ภาวนา เปิดประตูใจ


อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย

พระพุทธโอวาท

อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย

เราจะจำและนำไปปฏิบัติตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะพ้นทุกข์

ไปอบรมการเจริญสติปัฏฐาน "ภาวนาเปิดประตูใจ"ที่พุทธมณฑลมา เมื่อวันที่ 6-16 เมษายน 2550

เป็นการอบรมธรรมที่นานที่สุดเท่าที่เคยปฏิบัติมา
ได้อะไรประสบการณ์อะไรเยอะแยะเยอะแยะ อยากบันทึกไว้เป็นความทรงจำ แต่เราสรุปโดยใช้ภาษาชาวบ้าน ใช้ภาษาธรรมะไม่เป็น

1. เห็นการปรุงแต่งของความคิด-- มื้อเช้าวันนึง ขณะกัดสาลี่ เห็นการดำเนินของจิตดำเนินไปเป็นฉากๆ แบบช้าๆ เหมือนหนัง Slow motion
พอกัดสาลี่  เกิดขั้นตอนดังนี้
1.1  เซลล์ที่จมูกไปรับรู้กลิ่น -- มันเริ่มrecall ความจำเก่าๆนิดๆว่าเป็นกลิ่นของอะไร
1.2  เนื้อเยื่อในปากสัมผัสกับพื้นผิวสาลี่ -- เป็นของแข็ง ผิวสากๆหน่อยๆ
1.3  พอฟันกัด น้ำของสาลี่ก็มาให้ลิ้นสัมผัส ถึงตอนนี้จิตมันก็ทวนสัญญาความจำว่า นี่คือสาลี่นะ
1.4  พอรสชาติของสาลี่มามากๆเข้า   จิตมันบอกว่าหวานจัง
1.5  ใจมันเริ่มรู้แล้วว่าจะปรุงแต่งต่อเป็นเรื่องเป็นราว (เช่น อร่อยจัง ไปซื้อที่ไหน อยากไปซื้อบ้าง)  พอเห็นความคิดนี้  ความคิดมันก็ค่อยๆอ่อนกำลังลง 
เราเลยคิดว่า เออนี่หนอ  ถ้าจิตเราละเอียด จิตเราไว ทันต่อความคิดเราคงไม่ต้องไปสร้างกรรมสร้างเวร ทั้งกาย วาจา ใจ กับใครๆ   
รู้สึกเห็นประโยชน์ของการเจริญสติมากๆ

2. กิเลสเริ่มจืด
2.1 หลังจากเห็นความคิดมากๆ  ใจมันสรุปเองว่า จริงๆ แล้วความคิดก็ไม่มีอะไรมาก  สรุปลงที่แค่ ความพอใจ ไม่พอใจ ความยินดี ไม่ยินดี
2.2 พอเห็นความคิดมากๆ มันเริ่มเบื่อที่จะปรุงต่อ (คือว่า ไม่สนุกที่จะคิดแล้ว มันก้องั้นๆเอง)
2.3 เห็นประโยชน์ของการเจริญสติอีกแล้วว่า  ถ้าเรายังเมามันกับการคิด การหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์ทั้งหลายทั้งวัน คิดไม่เลิด เราคงเหนื่อยมากๆ   การคิดวนไปวนมาซ้ำซาก ไม่ได้ช่วยอะไร แถมเรายังแย่ลงซะอีก   ถ้าเห็นว่ากิเลสมันจืดซะแล้ว ก็ไม่รู้จะคิดไปให้เสียเวลาทำไม (นีไม่ได้พูดสอนตัวเองในใจ  แต่ว่า จิตมันรับรู้และเข้าใจของเค้าแบบนี้เอง)

3. มีอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นมา
3.1 อยู่ดีๆก็เห็นร่างกายเหมือนศพโดนหั่นเป็นชิ้นๆ  สะอิดสะเอียนพิกล เห็นแขนตัวเองต่องแต่ง (ในใจบอกว่า แหวะ)
3.2 เวลาเข้าห้องน้ำ ขับถ่าย อาบน้ำ แปรงฟัน  รู้สึกว่าทำไมร่างกายสกปรกจัง ล้างเท่าไรก็ไม่หมดสักที
3.3 เห็นโครงกระดูกตัวเอง เวลาเดินจงกรม   อันนี้น่ารักดีนะ  ชอบๆๆๆ
3.4 ตอนดื่มน้ำ RC ตอนเช้า หลังจากเดินออกกำลังกายแล้ว    ตอนน้ำไหลเข้าไปในปาก  เรารู้สึกว่า  เราเทน้ำเข้าไปในตัว  แล้วมันก็ออกจากตัว   เทความร้อนเข้าไปในตัว พอเข้าห้องแอร์ ความร้อนก็ออกมาจากตัว   -- เราสรุปในใจว่า ความจริงคนเรามันก็คือ เนื้อหนึงเดียวกับธรรมชาติ  มันก็คือก้อนดินน้ำลมไฟ ก้อนนึง เหมือนตอนนี้มันมีพลังงานในมันรวมตัวอยู่เป็นตัวคน พอพลังงานเสียสมดุลย์ ธาตุมันก็สลาย คนมันก็ตาย ก็เท่านั้นเอง
3.5  ข้อ 3.1-3.3 เราไปกราบเรียนถามพระอาจารย์ ท่านว่าเป็นสมถะ  รู้แล้วก็ใช้สติรู้มันต่อไป  เดี๋ยวมันก็จะหาย ไป
ก็ดีเนอะ หายไปจริงๆ  (ไม่รู้ว่าเพราะได้ระบายให้ท่านฟังหรือเปล่า -- ก่อนหน้านี้เกิดอารมณ์นี้ตั้ง 3-4 วัน  อึดอัดพอสมควร)

