สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวสถิติจากสมาคมศัลยแพทย์พลาสติก (ศัลยกรรมตกแต่ง) สหรัฐฯ ว่า การผ่าตัดเสริมความงามได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ปี 2549 คนอเมริกันซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 300 ล้านคนเศษ เข้ารับการผ่าตัดเสริมความงามในประเทศเกือบ 11 ล้านคน เพิ่มจากปี 2548 เท่ากับ 7%
การผ่าตัดดังกล่าวมากกว่า 5.2 ล้านครั้งเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขส่วนบกพร่อง (reconstructive surgery) ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผลจากการผ่าตัดเนื้องอกออก โดยเฉพาะเนื้องอกเต้านม
ปี 2549 พบว่า การผ่าตัดเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ การเสริมเต้านม ซึ่งเป็นปีแรกที่การผ่าตัดเสริมเต้านมแซงหน้าการผ่าตัดเสริมดั้ง(แก้ไขรูปร่างจมูก)
สถิติการผ่าตัดปรากฏดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1: แสดงสถิติการผ่าตัดเสริมความงามในสหรัฐฯ
อันดับ |
การผ่าตัด |
จำนวนครั้ง |
1 |
เสริมเต้านม |
329,000 |
2 |
เสริมดั้ง(แก้ไขจมูก) |
307,000 |
3 |
ดูดไขมัน |
302,000 |
ส่วนการรักษา หรือการผ่าตัดชนิดแผลเป็นขนาดเล็ก หรือแทบมองไม่เห็นแผลเป็นเลย (minimally invasive surgery) พบเพิ่มขึ้น 8% ส่วนใหญ่เป็นการฉีดยา เพื่อรักษารอยเหี่ยวย่น (wrinkles)
การรักษาแบบนี้พบว่า การฉีดสารโบท็อก (botox) เพื่อลดรอยเหี่ยวย่นได้รับความนิยมมากที่สุด
พวกเราที่ใส่ใจสุขภาพ… ถ้าควบคุมอาหารหน่อย ออกกำลังมากหน่อย จะลดความเสี่ยงจากโรคอ้วนได้ ทำให้ไม่ต้องไปดูดไขมันออกให้เสียสตางค์
ขอเพียงไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ และไม่นอนดึกเกิน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเหี่ยวเกินวัย ดื่มน้ำให้พอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
การออกกำลังต้านแรง เช่น ยกน้ำหนัก ฯลฯ มีส่วนช่วยให้รูปร่างดี สมส่วน (firm) โดยไม่ต้องผ่าตัด ผู้หญิงก็ออกกำลังต้านแรงได้ เช่น เดินขึ้นบันได ยกน้ำหนักเบาหน่อย (0.5-4 กิโลกรัม) ฯลฯ
การออกกำลังต้านแรงเริ่มต้นง่ายๆ ได้ด้วยการนำขวดน้ำดื่มมาเติมน้ำ เริ่มจาก 0.5 กิโลกรัม เดินแกว่งแขน หรือยกขึ้นยกลงหลายๆ ท่า
เมื่อแข็งแรงแล้วค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักขึ้น เช่น ใช้ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร ฯลฯ มายกแทน ไม่นานก็จะแข็งแรงขึ้นได้
นอกจากนั้นการป้องกันโรคอ้วนยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งอีกหลายอย่าง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเยื่อบุมดลูก ฯลฯคนที่ใส่ใจสุขภาพ… แม้ไม่ผ่าตัดก็ดูดีสมวัยได้ครับ
แหล่งที่มา:
ไม่มีความเห็น