เรื่องที่ไม่น่าเกิด ได้เกิดขึ้น (สำหรับผม)
การได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี คือสิ่งที่ผมไม่เคยคิดถึงหรือคิดประสงค์จะเป็นและไม่เคยคาดคิดแม้แต่น้อยว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว โดยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 7 มีนาคม เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 16.30 และผมจะเข้าไปนั่งที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 12 มีนาคม เวลาประมาณ 8.00 น.
ผมเลือกที่ใช้ห้องทำงานในตึกบัญชาการ (ทำเนียบรัฐบาล) เพียงแห่งเดียว เพื่อให้หมอพลเดช ซึ่งจะขึ้นมาเป็น รมช.การพัฒนาสังคมฯ ได้ใช้ห้องรัฐมนตรี พม.ที่ผมเคยใช้อยู่ (ห้องทำงานที่กระทรวง พม. สำหรับ รมว.และทีมงานมีค่อนข้างจำกัด) โดยจะให้มีการส่งเอกสารไปมาระหว่างกระทรวง พม. กับผมในฐานะ รมว.พม.(ซึ่งผมยังคงครองตำแหน่งนี้ ควบกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี) เป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม แทนการที่ผมจะพาตัวเองมาดูเอกสารที่กระทรวง พม. ดังนั้น ผมจึงไม่จำเป็นต้องมีห้องทำงานไว้ให้ตนเองที่กระทรวง พม.
ผมต้องเร่งจัดทีมงานช่วยผมในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ขณะนี้ได้ตัวเลขานุการรองนายกฯ ด้านสังคม (เรียกเป็นทางการว่า “รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี”) (คือ ทพ.กฤษฎา) และประธานคณะทำงาน หรือประธานคณะที่ปรึกษารองนายกฯ ด้านสังคม (คือ นพ.สุวิทย์) แล้ว และได้ขอให้ที่ปรึกษา รมว.พม.โอนไปช่วยงานรองนายกฯ ด้านสังคมด้วย อีก 2 คน (คือคุณเอนก และคุณจิริกา) ที่เหลือคาดว่าจะทยอยจัดหามาให้ได้ในเร็ววัน
ตลอดชีวิตการทำงานของผม ผมไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะขวนขวายแสวงหาหรือ “อยากได้” ตำแหน่งงานสำคัญๆให้ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารไทยทนุ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนเมือง (การเคหะแห่งชาติ) ธนาคารออมสิน สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือตำแหน่งรัฐมนตรีและล่าสุดตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
แต่เมื่อได้รับแต่งตั้งแล้ว ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ
สวัสดีครับ
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรมท่านครับ ผมขอยินดีที่ท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครับ
และผมยินดีที่ท่านใช้บริการของบล็อกของ gotoknow.org เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันครับ
ผมเป็นคนที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเรียนท่านว่า ผมอยากให้การพัฒนาสังคมตอบสนองจากความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน คำว่า เจริญแล้ว ไม่น่าจะมีความหมายแค่ เหมือนๆ กับที่อื่นๆ หรือมีความใกล้เคียงกับเมืองหลวง
แต่มันน่าจะหมายถึง เขามีความเป็นตัวของเขาเองได้ และสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตที่เป็นสุขได้มากกว่าครับ เจริญจึงควรมีความหลากหลายของเป้าหมายครับ และน่าจะไม่ใช่การยัดเยียดให้นะครับ
ผมอยู่ในชุมชน ที่นับได้ว่าเป็นชนบท บางทีในหลายๆ ความต้องการของรัฐ ที่ส่งลงไปในชุมชน มันไม่ใช่ปัญหาหรือความต้องการของชุมชนจริงๆ ความร่วมมือก็ไม่เกิด แต่สิ่งที่เกิดจริงๆ คือ ผักชีจากพนักงานของรัฐที่ให้มีผลเพื่อรายงานเจ้านาย ไม่มีประโยชน์อะไรเลยกับชุมชน และชุมชนก็ยิ่งห่างไกลจากการพัฒนาครับ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณพระเจ้าที่ชี้นำให้ผมได้อ่านบล็อกของท่าน
ขอแสดงความยินดีด้วยครับท่าน
ใช่แล้ว
การพัฒนาชุมชนต้องมาจากการส่วนร่วมของชุมชนเป็นที่ตั้ง
จะได้ทั้งความสำเร็จและความสุขของทุกฝ่าย
สวัสดีค่ะท่านรองนายกรัฐมนตรี ขอแสดงความยินดีที่ท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่งนะคะ
