เรื่องเล่าจากดงหลวง 63 ใบหน้าที่ถูกตบวันนั้น


ไถที่ดิน เจ้าที่ ถูกตบ ปวดหัว ตามองไม่เห็น ขันธ์ 5 ขอขมาลาโทษ มันไม่มีเหตุไม่มีผลในทางวิทยาศาสตร์ ทางโลกโลกาภิวัฒน์อะไรนี่เลยนะ แต่มันมีปรากฏการณ์นี้จริงในสังคมชุมชน ชนบท.. ทำไมคนเราไม่ค่อยเข้าใจสิ่งใกล้ๆตัวนี้เลยหนอ..

ผู้บันทึกหายหน้าไปหลายวันเพราะ นอกจากจะไปเป็นวิทยากรฝึกอบรมเรื่อง Participatory Rapid Appraisal (PRA) ที่กรุงเทพฯ แล้ว ยังขึ้นไปประชุมทีมงานโครงการที่ภูพานอีก 4 วัน ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่มีคลื่น แม้ทางเจ้าของรีสอร์ทจะติดตั้งระบบ WIFI แต่ก็มีประสิทธิภาพต่ำ..  

 

พิลา เป็นชื่อพนักงานขับรถของผม เป็นชาวบ้านที่ซื่อ ใส เรียบร้อย เอาการเอางาน มีน้ำใจและเป็นคนรักครอบครัว ช่วยเหลืองานในหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วยังช่วยเหลืองานบ้านอย่างเต็มกำลัง  เป็นคนหนึ่งที่ผมคิดว่าอยากร่วมงานด้วยตลอดไป

 เมื่อถึงยามว่างที่พวกเราไม่ได้ออกสนามพิลาจะเอารถไปล้างทำความสะอาดเอี่ยมอ่องโดยไม่ต้องออกปาก เมื่อเสร็จงานก็จะมาเดินป้วนเปี้ยนให้เราเห็นเผื่อเรียกไว้วานให้ทำโน่นทำนี่ และไม่รังเกียจงานแม้แต่นิดหากเราเอ่ยปากอะไรไป ความเป็นคนมีนิสัยเช่นนี้พวกเราจึงรักใคร่

พิลา  ยามหน้าทำนาทำไร่พวกเราจึงอนุญาตให้พิลาไปช่วยทางบ้านทำงานเต็มที่  ซึ่งบ้านเขาก็อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานจึงไม่เสียเวลาเดินทางเท่าใด กลับมาทีไรตัวดำจนจำไม่ได้ เพราะตากแดดตากฝนมาเต็มที่  

 

ช่วงวันที่ผมไปกรุงเทพฯและเลยไปภูพานดังกล่าวข้างต้น ได้ข่าวว่าพิลาขอลางานเนื่องจากไม่สะบาย ซึ่งมีอาการ ปวดหัวรุนแรงและหน้ามืดมองไม่เห็นอะไรเลย จนเขาต้องหยุดขับรถและต้องวานคนอื่นช่วยขับรถแทนหน้าที่ของเขา และขอลาพักไปหาหมอ ผมสอบถามเพื่อนๆร่วมงานว่า พิลาเป็นอะไรไป ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า คงเครียดมั้ง...   

 

เครียดอะไร มีปัญหาทางบ้านหรือไง  เพราะพ่อเฒ่าเขาเพิ่งจะเสียไปเมื่อเร็วๆนี้ และเป็นที่รักใคร่ของครอบครัวมาก  พี่ชายก็ออกจะเป็นปราสาทนิดๆ ต้องคอยดูแลกัน ผมเดาว่าเขาคงจะมีอะไรเครียดจากครอบครัว  หรือไม่ก็เครียดเรื่องอนาคต เพราะโครงการเรากำลังจะปิดในเดือนกันยายนนี้ อนาคตเขาไปทำงานอะไรต่อ 

เขาเคยขออนุญาตลาออกเพื่อไปทำงานที่ภาคใต้  แต่เราก็คัดค้านไว้ เพราะงานการที่จะไปทำก็ไม่ได้ทำให้มีเงินทองมากมายอะไรมากขึ้น แถมไกลบ้านที่เขารัก  อยู่ด้วยกันที่นี่มีอะไรก็ช่วยเหลือกันไปตามเงื่อนไข โอกาส  เขาก็ฟังและยอมที่จะอยู่ต่อ  พวกเราเองก็วางแผนไว้แล้วว่าสิ้นสุดโครงการจะมีเงินสักก้อนเล็กๆให้เขาติดตัว วันนี้ผมกลับเข้าที่ทำงานหลังจากที่ห่างไกลไปหลายวัน พบหน้าพิลาก็สอบถามทันทีว่าพิลาไปหาหมอมาแล้ว  หมอว่าไงบ้าง  อาการหายดีแล้วหรือเรื่องปวดหัว หน้ามืดน่ะ  

พิลา:         หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร ปกติทุกอย่าง 

ผู้บันทึก:     อ้าวแล้วเป็นอะไรล่ะ

พิลา:         ผมถูกตบครับ ??

ผู้บันทึก:     พี่ไม่เข้าใจ งง  มันอย่างไรเล่าให้ฟังซิ เองไปทำอะไรสาว

                ที่ไหน จึงถูกเขาตบเอา  ผมถือโอกาสแหย่เล่น..

พิลา:         เปล่าพี่ ผมโดนเจ้าที่ตบเอา ?  มันอย่างนี้ครับ เมื่อวันนั้นผมไปไถที่ดินเตรียมปลูกพืชตามปกติเมื่อฝนตกชาวบ้านก็จะไถที่ดินกัน สงสัยว่าผมไปไถที่ดินโดยที่ที่มีเจ้าที่เขาหวงห้ามอยู่  ผมไม่รู้ครับ ผมรู้สึกเหมือนโดนตบอย่างแรงที่แก้มข้างขวา แล้วตั้งแต่นั้นมาผมก็ปวดหัวมาตลอด และรุนแรงมากขึ้นตามลำดับจนตามองไม่เห็นเลยครับ  ผมไปหาหมอ หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ปกติ 

พิลา:         ผมมาเอะใจเรื่องโดนตบ จึงเล่าเรื่องให้พี่ชายทราบ   พี่ชายผมจึงไปเอาขันธ์ 5 ไปบอกกล่าวเจ้าที่ขอขมาลาโทษ เสร็จสิ้นพิธีผมก็หายเหมือนปลิดทิ้งครับพี่

ผู้บันทึก:     เอ้า ที่ดินตรงนี้ก็พิลาไถทุกปีไม่ใช่หรือ ไม่เห็นเป็นอะไร

พิลา:          ใช่ครับ ไม่เป็นอะไร แต่ปีนี่ผมไถที่ดินกินพื้นที่ติดชายรั้วมากกว่าทุกปี  สงสัยว่าตรงนั้นเขาจะมีเจ้าที่อยู่  จึงเกิดสิ่งนี้ขึ้นมา 

เรามองตากันแล้วก็ยิ้มๆ เหมือนเข้าใจกัน แล้วผู้บันทึกก็กล่าวว่า  ดีแล้วพิลา ทำไปเช่นนั้นเป็นการแสดงความเคารพต่อสิ่งเหนือธรรมชาติที่เราไม่รู้ไม่เห็น แต่มีอยู่ เมื่อเราทำสิ่งใดไปกระทบกระเทือนความเป็นปกติของเขาก็ต้องขอขมาลาโทษ แล้วก็จบลง  ดีแล้วหละ  

 ตอนนี้พิลาสบายใจขึ้นแล้ว เขาเดินยิ้มๆ พร้อมทั้งขอกุญแจรถไปจากผู้บันทึกเพื่อเอารถไปทำความสะอาดตามปกติของเขา 

ผู้บันทึกคิดถึง  ไถที่ดิน  เจ้าที่  ถูกตบ  ปวดหัว ตามองไม่เห็น ขันธ์ 5  ขอขมาลาโทษ มันไม่มีเหตุไม่มีผลในทางวิทยาศาสตร์ ทางโลกโลกาภิวัฒน์อะไรนี่เลยนะ  แต่มันมีปรากฏการณ์นี้จริงในสังคมชุมชน ชนบท..  ทำไมคนเราไม่ค่อยเข้าใจสิ่งใกล้ๆตัวนี้เลยหนอ..แต่ไปไขว่คว้าสิ่งที่ไกลแสนไกลหลายหลากนั้น 

คำสำคัญ (Tags): #เจ้าที่เจ้าทาง
หมายเลขบันทึก: 88709เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2007 13:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

เห็นหายไปที่แท้ขึ้นภูพานนี่เอง..เหนื่อยมั้ยคะ ?

ตอนแรกเห็นชื่อบันทึกใจหายวาบ..นึกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พออ่านจบ เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่นอจริงๆนะคะ

ที่ รพ.ยส.ก็เคยมีเหตุการณ์คล้ายๆอย่างนี้ค่ะ..เป็นคนไข้ถูกผีเข้า ! !..มีอาการตาขวาง เสียงที่พูดเปลี่ยน อากัปกิริยาเปลี่ยน ( เป็นในวันเดียว ) ญาติพาส่ง รพ.พอมาถึง รพ.อาการปกติ ก็กลับบ้าน..พอถึงบ้านก็เป็นอีก พอทำตามที่" เขา " ( อะไรบางอย่างที่ทำให้ท่าทางเปลี่ยนไป ) ..ต้องการ ( ได้แก่ การทำขันธ์ 5 )..อาการนี้ก็หายไป ! !...

เรื่องราวบางเรื่อง..บางทีก็ไม่ง่ายต่อการเข้าใจเลยนะคะ

  • สวัสดีค่ะคุณบางทราย
  • แบบไม่เชื่ออย่าลบหลู่จริง ๆ ค่ะ ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ แหมได้แง่คิดจริง ๆ ค่ะว่าทำอะไรก็ตามนึกว่าคนอื่นไม่เห็น อย่างน้อยเทวดา ฟ้า ดิน ผีสาง เจ้าที่เจ้าทาง และตัวเองต้องเห็น
  • สวัสดีครับน้องเบิร์ด
  • ครับ หายไปหลายวัน ไปเตรียมงาน Stage 2 ของโครงการครับ
  • พี่ต้องการบันทึกไว้ว่าในสังคมเรามีปรากฏการณ์เช่นนี้จริง  และเชื่อว่ามีมากมายในชนบท คนที่ทำงานกับชาวบ้านโดยทั่วไปมักจะผ่านพบมาบ้างแล้ว  เชื่อว่าบางท่านก็อาจจะพบอะไรที่แปลกมากกว่าที่เราพบเสียอีก
  • สมัยคุณหมอโกมาตร จึงเสถียรทรัพย์(นามสกุลถูกหรือเปล่าหนอ)ทำงานที่ชุมพวงถึงกับตั้งแผนกที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ปัจจุบันก็น่าที่จะมีอยู่นะครับ  คุณหมอเข้าใจเรื่องของชุมชนมากมากกว่าคุณหมอนักวิทยาศาสตร์อีกหลายท่าน
  • สิ่งเหนือธรรมชาติเป็นเรื่องน่าสนใจแต่ไม่ควรงมงายเท่านั้นครับ  วิถีชุมชนที่จัดการเรื่องเหล่านี้มีอยู่ พี่เป็นผู้หนึ่งที่สนใจและพยายามเก็บเรื่องเหล่านี้ไว่เมื่อพบครับ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับคุณ Ranee
  • เราลองคิดว่านี่ขนาดสิ่งเหนือธรรมชาติสำแดงเดชมาเมื่อเราไปทำอะไรที่กระทบเขา  หากเราทำอะไรไม่สมควรที่ไปกระทบคนปกติที่มีชีวิตหายใจ เป็นๆล่ะ เขาคงโกรธและอยากที่จะทำร้ายคืนบ้าง หรืออย่างน้อยก็พูดจารุนแรงเอา หรือ อาจจะคิดในใจในทางร้ายเอาเลยก็ได้
  • คนโบราณจึงสอนลูกหลานว่าควรมีสัมมาคาระวะต่อคนผู้สูงอายุ ต่อผู้ใหญ่ ต่อสตรีเพศ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม
  • คนโบราณจึงสั่งสอนให้ลูกหลานรู้จักเกรงอกเกรงใจคน
  • คนโบราณจึงสั่งสอนให้ลูกหลานเคารพเจ้าที่เจ้าทาง ผ่านศาลพระภูมิเจ้าที่ก็ต้องไหว้ คาระวะ บอกกล่าว ชาวไทโซ่ เข้าป่าหาอาหาร เมื่อถึงเวลากินข้าวก็ต้องเอาข้าวปั้นให้เจ้าที่เจ้าทางและบอกกล่าวให้ทราบ
  • คนปัจจุบันไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่สัมผัส ดูถูก ดูหมิ่น หาว่าโง่งมงาย ไร้สาระ
  • คนปัจจุบันเดินแทบจะเตะคนข้างทาง ไม่รู้จักอาวุโส  มีแต่ผลประโยชน์ และยิ่งยะโสเมื่อฐานะครอบครัวสูงกว่าคนอื่นๆ
  • ระบบสังคมเปลี่ยนไป  แล้วที่เปลี่ยนไปนี้เราเรียกความเจริญหรือเปล่า
  • หากเรียกว่าความเจริญ มันเจริญแบบไหนกัน เป็นความเจริญที่เราพึงประสงค์หรือเปล่า นะ..
  • แหม ร่ายยาวเลยครับ คุณราณีครับ
  • สวัสดีครับพี่บางทราย
  • เรื่องนี้ต้องสัมผัสเองครับ แล้วจะทราบเลยครับ ว่าใช่เลย
  • ดังที่ผมเคยเล่า ในบทความก่อนของพี่ เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เหมือนกันครับ
  • สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ก็อยู่ในโลกนี้หล่ะครับ เพียงอาจจะคนละมิติกันกับสิ่งที่คนสัมผัสได้ หลายคนไม่ได้รู้สึกอะไร และอีกหลายคนจะมีการสื่อสารรับสารได้ครับ
  • อย่างในอดีตก็จะมีพิธีมากมายครับ กว่าจะแรกไถนาทำนา ก็ต้องมีการเตรียมกราบขออนุญาตไถพลิกหน้าดินในท้องนาต่อพระแม่ธรณี และอะไรต่ออะไรหลายๆ อย่าง
  • พอปลูกเข้า ก็เริ่มมีการทำขวัญข้าว
  • เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จก็จะมีการจัดเรียบเรียง เลียงข้าวทั้งหมดไว้ในฉาง แล้วก็ทำพิธีทำขวัญข้าวอีกเช่นกัน จะมีการผูกข้าวไว้บนฉางสามเลียงไว้ด้วยกัน
  • ปัจจุบัน ระบบหลายๆ อย่างย่อลงไปหมด จากการเก็บเลียงข้าว ก็กลายเป็นได้เป็นเมล็ดลงกระสอบจากท้องนาเลยพิธีหลายๆ อย่างหายไปครับ แต่คนที่ถือ ก็ต้องทำในทำนองเดียวกัน
  • ใครอยากลองไปทดลองได้เลยครับ อิๆ เช่น ไปฉี่ใส่จอมปลวกครับ จอมปลวกที่ยังมีปลวกอยู่นะครับ รับรองว่าได้ผลแน่ๆ อิๆ ผมเคยโดนมาแล้วตอนเด็กๆ
  • แม้ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามครับ
  • เรื่องพวกนี้ ต้องโดนเองครับ รับรองใครจะวิทยาศาสตร์ 100% มาก็จะมึนกันตามๆ กันครับ
  • ขอบคุณมากครับผม เรื่องเหล่านี้ ที่เจอ ก็ได้แต่เก็บเอาไว้ เล่าให้คนที่ไม่เคยเจอฟังไม่ได้ครับ เว้นแต่เจอก่อนครับ แล้วจะได้ทำการบ้านกันครับ
สวัสดีน้องเม้งครับ น้องเม้งเป็นนักคณิตศาสตร์ เป็นนักคอมพิวเตอร์ และเป็นนักคิด นัก....กล่าวได้ว่าเป็นนักวิทยาศาตร์ แต่เข้าใจเรื่องราวของชุมชน แสดงว่าคลุกคลีกับชุมชนมา เป็นคนเข้าใจชุมชน ดีใจครับที่นักวิทยาศาสตร์เข้าใจชุมชน อย่างน้อยที่สุดจะเกิดการผสมผสานองคืความรู้ที่มีอยู่กับสาระของชุมชน หากเราสร้างสรรคสิ่งใดๆเพื่อชุมชนจะได้ไม่ผิดฝาผิดตัว ในทัศนของพี่ สังคมไทยต้องการคนแบบนี้ครับ (พี่กำลังหาทางติดตั้งโปรแกรมที่ใช้คุยกันข้ามทวีปครับแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ)

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

เบิร์ดต้องการความช่วยเหลือค่ะ

http://gotoknow.org/blog/beutifulmemories/88301

  • สวัสดีครับพี่บางทราย
  • การพัฒนาชุมชน ในแนวคิดของผมคือ อันแรกเราต้องลงไปเหมือนเป็นเพื่อนครับ เป็นเพื่อนคู่คิดในชุมชน ลงไปลดกำแพงระหว่างกลุ่มคนก่อนครับ
  • ชุมชนมักจะให้ความเคารพผู้เชี่ยวชาญหรือคนเรียนหนังสือ ที่จบมาสูงๆ นะครับ นั่นคือเกิดศรัทธาแล้วครับ ความต่อเนื่อง การใส่ใจคงเป็นตัวหนึ่งที่จะทำให้ชาวบ้านสนิทใจที่จะทำงานด้วยแล้วพร้อมจะพัฒนา เข้าใจเข้าถึงพัฒนา
  • พูดง่ายๆ คือ ในสังคมไทย ก็ยังเป็นชนชั้นอยู่ดีครับ แบ่งแยกในระดับที่เห็นกัน และปัญหาคือ ในแต่ละระดับมีความเชื่อต่างกันครับ หากความเชื่อนั้นมันผสานกันไม่ได้ ปัญหาก็คือได้ต่อยกันครับ เมื่อต่อยกันแล้วก็คงไม่ต้องพิจารณาถึงการพัฒนาหรือทำงานร่วมกันแล้วครับ เพราะสังคมเราเป็นสังคมเกี่ยวเนื่องหลายๆเรื่องมารวมๆกันเป็นเรื่องเดียวกันครับ
  • ผมเองก็ไม่ค่อยได้เข้าใจมากหรอกนะครับ เพียงแต่พยายามนึกถึง และมอง สิ่งที่เป็นครับ พอดีมีที่บ้านเป็นกระจกช่วยสะท้อนให้ด้วยครับในเรื่องการพัฒนาชุมชนนะครับ ผมถึงได้ประทับใจพี่มาก และหลายๆ คนที่ทำงานเพื่อชุมชน สร้างชุมชนเข้มแข็ง แลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นอยู่อย่างพอเพียง พยายามแยก คำว่า นิยม ออกจาก วัตถุนิยม ให้ได้ครับ แต่ให้เค้าแยกด้วยตัวของเค้าเองครับ
  • ผมว่านี่หล่ะครับ คือความยั่งยืนที่แท้จริง ต่อไปกลุ่มคนที่ถือทรัพยากรที่ในเรื่องอาหารการกินจะเป็นคนร่ำรวยครับ แล้วอาจจะซื้อขายกันไม่ได้ก็ได้ครับ อาจจะไปถึงยุคที่ทุกคนต้องทำเท่านั้น ถึงจะได้กิน
  • ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับน้อง เบิร์ด ได้เลยเดี๋ยวพี่จะเข้าไปที่ Blog ดังกล่าวครับ
สวัสดีครับบน้องเม้ง สิ่งที่เม้งกล่าวมาเป็นความจริง พี่อยากจะย้ำอีกว่า ศาสตร์ทางด้านสังคมที่ว่าด้วยเรื่องมนุษย์ สังคม วัฒนธรรม การเมือง การเปลี่ยนแปลง หรือ อะไร อะไรที่เกี่ยวกับคนนั้นสำคัญมาก นักวิชาการสาขาต่างๆหยิบมาใช้น้อย ปล่อยให้นัก MBA และทาง Business เอาด้านสังคมไปใช้เพื่อสร้างแรงบรรดาลใจให้คนมาซื้อสินค้าของเขามากๆ นี่แหละที่สายสังคมนิยมกล่าวว่า การสร้างค้านิยมใหม่ ที่กลับละเลย ผลักใส ละทิ้งค่าของสิ่งดีดีของสังคมเดิมจนหมดสิ้น หรือมีเพียงเปลือก เช่นการจัดงานประพณีก็เพียงให้มีการแสดง แต่ไม่เข้าใจเนื้อหาสาระจริงว่ามีความหมายอย่างไร ที่กล่าวนี้ไม่ต้องการหยุดโลกให้อยู่ในรูปสังคมเดิม แต่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เป็นแบบปรับเปลี่ยนด้วยคุณค่าสาระของมันยังคงอยู่ แต่สังคมเดิมก็มีจุดอ่อนอยู่มากเช่นกัน ขอบคุณครับน้องเม้ง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท