ที่ google เลยค่ะ มีเพียบ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะ 55)

ทีนี้ก็มายลโฉมตู้ปลาเรามั่งละกันต้องออกตัวก่อนว่าภาพอาจไม่ชัด เพราะถ่ายจากโทรศัพท์ค่ะ

ตู้ปลามีตึก worldtred ด้วยนะ อิอิ

นี่ไง! ไข่ปลาที่เกาะอยู่อ่ะ ขาวๆ เล็กๆ

หมายเลขบันทึก: 93353เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2007 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอโทษค่ะอยากเห้นรูปปลาทองชนิดต่าง ๆ ค่ะ

แต่ว่าปลาทองหัวสิงห์สวยมากเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท