ชุดภาพสังเวชนียสถาน(อินเดีย-เนปาล) ๗


Hiker

    ภาพที่ 1:      

ภาพถนนจากสนามบินกาย่า (Gaya airport) ไปพุทธคยา (Boddh Gaya)...

  • คุณปู นักศึกษามหาวิทยาลัยมคธ เมืองกาย่าบอกว่า ค่ารถสามล้อ หรือค่ารถเมล์ในเมืองกาย่าประมาณ 3 รูปี(ประมาณ 2.70 บาท) ไม่แพงเลย ทว่า... ช้าและแออัด

เมื่อก่อน (2542-2547) นี้.... เงินอินเดีย 1 รูปีประมาณ 0.80 บาท หรือ 80 สตางค์ มาปีนี้ (2550)... เงินอินเดีย 1 รูปีประมาณ 0.90 บาท หรือ 90 สตางค์ นับว่า เงินรูปีแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินไทย

  • โปรดสังเกตรถโดยสารยี่ห้อ "ตาต้า (Tata)" ซึ่งเป็นวิสาหกิจใหญ่ของอินเดีย ทำธุรกิจตั้งแต่ผลิตรถ คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงชาตาต้า

อินเดียมีความก้าวหน้าในเรื่องโทรศัทพ์ทางไกลที่ไปถึงไร่นาทั่วประเทศ... โปรดสังเกตที่ป้าย 'STD-PCO' ซึ่งย่อมาจากอะไรไม่ทราบ ทว่า... เป็นที่รู้กันว่า ถ้ามีป้ายนี้จะโทรศัพท์ไปไหนก็ได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

  • พระภิกษุรูปหนึ่งเล่าว่า เมื่อก่อนเวลาจะโทรศัพท์ไปเมืองไทยต้องนั่งรถไฟไปกัลกัตตา จึงจะโทรศัพท์ทางไกลได้ เดี๋ยวนี้สบายกว่าแต่ก่อนเยอะเลย

 

   ภาพที่ 2:     

ถนนระหว่างทางเข้าเมืองกาย่า... โปรดสังเกตว่า คนที่นี่ชอบปลูกต้นตาล และโปรดสังเกตพระเจดีย์ในวัดพม่า (ตรงกลางภาพ)

    ภาพที่ 3:     

ซุ้มประตูโค้งแบบอินเดีย... บริเวณเมืองกาย่า (Gaya) มีมหาวิทยาลัยใหญ่คือ มหาวิทยาลัยมคธ ที่นี่มีนักเรียนไทย(ส่วนใหญ่เป็นพระ)เรียนกันหลายท่าน

  • คนที่เรียนจบอินเดียนี่... ผู้เขียนขอยกย่องว่า เก่งมาก เพราะต้องเก่งทั้งภาษาอังกฤษ ต้องฟังอังกฤษแบบแขกพูดเร็วและรัวได้ทัน ต้องเก่งภาษาฮินดีไว้ เผื่อการเดินทาง และจับจ่ายใช้สอย และต้องเอาตัวรอดสารพัดในสังคมที่มีการแข่งขันสูง

กล่าวกันว่า ถ้าอยู่อินเดียได้... ก็อยู่ได้ทั่วโลก เพราะสิ่งแวดล้อมที่นี่สอนให้เป็นคนสู้ชีวิต...

    เรียนเชิญดาวน์โหลด:     

  • บทสวดมนต์ ทำวัตรเช้า มูลนิธิรักษ์ธรรม
  • [ Click - Click ]
  • พระปริตรธรรม วัดท่ามะโอ ลำปาง
  • [ Click - Click ]

    แหล่งที่มา:     

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > 19 เมษายน 2550.
  • ขอขอบพระคุณ > ท่านพระอาจารย์เศรษฐกิจ, คุณชลลดา, บริษัท เอ็น.ซี.ทัวร์ > ท่านผู้ให้ความอนุเคราะห์รถโดยสารจากสนามบินกาย่าไปวัดไทยพุทธคยา
หมายเลขบันทึก: 91256เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2007 17:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ตามมาอ่านค่ะ แฟนตัวจริง คนอินเดีย เก่งภาษาจัง ทั้งพูด เขียน สู้เขาไม่ได้ เวลาสอน ก็สอนเก่งค่ะ คนเก่งเยอะ

เคยไปเคาะประตู จะโทรทางไกลมาบ้าน ที่ บริการโทรศัพท์ในเมือง พอพระอาทิตย์ขึ้น คนแต่งชุดขาวๆ ก้มลงกราบพระอาทิตย์กับทางเท้า ไม่ได้ลาดยาง สงสาร ชุดขาวเลย เคร่งมากค่ะ

ขอขอบพระคุณอาจารย์ sasinanda...