4. ตอนเดินจงกรม  มันมีความสว่างวูบใหญ่ๆ โพลงขึ้นมา  พร้อมกับความรู้สึกว่า โลกทั้งโลกรวมทั้งตัวเราหายไปไหนก็ไม่รู้  ในใจบอกว่า ความสว่างโพลง นี่คือ ตัวรู้    (ยังไม่กล้าสรุป ยังไม่มีโอกาสได้ถามพระอาจารย์  กลัวด่วนสรุปเองแล้วจะเจอะวิปัสสนูกิเลสหลอกเอาซะ) 

5. เมื่อเช้าก่อนกลับ   ตอนตื่นนอน  รู้สึกว่าใจมันละเอียดอ่อนกว่าที่เคย  รู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป กลัวสติไม่เท่าทันแล้วจะไปโกรธใคร เกลียดใคร ว่าใคร  ไม่อยากสร้างกรรมอะไรอีกแล้ว (ยังไม่ได้ถามพระอาจารย์ ไม่มีช่วงโอกาสที่จะถาม) 
แต่เราสรุปเอาเองเบื้องต้นว่า การระลึกรู้ ทำให้ใจเราละเอียด อ่อนโยน ไม่อยากเบียดเบียนคนอื่น รวมทั้งไม่อยากเบียดเบียนตัวเองด้วย

ที่บันทึกไว้ นี่ไม่ได้หมายความว่า ตัวเองดี ปฏิบัติดี เพียงแต่ว่าอยากบันทึกไว้เป็นความทรงจำของการปฏิบัติ  เพราะจิตเราไม่ได้ละเอียดแบบนี้ตลอด อย่างน้อย เมื่อกลับมาอ่าน จะได้ระลึกถึงอารมณ์ที่เคยเกิดได้   --- ก็สัญญามันไม่เที่ยงนี่นา--

กราบขอบพระคุณพระวิปัสนาจารย์ทุกท่านที่มาร่วมงานครั้งนี้

1.พระอาจารย์โกศิล ปริปุณโณ  วัดปลายนา จ.ปทุมธานี
2.พระอาจารย์โสภณ  ฉันทะธรรมโม  สำนักสวนธรรมสากล จ.สงขลา
3.หลวงพ่อณรงค์  ปิยะจาโร วัดป่านาโพธิ์  จ.บุรีรัมย์
4.พระอาจารย์ทรงศิลป์  สุจิณโณ  วัป่าสุคะโต  จ.ชัยภูมิ
5.พระอาจารย์สุวรรณ สุวัณโณ วัดพระธาตุหนองแวง จ.ขอนแก่น

ขอบพระคุณท่านวิทยากรอื่นๆ
1.อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม
2.นพ.กำพล พันธ์ชนะ

และขอขอบพระคุณทีมงานทุกๆคนที่มีจิตใจงดงามและปราณีตประดุจ นางฟ้า เทวดา ที่คอยดูแลเอาใจใส่พวกเราทุกคน ตลอดเวลาทั้ง 10 คืน 11 วัน ด้วยค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมะ#ภาวนา
หมายเลขบันทึก: 90607เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2007 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 13:08 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณประสบการณ์ดีๆที่มีค่า และเป็นประโยชน์มาก สำหรับมือใหม่อย่างผม

อยากจะไปปฎิบัติธรรมด้วยครับ ถ้ามีโอกาศอย่าลืมชวนบ้างนะครับ

  • แค่คิดถึงสาลี่ น้ำลายก็สอ ^^

อนุโมทนา ด้วยค่ะ 

เป็นปัญญาเกิดเฉพาะบุคคลจริง ๆถ้าไม่ได้ปฏิบัติก็คงจะไม่เกิดอย่างนี้   การอ่านประสบการณ์ของคนอื่นๆ ทำให้มีความมั่นใจว่า ขอให้ปฏิบัติต่อไปให้มาก ๆ  ทำความรู้สึกตัวให้มาก  เป็นการให้อาหารแก่สติ เมื่อสติมีความเข้มแข็งก็จะช่วยเราได้เอง  คือลดการยึดติดลงบ้าง 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท