เมื่อวันที่ 17-20 เมษายน 2550 ได้มีโอกาสเข้าอบรมวิทยากรเครือข่ายคุณธรรมภาคใต้ เขต 11 มีผู้เข้าร่วมจาก 7 จังหวัด ผุ้เข้าอบรมเองมีความรู้สึกว่าการจัดอบรมครั้งนี้มีเนื้อหาสาระที่ดีมาก ไม่เสียเวลาและงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ เพราะทุกคนที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้เอาแต่สิ่งที่ดีงามในสังคมและชุมชนมาพูดถึงกันทำให้มองเห็นและมีความหวังว่าสังคมของเราไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป เรามีสิ่งดีๆที่ประพฤติ ปฏิบัติกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ขาดคือการยอมรับและการประชาสัมพันธ์สิ่งดีๆให้โลกรู้เท่านั้นเอง วันนั้นผู้เข้ารับการอบรมได้วิชาใหม่ที่ฟังแล้วรู้สึกประทับใจกับการถ่ายทอดของอาจารย์ผู้หนึ่ง (อ.สำเริง จากนครศรีธรรมราช) ที่พูดถึง คุณธรรมในด้านต่างๆ เปรียบเทียบกับนิทานซึ่งเราทุกคนรู้จักดี เอามาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมที่เข้าใจง่ายๆ เห็นชัดๆและปฏิบัติตามได้เลยมาเปรียบเทียบให้ฟัง ผู้อบรมเห็นว่าเป็นประโยชน์จึงเอามาถ่ายทอดต่อเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป
คุณธรรมที่พึงประสงค์ 8 ประการ
ความมีวินัย ตรงกับนิทานเรื่อง จันทรโครพ
ความมีน้ำใจ ตรงกับนิทานเรื่อง ชาวนากับงูเห่า
ความซื่อสัตย์ ตรงกับนิทานเรื่อง คนตัดไม้กับเทพารักษ์
ความขยัน ตรงกับนิทานเรื่อง ขุมทรัพย์ในไร่องุ่น
ความประหยัด ตรงกับนิทานเรื่อง คนขี้เหนียวกับทองคำ
ความสุภาพ ตรงกับนิทานเรื่อง พิกุลทอง
ความสะอาด ตรงกับนิทานเรื่อง นางอุทัยเทวี
ความสามัคคี ตรงกับนิทานเรื่อง นกกระจาบ
ถึงอย่างไรก็เอามาถ่ายทอดต่อแล้ว ก็ถือโอกาสเอาเสียให้จบเลยก็แล้วกัน จะเห็นว่ายุคนี้ต้องใช้ชีวิตตามนโยบายรัฐต้องมีวิถีพอเพียงในทุกๆด้าน จะเห็นว่าความพอเพียงนั้นจะเข้าใจไม่ตรงกันอยู่เอาเป็นว่าลองตัดสินเอาเองว่าเราจะพอเพียงแค่ไหน แต่ทฤษฎีของเศรษฐกิจพอเพียงต้องมี 3 ด้าน คือ พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความชัดเจนก็ลองตามหานิทานเหล่าอ่านนี้ดูนะคะ
คุณลักษณะตามหลักเศรฐกิจพอเพียง
ความพอประมาณ ตรงกับนิทานเรื่อง หมากับเงา
ความมีเหตุผล ตรงกับนิทานเรื่อง สังข์ทอง
การมีภูมิคุ้มกัน ตรงกับนิทานเรื่อง มดง่ามกับจักจั่น
ถูกใจหรือไม่ถ่ายทอดต่อหรือเปล่า แต่เอามาเป็นบทเรียนเปรียบเทียบกับตนเองสอนตนเองก็น่าจะพอ
สาวคะ
ไม่มีความเห็น