  • คนอินเดียเกิดมาพร้อมกับสมองที่ดีเยี่ยม ฉลาด และขยัน โดยเฉพาะภาษานี่เก่งคล้ายๆ คนยุโรป
  • คนอินเดียมักจะพูดได้คนละหลายๆ ภาษา อย่างน้อยก็ภาษาฮินดี(ภาษากลาง) +/- อังกฤษ หรือภาษาท้องถิ่น เช่น เบงกาลี ฯลฯ

บางที...

  • บางที... คนอินเดียส่วนหนึ่งคงจะพัฒนาไปเป็น "แรงงานความรู้ (knowledge workers)" แบบที่ศาสตราจารย์ปีเตอร์ เอฟ. ดรัคเกอร์กล่าวไว้ก็เป็นได้
  • ทีนี้... ถ้าคนอินเดียกลายเป็น "มันสมองของโลก (brain of the world)" ขึ้นมา... อะไรจะเกิดขึ้น (เพราะเขาฉลาด + ขยัน + ประหยัด)

วัฒนธรรม...

  • คนอินเดียค่อนข้างอนุรักษ์นิยม (conservative) ทางวัฒนธรรม จึงเกิดนวัตกรรม เช่น การสวดมนต์ + ทำบุญ + หาคู่แบบวรรณะ (caste matching) ผ่านอินเตอร์เน็ต ฯลฯ
  • คนทั่วโลกไปเที่ยวอินเดีย... ส่วนหนึ่งเพราะอยากไปดู "ของแปลก" ซึ่งมีเยอะแยะ
  • ว่าแต่ว่า เมืองไทยมี "ของแปลก" ที่จะให้นักท่องเที่ยวชมบ้างไหมครับ

อ.จ.คะ

คุยกับคุณหมอวิจิตร คุณหมอไปทำงานอยู่UNESCO หลายปี ไปๆมาๆ รู้จักอินเดียดี

คุณหมอบอกว่า คนอินเดีย เทียบเท่ากับคนยิว พอๆกัน ยิวก็สมองดีมากๆ

เวลาเจองูให้ตีงูก่อนนะคะ  ถ้าอินเดียรวมกับจีนได้ เพราะผลประโยชน์ อิทธิพลของโลกอาจเปลี่ยนข้าง เท่ากับ สมอง บวก กับแรงคน ค่ะ

ของแปลกของเราก็มีเยอะ แต่แปลกแบบดีๆ ท่องเที่ยวไงคะ ของเรา สุดยอด สวยมากๆ เราอย่าทำลายก็แล้วกัน และหัตถกรรมเราก็สวยมาก อะไรอีกเยอะแยะ ข้อสำคัญ คนไทยใจดี น้ำใจดี ไม่ขี้โกง โดยภาพรวม อยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่มีเงิน อยู่ไม่ได้ นะคะ ไม่มีคนไหน ยื่นมือมาหรอก

ขอขอบพระคุณอาจารย์ sasinanda...

  • ขอขอบพระคุณสำหรับการแวะมาเยี่ยมเยียน และให้ข้อคิด...

ตีงูหรือตีแขก...

  • เรื่องงูกับแขกนี่... ผมคงไม่ตีทั้งงูและแขกครับ เพราะบาป และทำให้ศีล 5 ขาด
  • ยกเว้นมีเหตุทำให้ขาดสติ...

เมืองไทย...

  • ผมลองถามคนไทยดู...
  • ประมาณ 100% บอกว่า เวลาไปต่างบ้านต่างเมือง... พอกลับมาเมืองไทยแล้วดีใจ แช่มชื่นใจ ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย

ฝรั่ง...

  • ฝรั่งนี่หลายๆ ท่านมักจะบอกว่า เมืองไทยไม่ค่อยมีอะไรประเภท "(ดี)ที่สุด" เหมือนบ้านอื่นเมืองอื่นหรอก
  • ทว่า... คนไทย 'friendly' = คนไทยมีความเป็นมิตรสูง (รากศัพท์ของมิตร = เมตตา = มีความปรารถนาให้ตนเอง + สัตว์อื่นมีความสุข)...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท