สติ..พระเอกของชีวิต
เสียงเพลงวันสงกรานต์ดังก้องทั่วทั้งเมืองไทย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะได้ยินแต่เพลง "วันนี้เป็นวันสงกรานต์" ทำให้ผมอดใจที่จะไปซื้อเสื้อลายดอกมาใสไม่ได้ จึงย่องไปดอดเสื้อลายดอก สีแดงแจ๊ด มาซะ 2 ตัว..ใส่เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศครับ....
ถึงจะใกล้วันสงกรานต์แต่การทำงานก็ยังดำเนินต่อไปอยู่ครับ..เหมือนอย่างวันนี้ที่โครงการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของปูนแก่งคอย ก็ยังดำเนินโครงการเหมือนเดิม ในช่วงเช้าเราจับกลุ่มล้อมวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ซึ่งเราจัดให้ผู้เรียนนำเรื่องที่ตนเองได้พบเจอ หรือ สิ่งที่เป็นข้อคิดคติเตือนใจมาแลกเปลี่ยนกัน..ก็มีการแลกเปลี่ยนกันหลายเรื่องครับ แต่มีเรื่องที่ผมสนใจมากเป็นพิเศษอยู่ 2 เรื่อง.ครับ..
เรื่องแรก...จากผู้เรียนท่านหนึ่งเล่าถึง "คนเสียชีวิต จากสามารถการแย่งเข้ารับบัตรคิวรับองค์จตุคามรามเทพ " ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีผู้คนเบียดเสียดแย่งกันจนถึงมีคนเป็นล้มถูกเหยียบจนเสียชีวิต สุดท้ายอดได้ จตุคารามเทพ มาบูชา..
เรื่องที่สอง..จากผู้เล่าอีกท่านหนึ่ง..เล่าถึงเรื่องการดูฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้นหลีก ที่เล่นกันตอน ตี 1 ตี 2 แต่ก็ยังอดตาหลับ มานั่งดุเพราะความคลั่งไคล้ทีมโปรด ของตนเอง พอตอนเช้ามาพาให้ไม่อยากตื่นมาทำงาน พาลจะทะเลาะกับแม่บ้านซะอีก..
หลังจากที่ได้ฟังทั้งสองเรื่องนี้แล้ว ผมได้ชวนผู้เรียนทั้งหมดคิดถึงจุดเรียนรู้ หรือข้อคิดจากทั้งสองเรื่องนี้ ซึ่งความเห็นของผู้เรียนเป็นเอกฉันท์ ว่า " เพราะขาดสติ" จึงเกิดเหตุการณ์ทั้งสองเรื่อง หากมี สติยั้งคิดซักนิด ก็คงไม่ถูกเหยียบตาย หรือไม่ต้องไปทะเลาะกับแม่บ้าน หลังจากนั้นผู้เรียน ก็ได้สะท้อนถึงการนำเอาจุดเรียนรู้จากการไปเข้า EQ Camp มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต โดยวิเคราะห์ และสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่ตนเอง "ขาดสติ" มาเป็นข้อในการพัฒนาตนเอง
หลังจากนั้นก็เป็นหัวข้อเรื่องที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่หลากหลาย ในวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีทั้งการตั้งคำถาม ชวนกันคิด ชวนกันตอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำถามที่ได้มาจากเหตุการณ์ ต่างในชวิต และเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้
มีคำถามว่าอะไรที่จะทำให้การดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข ...มีคำตอบออกมามากมายครับ ..แต่ก็มีอยู่คำตอบหนึ่งที่ ทำให้ผมฉุกคิดว่า..จริงซินะ ต้องเป็นอย่างนั้น คำตอบที่ว่าก็คือ ..เราต้องมี สติ
สติจะทำให้เราจดจ่อและนิ่งอยู่กับปัจจุบัน กับบางสิ่งบางอย่างที่เหมาะสม ทำให้ความคิดไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เติมสีสันให้กับอารมณ์และความคิด
เมื่อมี "สติ" ดีแล้ว "ปัญญา" ดีๆ ก็จะเกิดตามมา
เมื่อขาดสติแล้ว สัมปชัญญะก็ไม่มี ปัญญาก็ไม่เกิด
สติจึงเป็นตัวเอกหรือเป็นพระเอกของชีวิต ที่จะช่วยทำให้ชีวิตดำเนินไปอย่างเหมาะสม และสมควร ไม่มากไปและไม่น้อยไป
สิ่งใดที่มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดีทั้งนั้น แม้แต่การทำดีมากไปก็ไม่ดี เพราะเหมือนทำแบบคนขาดสติและขาดปัญญา
เช้าวันนี้เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเรา จบลงด้วยการฝึกสร้างสติ ด้วยการฝึก "ดูลมหายใจของตนเอง" เพื่อเพิ่มพลังสติก่อนหยุดไปเที่ยวสงการนต์ และเที่ยวกันอย่างมี "สติ" เพื่อที่จะได้มีชีวิตกลับมา ใช้ชีวิตอย่าง "มีสติ" กันตอ่ไปไงล่ะครับ...
ความเห็น (9)
ขอบคุณจริงๆครับ
คุณเรวัตร เล่ามาเห็นกระบวนการที่น่าสนใจและน่าเอาไปทดลองปรับใช้ดูบ้างครับ
ทั้งสองเรื่องมาจ๊ะเอ๋กันโดยไม่เตี้ยมกันมาก่อน หรือเลือกเรื่องมาก่อนครับ?
ขอบพระคุณอาจารย์ประพนธ์ อย่างยิ่งครับ... ที่กรุณา ต่อเติมเพิ่มความรู้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอบพระคุณมากครับ
ครับ...สติเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ครับ...
ขอบคุณครับ...
"สติ"เป็นประโยชน์ในที่ทั้งปวง
"สติ"เกิดกับกุศลทุกประเภททั้ง ทาน ศีล ภาวนา
ให้รู้จักสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น และเพิ่มจำนวนครั้งของการมี
สติ ส่วนตัวผมลองใช้ STEE บ่อยๆ มาหลายปีแล้ว
ใช้งานได้ดีครับ
System Task Event Entity
ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นไปตามเหตุและปัจจัย
เป็นที่มาของสภาวะ เกิด ให้บริการ แล้วจากไป
ที่สำคัญทำให้เรารู้จักตนเองดีขึ้น
อาจจะมีประโยชน์บ้างก็ได้ครับ