ยินดีจริงๆค่ะที่ G2K ของเรามี blogger ซึ่งเป็นผู้บริหารบ้านเมืองด้วยคุณธรรมเข้ามาใช้เวทีเสมือนจริงแห่งนี้ ลปรร ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจและเป็นแนวร่วมสำหรับการทำงานใหญ่ในครั้งนี้ค่ะ ปัญหามากมายที่รอการแก้ไขและด้วยความมั่นใจว่ามีกำลังไม่นัอยที่จะช่วย รวมทั้งพลังของคนตัวเล็กๆ ฐานการทำงานเดิมของท่าน ผลงานที่ผ่านมา ทั้งผลงานการเขียนที่ได้มีโอกาสอ่าน การบรรยาย ภารกิจที่ได้ปฏิบัติล้วนมีส่วนในการพัฒนาพลังอำนาจกลุ่มคนเหล่านั้น ท่านเห็นและเข้าใจความเป็นจริงที่หลากหลาย แต่จะทำอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจว่าท่านกำลังทำอะไร งานทางสังคมต้องการเวลา โอกาสนี้เป็นเวลาของท่านแล้วค่ะสำหรับการทดสอบพลังอำนาจแห่งปัญญาที่ได้รับการบ่มเพาะ และส่งต่อในทุกระดับให้ได้แสดงศักยภาพ "ย้อนรอยพลังของการมีส่วนร่วมจากชุมชนถึงทำเนียบ "
ขอแสดงความยินดีกับโอกาสนี้ของท่าน ช่วงเวลาของการภาวนาที่ยิ่งใหญ่เพื่อสังคมไทยของเรา มวลสมาชิกมากมายคอยเป็นพลังและส่งกำลังใจมายังท่าน
ในฐานะคนไทย ขอบพระคุณที่อาจารย์ รับตำแหน่งสำคัญนี้
สถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าไม่ง่าย มีความเชื่อว่า อาจารย์จะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์
ขอให้กำลังใจอาจารย์ครับ เป็นการทำงานระยะหนึ่งตามภารกิจเพื่อชาติบ้านเมืองครับ
ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจในการแก้ปัญหาบ้านเมืองค่ะ ขอความกรุณาท่านรองฯ ช่วยดูแลการศึกษาด้วยค่ะ โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส บางพื้นที่อย่างที่ดิฉันสอนอยู่(แม่ฮ่องสอน) แทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คือสภาพโรงเรียน สภาพการศึกษาของไทย ความแตกต่างระหว่างเด็กในเมืองและเด็กด้อยโอกาสช่างไม่มีวันเทียบกันได้จริง ๆ หรือ ณ ขณะนี้ หรือแม้แต่อนาคต
สภาพสังคมวันนี้น่าเป็นห่วงที่สุดคือเด็กและเยาวชน
เพราะผู้ใหญ่มัวแต่ทะเลาะกัน ผมอยู่อุบลราชธานี
กำลังรวบรวมเด็กและเยาวชนทำงานเพื่อสังคม
รอผู้ใหญ่มาทำให้ไม่ได้แล้ว มัวแต่เล่นการเมืองกัน
ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ
และเป็นโอกาสที่ดีที่ท่านจะผลักดันงานสวัสดิการให้กับ อบต. หรือให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทำงานด้านสวัสดิการอย่างจริงจังซะที มิใช่เห็นแค่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สนใจใยดีและถึงเวลาประชุมก็ให้ผู้อื่นเข้าแทน อีกทั้งยังไม่ผลักดันให้หน่วยงานที่ต้องบูรณาการกันนั้นทำงานอย่างเป็นรูปธรรมสักที เพราะต้อนนี้เห็นหลายจังหวัดเน้นแต่งานด้านถนน งานด้านสร้างทาง งานด้านประมูลต่าง ๆ และเวลาประชุมจังหวัดทีไร งานลักษณะสวัสดิการสังคมจะเอาไปอยู่ในหัวข้อประชุมท้ายสุด จนเวลาหมดประชุมยังไม่ได้บอกกล่าวอะไรเลย และทางอำเภอส่วนใหญ่ก็เพิกเฉย ทำไม เพราะความจริง มหาดไทยก็คือมหาดไทย กระทรวงฯอื่นก็ด้อยลงไป เพราะการไม่ยอมรับความจริงในหลายๆ เรื่องที่เป็นจริงนี่เอง ทำให้ภาครัฐเกิดความเสียหาย ทำให้เกิดผู้มีอิทธิพลมากมาย และยังทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น
ถึงแม้จะมีหน่วยงานของกระทรวงฯนี้อยู่ในภูมิภาค แต่ถ้าท่านผู้มีอำนาจสูงสุดในภูมิภาคไม่ให้ความสำคัญ ทำเป็นรับต่อหน้าแต่ไม่ทำก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เพราะหน่วยงานของกระทรวงฯ ที่อยู่ในภูมิภาคก็แค่เป็นต้วแทนที่มีอำนาจน้อยนิดจะไปสั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงฯ อื่นที่ต้องมาร่วมบูรณาการอย่างจริงจังทำนั้นคงยาก จำต้องอาศัยอำนาจสูงสุดคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้สั่งการอย่างเด็ดขาด
ดังนั้น จึงขอความเมตตาจากท่านฯ ในเมื่อจังหวะและโอกาสมีมาถึงแล้วควรเร่งใช้ให้เป็นประโยชน์นะค่ะ อย่าให้ทางภูมิภาคทำงานอยู่อย่างลำพังกับโครงการมากมายเลย
" แม้ว่าบุคคลเดียวจะเก่งกาจและเชี่ยวชาญในงานนั้นสักเพียงใด แต่ขาดซึ่งความร่วมมือก็ไม่สามารถสำเร็จกิจนั้นโดยลำพังได้"