“I’m OK, you’re OK.” หมายถึง การที่บุคคลมีความเข้าใจตนเอง รู้ความสามารถตนเองและมี ทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ในขณะเดียวกันก็เข้าใจผู้อื่น ยอมรับความสามารถของผู้อื่นตลอดจนมีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่นด้วย ลักษณะนี้การทำงานจะราบรื่น ถ้ามีข้อขัดแย้งจะได้รับการแก้ไขด้วยดี
“I’m OK, you’re not OK.” หมายถึง การที่บุคคล มองตนเองว่าเก่งกว่า ดีกว่า มีความ สามารถสูงกว่าผู้อื่น จนทำให้มองว่าคนอื่น ๆ มีข้อบกพร่องมาก ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นในงานจะโทษว่าเป็นความผิดของผู้อื่นทั้งสิ้น ลักษณะนี้แสดงถึงการไม่ยอมรับความสามารถของผู้อื่น ซึ่งเป็นการทำลายความรู้สึกถึงคุณค่าในตนของผู้อื่น ผลที่ตามมาคือ ผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ จะเกิดความรู้สึกต่อต้าน ไม่ยอมรับตัวเราด้วยเช่นกัน และไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน
“I’m not OK, you’re OK.” ในข้อนี้มีความหมายสองนัย นัยหนึ่ง หมายถึง การที่บุคคลมีปัญหาส่วนตัว หรือมีปัญหาด้านจิตใจอย่างมากจนเกิดความท้อแท้ในการทำงาน มีอาการซึมเศร้า หมดกำลังใจ (Depress) และขาดการยอมรับตนเองมองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี ไม่มีความสามารถ เป็นบุคคลที่ไม่มีใครต้องการ แต่กลับมองว่าผู้อื่นเป็นคนดี มีความสามารถมากกว่า รูปแบบความคิดที่มองตนเองเป็นลบมาก ๆ อาจทำให้บุคคลนั้นมีความคิดทำลายตนเอง หรือ ฆ่าตัวตายได้ (suicidal idea) ส่วนความหมายตามนัยที่สอง หมายถึงการที่บุคคลมีการยอมรับตนเองแบบ I’m OK. รู้ข้อบกพร่องของตนเอง และยอมรับข้อบกพร่องนั้นได้ สามารถบอกผู้อื่นถึงสิ่งที่ตนเองไม่สามารถกระทำได้ และตัดสินใจให้ผู้ที่มีความสามารถในเรื่องนั้นเป็นผู้กระทำ ซึ่งเท่ากับว่าตนเองนั้นรู้ตัวดีว่า I’m not OK ในเรื่องใด แต่แนวคิดนี้เป็นการสร้างสรรค์ ทำให้ผู้อื่นเกิดศรัทธาที่ตัวเรายอมรับความจริง และมองเห็นคุณค่าของผู้อื่น
“I’m not OK, you’re not OK.” หมายถึง การที่บุคคลมีปัญหาทางจิตใจอย่างมาก ไม่ยอมรับตนเองและในขณะเดียวกันก็ไม่ยอมรับผู้อื่นด้วย ลักษณะนี้จะมีความผิดปกติทางความคิดอย่างเด่นชัด ต้องได้รับการบำบัดทางจิต เพราะจะเกิดปัญหาไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้(เข้า ร.พ.ศรีธัญญา จ้า...)
ขอบคุณค่ะที่ติดตาม ใช้เป็นข้อคิดกับตนเองมาตลอดเลยค่ะ และใช้แนะนำนักเรียนอยู่เสมอเวลาสอนนักเรียน(นักเรียนทหาร) เพราะเห็นว่าเป็นมุมมองที่ดีจริง ๆ