คันนาเงินหมื่น....เป็นแนวคิดของพ่อทอง ศรีธรรมมา แห่งหมู่บ้านแก้จน ตำบลบ้านจาน อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้มักน้อย จ่ายน้อย ชอบสันโดษ และที่สำคัญเป็นคนขยัน และมีความเป็นกัลยาณมิตร
พ่อทอง...ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นเกษตรกรโดยสายเลือด และทำเกษตรผสมผสานมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กจนกระทั่งถึงปัจจุบัน จากการดำเนินกิจกรรมในการเกษตรจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีการพัฒนารูปแบบการทำเพื่อปรับสภาพให้เข้ากับการเปลี่ยนของของโลกแห่งเทคโนโลยีตลอดเวลา ทำไม ? ต้องเป็นคันนาเงินหมื่น เดิมทีเดียวนาของพ่อทองเป็นที่ลุ่ม ทำนาได้อย่างเดียว ครั้นจะปลูกพืชชนิดอื่นๆ ก็จะปลูกในฤดูฝนไม่ค่อยได้ เพราะน้ำจะท่วมผลผลิตเสียหาย หรืออาจจะพอปลูกได้บ้างตามที่จอมปลวก หรือคันนาที่เล็กๆ แต่เนื่องจากว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวมีจำกัดจึงไม่พอในการที่จะปลูกพืชชนิดอื่นๆ เช่น พืชผัก และไม้ผล ไว้ใช้ในการบริโภค และสร้างรายได้ จากนั้นจึงปลูกไม้ผล เช่น ฝรั่ง มะม่วง มะพร้าว มะกอกน้ำ กล้วย และพืชผักชนิดต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาว แตง เป็นต้น โดยยึดหลักให้พืชเจริญเติบโตแบบเกื้อกูลกัน โดยไม่บังแสงแดดซึ่งกันและกัน ใช้อาหารร่วมกัน เป็นต้น เมื่อปีที่แล้ว พ่อทองเล่าว่าบนคันนาทุกคันนั้น ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เพราะหลายๆ คันนา ได้ปลูกไม้ผลเต็มหมดแล้ว และอีกบางส่วนจะปลูกกล้วยน้ำหว้าริมขอบคันนา แล้วตรงกลางคันนาปลูกถั่วฝักยาว 1 รุ่น และแตงกวาสลับหมุนเวียนกัน 2 รุ่น พบว่าบนพื้นที่คันนาที่มีความยาว 60 เมตร สามารถสร้างรายได้ถึง 12,000 กว่าบาท จากแนวทางดังกล่าวจึงนับได้ว่า การพัฒนาองค์ความรู้จากภูมิปัญญา สามารถที่จะสร้างชุดความรู้ขึ้นมาได้ใหม่ ซึ่งเราเรียกว่าการจัดการความรู้แบบธรรมชาติ เป็นการจัดการรูปแบบใหม่ของการวางแผนการใช้ที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งรายได้ และประสิทธิภาพของการใช้แรงงาน
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
21 มีนคม 2550
ขอบคุณมากครับอาจารย์หนิง ที่เป็นห่วง
วันนี้วางแผนการใช้ที่ดิน สำหรับการทำเกษตรกรรมแบบประณีต อีกทั้งเดินรังวัดพื้นที่ทั้งวัน
สุดยอดของความเหนื่อยเลยครับ
แต่สู้...ครับ
นี่เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่ในระดับเราต้องมองเชิงระบบทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และการจัดการในทุกระดับ
จึงจะได้ข้อมูลที่นำไปสูการทำวิทยานิพนธ์ได้
ที่เสนอมายังไม่เห็นข้อมูลที่จำเป็นครับ