ช่วงวันที่ ๑-๓๐ เมษายน เป็นช่วงของการสมัครเข้ารับการประเมินเพื่อขอหรือเลื่อนวิทยฐานะ ผู้ที่ขอเลื่อนวิทยฐานะจากชำนาญการขึ้นเป็นชำนาญการพิเศษ จะต้องมีผลงานงานทางวิชาการด้วย เรื่องนี้กำลังเป็นที่หนักอกหนักใจของคุณครูหลายคน ว่า จะทำอะไรเป็นผลงานทางวิชาการ ในฐานนะที่ผมเคยผ่านความรู้สึกอย่างนี้มาก่อนจึงขอนำประสบการณ์มาเล่าดังนี้
ครั้งนั้นผมสอนวิชาการแต่งคำประพันธ์ เป็นวิชาเพิ่มเติม ม.ปลาย ชั้น ม.๔ เลือกเรียน พอสอนถึงเรื่องการแต่งกลอนสุภาพ พบปัญหาการใช้วรรณยุกต์ เพราะกลอนสุภาพห้ามใช้เสียงสามัญ และตรีท้ายวรรคที่ ๒ ส่วนวรรคที่ ๓ และ ๔ ท้ายวรรคต้องเป็นเสียงสามัญและตรี ถ้าผิดจากนี้ถือว่าผิดบังคับกลอนสุภาพ
ปรากฏว่าจากแบบฝึกหัดที่ผมให้นักเรียนแต่งกลอนสุภาพ นักเรียนใช้วรรณยุกต์ผิดกันมาก ผมถามว่าเธอไม่รู้หรือไงว่าวรรคไหนต้องใช้เสียงวรรณยุกต์อย่างไร นักเรียนตอบว่าทราบ แต่ก็ยังใช้ผิด ผมจึงมาวิเคราะห์ดูและคิดว่าอย่างนี้นักเรียนต้องผันวรรณยุกต์ไม่ได้ เพื่อความแน่ใจ ผมเรียกนักเรียนแต่ละคนมาสัมภาษณ์แล้วทดสอบด้วยการให้บอกเสียงวรรณยุกต์จากคำชุดหนึ่ง ปรากฏว่า เด็กทั้งหมด ๔๒ คนตอบไม่ผิดเลย ๒ คนที่เหลือ ๔๐ คน ตอบผิดมากบ้างน้อยบ้าง
ผมจึงคิดแก้ปัญหาโดยสร้างนวัตกรรมการสอนขึ้นมา เป็นบทเรียนสำเร็จรูปใช้รูปแบบเอกสารการสอน มสธ. ให้ชื่อว่าเรียนวรรณยุกต์สนุกกับเพลงพื้นบ้าน ปูพื้นตั้งแต่ ก.ไก่ จนถึงการผันวรรณยุกต์ในคำที่มีลักษณะพิเศษ เนื้อหาเกี่ยวพันกับหลักเกณฑ์ทางภาษาที่เกี่ยวกับการผันวรรณยุกต์ทั้งหมด ทำแบบฝึก เฉลย แล้วร้องเพลงพื้นบ้านสรุปหลักเกณฑ์ต่างๆ เพลงเหล่านั้นผมแต่งเองแล้วให้นักเรียนในคณะเพลงอีแซวร้อง บันทึกเทปและวีดิทัศน์ เป็นสื่อประกอบ
ผมทำเป็นงานวิจัยแบบวิจัยในชั้นเรียนส่งเป็นผลงานทางวิชาการ เพื่อนๆครูเห็นหรือยังว่าผมเริ่มผลงานทางวิชาการจากปัญหาที่ผมพบจากการสอนแล้วคิดนวัตกรรมมาแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนการสอนนั้น