การสอนจริยธรรมเด็กวัยรุ่น


จากสิ่งที่ครูมี เป็นสิ่งที่ครูให้

...ครู เป็นบุคคลสำคัญมากในการจัดกระบวนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพราะครูเป็นผู้สร้าง และก่อให้เกิดการพัฒนา ศักยภาพและความสามารถของครู อย่างบุคคลที่มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู...จึงเป็นต้นแบบที่ศิษย์สามารถเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ และสัมผัสได้ด้วยแบบอย่าง จากสิ่งที่ครูมี เป็นสิ่งที่ครูให้...ข้อความนี้จากคอลัมน์ กระบวนทัศน์การพัฒนาครู ของบาทหลวง ดร.วิวัฒน์ แพร่สิริ วารสารเซนต์โธมัส ฉบับเดือนกันยายน 2006  ทำให้  ครูอัจฉริยา  ตั้งถาวร  หัวหน้าสายชั้น ม.3 และครูประจำชั้น ม.3/4  มองย้อนกลับไปดูศิษย์ของตัวเอง พบว่านักเรียนชั้นม.3/4 เป็นนักเรียนที่ต้องได้รับการพัฒนามาก บางคนก็ด้านพฤติกรรม บางคนด้านการเรียน ในฐานะของครูประจำชั้น จึงได้ใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น 1. สอดแทรกในวิชาจริยศึกษา ซึ่งมีเวลาพบนักเรียนไม่มากนัก จึงต้องใช้วิธีนัดพบนอกเวลาเรียน เช่น เวลาพัก หรือสังเกตพฤติกรรมในขณะเรียนวิชาอื่นๆ       ในการสอนจริยะจะพยายามหาหนังสือต่างๆมาอ่าน ยกตัวอย่างที่นักเรียนสามารถเข้าใจได้ สามารถประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน ซึ่งพบว่าหนังสือเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ตรงที่นักเรียนที่สนใจก็จะขอยืมไปอ่านต่อ  2. ใช้วิธีสื่อจากใจถึงใจ ให้นักเรียนเข้าใจมองเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างถ้านักเรียนยังปฏิบัติตนในทางที่ไม่ถูกต้อง โดยจะต้อง สอนด้วยใจที่หวังดีต่อศิษย์อย่างจริงใจ สิ่งที่เราทำศิษย์จะเห็นว่า ครูรับฟังเรื่องราวของเขาได้ ดิฉันก็พยายามจูงในให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์  3. สอนด้วยการกระทำ ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนต้องการหาทุนเพื่อไปร่วมงานชุมนุมลูกเสือรัตนโกสินทร์ที่ค่ายวชิราวุธ ในภาคเรียนที่2 ซึ่งมีกิจกรรมบางอย่างที่ต้องหาทุนเพิ่มเติมไปทำกิจกรรม เช่น การตกแต่งค่ายย่อยซึ่งมีการประกวด นักเรียนตั้งใจว่าจะนำรางวัลกลับมา เพื่อสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนพอดีเพื่อนครูที่โรงเรียนอุดมศึกษาชวนไปออกร้านที่โรงเรียนของเขาในการแข่งขันกีฬาว่าน้ำ ดิฉันจึงให้นักเรียนช่วยกันระดมสมอง บริหารจัดการเองตั้งแต่ การจัดหาสินค้า งบประมาณ การขายเราใช้เวลาว่างในวันหยุดไปทำกิจกรรม พบว่านักเรียนเกิดความภาคภูมิใจกับกิจกรรมที่ได้ทำ และงบประมาณที่หามาได้เองด้วยความสามัคคี

            จากการทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการอบรมนักเรียนให้เห็นความสำคัญของการเรียน และการทำกิจกรรมซึ่งส่งผลให้ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2549 นักเรียนในห้องม.3/4   มีผลการเรียนดีขึ้นทุกคน  นักเรียนไว้วางใจครู พร้อมที่จะเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง ในวันหยุดจะมีเสียงนักเรียนโทรมาชวนไปให้กำลังใจเพื่อนในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อยู่เป็นประจำเช่น การแข่งขันฟุตบอลทีมเล็ก ซึ่งเขาไปสมัครเข้าร่วมการแข่งขันเองกับโรงเรียนอื่นๆ นับว่าเห็นผลของการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดิฉันประทับใจกับคำว่า จากสิ่งที่ครูมี เป็นสิ่งที่ครูให้ ของคุณพ่อวิวัฒน์มากเพราะดิฉันได้ทำสิ่งที่คุณพ่อบอกแล้ว

ผู้ให้ข้อมูล      ครูอัจฉริยา    ตั้งถาวร
หมายเลขบันทึก: 88510เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2007 14:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 15:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ครับทุกสิ่งที่กล่าวมาน่ะครับเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องอยู่ในตัวคุณครูทุกท่านครับ แต่สิ่งที่คุณครูควรทำเพิ่มก็คือเสาะแสวงหาความรู้ใหม่และวิธีการใหม่เพื่อนำมาผสมผสานกับสิ่งที่มีอยู่ดั่งเดิมจะทำให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลในการเรียนการสอนมากครับ

ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำ จะพยายามแสวงหาวิธีการใหม่ๆ  สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนยากที่จะตามทันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท