จดหมายถึงญาติมิตรพัฒนาสังคม ฉบับที่ 11 (12 มี.ค.50)


เรื่องที่ไม่น่าเกิด ได้เกิดขึ้น (สำหรับผม)

            การได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี คือสิ่งที่ผมไม่เคยคิดถึงหรือคิดประสงค์จะเป็นและไม่เคยคาดคิดแม้แต่น้อยว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว โดยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 7 มีนาคม  เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 16.30 และผมจะเข้าไปนั่งที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 12 มีนาคม เวลาประมาณ 8.00 น.

             ผมเลือกที่ใช้ห้องทำงานในตึกบัญชาการ (ทำเนียบรัฐบาล) เพียงแห่งเดียว เพื่อให้หมอพลเดช ซึ่งจะขึ้นมาเป็น รมช.การพัฒนาสังคมฯ  ได้ใช้ห้องรัฐมนตรี พม.ที่ผมเคยใช้อยู่ (ห้องทำงานที่กระทรวง พม. สำหรับ รมว.และทีมงานมีค่อนข้างจำกัด) โดยจะให้มีการส่งเอกสารไปมาระหว่างกระทรวง พม. กับผมในฐานะ รมว.พม.(ซึ่งผมยังคงครองตำแหน่งนี้ ควบกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี) เป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม แทนการที่ผมจะพาตัวเองมาดูเอกสารที่กระทรวง พม. ดังนั้น ผมจึงไม่จำเป็นต้องมีห้องทำงานไว้ให้ตนเองที่กระทรวง พม.

            ผมต้องเร่งจัดทีมงานช่วยผมในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ขณะนี้ได้ตัวเลขานุการรองนายกฯ ด้านสังคม (เรียกเป็นทางการว่า รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) (คือ ทพ.กฤษฎา) และประธานคณะทำงาน  หรือประธานคณะที่ปรึกษารองนายกฯ ด้านสังคม (คือ นพ.สุวิทย์) แล้ว และได้ขอให้ที่ปรึกษา รมว.พม.โอนไปช่วยงานรองนายกฯ ด้านสังคมด้วย อีก 2 คน (คือคุณเอนก และคุณจิริกา) ที่เหลือคาดว่าจะทยอยจัดหามาให้ได้ในเร็ววัน

            ตลอดชีวิตการทำงานของผม ผมไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะขวนขวายแสวงหาหรือ อยากได้ ตำแหน่งงานสำคัญๆให้ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ธนาคารไทยทนุ  มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ สำนักงานพัฒนาชุมชนเมือง (การเคหะแห่งชาติ)  ธนาคารออมสิน สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือตำแหน่งรัฐมนตรีและล่าสุดตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

            แต่เมื่อได้รับแต่งตั้งแล้ว ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ

  

                                                                             สวัสดีครับ

                                                                                    ไพบูลย์   วัฒนศิริธรรม
หมายเลขบันทึก: 83626เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2007 08:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ท่านครับ ผมขอยินดีที่ท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครับ

และผมยินดีที่ท่านใช้บริการของบล็อกของ gotoknow.org เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันครับ

ผมเป็นคนที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเรียนท่านว่า ผมอยากให้การพัฒนาสังคมตอบสนองจากความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน คำว่า เจริญแล้ว ไม่น่าจะมีความหมายแค่ เหมือนๆ กับที่อื่นๆ หรือมีความใกล้เคียงกับเมืองหลวง

แต่มันน่าจะหมายถึง เขามีความเป็นตัวของเขาเองได้ และสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตที่เป็นสุขได้มากกว่าครับ เจริญจึงควรมีความหลากหลายของเป้าหมายครับ และน่าจะไม่ใช่การยัดเยียดให้นะครับ

ผมอยู่ในชุมชน ที่นับได้ว่าเป็นชนบท บางทีในหลายๆ ความต้องการของรัฐ ที่ส่งลงไปในชุมชน มันไม่ใช่ปัญหาหรือความต้องการของชุมชนจริงๆ ความร่วมมือก็ไม่เกิด แต่สิ่งที่เกิดจริงๆ คือ ผักชีจากพนักงานของรัฐที่ให้มีผลเพื่อรายงานเจ้านาย ไม่มีประโยชน์อะไรเลยกับชุมชน และชุมชนก็ยิ่งห่างไกลจากการพัฒนาครับ

ขอบคุณมากครับ ขอบคุณพระเจ้าที่ชี้นำให้ผมได้อ่านบล็อกของท่าน

ขอแสดงความยินดีด้วยครับท่าน

P

ใช่แล้ว  

 

การพัฒนาชุมชนต้องมาจากการส่วนร่วมของชุมชนเป็นที่ตั้ง 

 

จะได้ทั้งความสำเร็จและความสุขของทุกฝ่าย

สวัสดีค่ะท่านรองนายกรัฐมนตรี  ขอแสดงความยินดีที่ท่านได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่งนะคะ 

ยินดีจริงๆค่ะที่ G2K ของเรามี blogger ซึ่งเป็นผู้บริหารบ้านเมืองด้วยคุณธรรมเข้ามาใช้เวทีเสมือนจริงแห่งนี้  ลปรร ค่ะ

  • ไม่รู้จะแสดงความดีใจหรือเสียใจหรือว่าความรู้สึกระหว่างดีใจและเสียใจดี :-)
  • ต้องแบกภาระอันใหญ่ขึ้น (จะว่าหนักก็คงไม่ใช่ถ้าใจรัก) ขอเป็นกำลังใจดวงนิดที่มีอยู่ทั้งหมดให้นะครับ :-)
  • ผมก็จะช่วยอีกแรงหนึ่งในสิ่งที่ไม่เกินความสามารถผม
  • สู้ๆ

ขอเป็นกำลังใจและเป็นแนวร่วมสำหรับการทำงานใหญ่ในครั้งนี้ค่ะ   ปัญหามากมายที่รอการแก้ไขและด้วยความมั่นใจว่ามีกำลังไม่นัอยที่จะช่วย  รวมทั้งพลังของคนตัวเล็กๆ  ฐานการทำงานเดิมของท่าน  ผลงานที่ผ่านมา  ทั้งผลงานการเขียนที่ได้มีโอกาสอ่าน  การบรรยาย   ภารกิจที่ได้ปฏิบัติล้วนมีส่วนในการพัฒนาพลังอำนาจกลุ่มคนเหล่านั้น   ท่านเห็นและเข้าใจความเป็นจริงที่หลากหลาย   แต่จะทำอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจว่าท่านกำลังทำอะไร    งานทางสังคมต้องการเวลา   โอกาสนี้เป็นเวลาของท่านแล้วค่ะสำหรับการทดสอบพลังอำนาจแห่งปัญญาที่ได้รับการบ่มเพาะ  และส่งต่อในทุกระดับให้ได้แสดงศักยภาพ  "ย้อนรอยพลังของการมีส่วนร่วมจากชุมชนถึงทำเนียบ  "

ขอแสดงความยินดีกับโอกาสนี้ของท่าน  ช่วงเวลาของการภาวนาที่ยิ่งใหญ่เพื่อสังคมไทยของเรา  มวลสมาชิกมากมายคอยเป็นพลังและส่งกำลังใจมายังท่าน

  • ขอแสดงความยินดีกับท่านรองนายกรัฐมนตรีในโอกาสนี้ค่ะ ท่านเป็น"ขิงแก่" ที่ที่มีหัวใจเกินร้อย  ทำงานด้วยความทุ่มเท และเป็นงานที่หนักมาก ในการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอให้กำลังท่านค่ะ
  • รู้สึกยินดีที่ท่านสะท้อนเรื่องราวต่างๆผ่านบล็อก และได้ติดตามอ่านบล็อกของท่านตลอดค่ะ

             ในฐานะคนไทย ขอบพระคุณที่อาจารย์ รับตำแหน่งสำคัญนี้

              สถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าไม่ง่าย มีความเชื่อว่า อาจารย์จะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์

              ขอให้กำลังใจอาจารย์ครับ เป็นการทำงานระยะหนึ่งตามภารกิจเพื่อชาติบ้านเมืองครับ

ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจในการแก้ปัญหาบ้านเมืองค่ะ ขอความกรุณาท่านรองฯ ช่วยดูแลการศึกษาด้วยค่ะ โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาส บางพื้นที่อย่างที่ดิฉันสอนอยู่(แม่ฮ่องสอน) แทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คือสภาพโรงเรียน สภาพการศึกษาของไทย ความแตกต่างระหว่างเด็กในเมืองและเด็กด้อยโอกาสช่างไม่มีวันเทียบกันได้จริง ๆ หรือ ณ ขณะนี้ หรือแม้แต่อนาคต

สภาพสังคมวันนี้น่าเป็นห่วงที่สุดคือเด็กและเยาวชน
เพราะผู้ใหญ่มัวแต่ทะเลาะกัน ผมอยู่อุบลราชธานี
กำลังรวบรวมเด็กและเยาวชนทำงานเพื่อสังคม
รอผู้ใหญ่มาทำให้ไม่ได้แล้ว มัวแต่เล่นการเมืองกัน

วิกฤตของชาติด้านสังคม ท่านอาจารย์เหมาะสมที่สุดครับ ภาคประชาชนพร้อมแล้วที่จะสนับสนุนท่านเพื่อฟื้นฟูชุมชน สังคมและประเทศชาติครับ
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังให้กับท่าน  และในฐานะที่เป็นคนไทยหวังว่าทุกๆคนที่เป็นคนไทยคงจะต้องร่วมมือกันในการนำวัฒนธรรมและสังคมอันดีงามของเรากลับคืนมา
ตัวแทนชาวมลาบรี ขอขอบพระคุณครับที่ไม่ทั้ง "มลาบรี"
  • ขอแสดงความยินดีด้วยครับกับตำแหน่งใหม่
  • ขอเป็นกำลังใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติครับ
  • ความแตกต่าง ความเลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาคยังมีอยู่ในสังคมไทย
  • แม้ในขอบเขตที่โรงเรียนผมตั้งอยู่ ความเป็นอยู่ของคนที่นี่ ก็ยังต้องดิ้นรน จนต้องทิ้งลูกกับครอบครัวไป จนก่อให้เกิดปัญหาสังคม ปัญหาการดำรงชีวิต
  • คงต้องใช้เวลา ไม่รู้เมื่อไร สิ่งเหล่านี้จะดีขึ้น
  • ฝากท่านด้วยนะครับ โดยเฉพาะในด้านนโยบายครับ ส่วนผมก็คงช่วยได้ในด้านที่ผมมีหน้าที่อยู่ครับ

 

ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ

และเป็นโอกาสที่ดีที่ท่านจะผลักดันงานสวัสดิการให้กับ อบต.  หรือให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทำงานด้านสวัสดิการอย่างจริงจังซะที   มิใช่เห็นแค่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  ที่ไม่สนใจใยดีและถึงเวลาประชุมก็ให้ผู้อื่นเข้าแทน  อีกทั้งยังไม่ผลักดันให้หน่วยงานที่ต้องบูรณาการกันนั้นทำงานอย่างเป็นรูปธรรมสักที  เพราะต้อนนี้เห็นหลายจังหวัดเน้นแต่งานด้านถนน  งานด้านสร้างทาง  งานด้านประมูลต่าง ๆ   และเวลาประชุมจังหวัดทีไร  งานลักษณะสวัสดิการสังคมจะเอาไปอยู่ในหัวข้อประชุมท้ายสุด  จนเวลาหมดประชุมยังไม่ได้บอกกล่าวอะไรเลย   และทางอำเภอส่วนใหญ่ก็เพิกเฉย  ทำไม  เพราะความจริง  มหาดไทยก็คือมหาดไทย  กระทรวงฯอื่นก็ด้อยลงไป  เพราะการไม่ยอมรับความจริงในหลายๆ เรื่องที่เป็นจริงนี่เอง ทำให้ภาครัฐเกิดความเสียหาย  ทำให้เกิดผู้มีอิทธิพลมากมาย  และยังทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น 

 ถึงแม้จะมีหน่วยงานของกระทรวงฯนี้อยู่ในภูมิภาค  แต่ถ้าท่านผู้มีอำนาจสูงสุดในภูมิภาคไม่ให้ความสำคัญ  ทำเป็นรับต่อหน้าแต่ไม่ทำก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ  เพราะหน่วยงานของกระทรวงฯ ที่อยู่ในภูมิภาคก็แค่เป็นต้วแทนที่มีอำนาจน้อยนิดจะไปสั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงฯ อื่นที่ต้องมาร่วมบูรณาการอย่างจริงจังทำนั้นคงยาก  จำต้องอาศัยอำนาจสูงสุดคือ  ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้สั่งการอย่างเด็ดขาด 

ดังนั้น  จึงขอความเมตตาจากท่านฯ  ในเมื่อจังหวะและโอกาสมีมาถึงแล้วควรเร่งใช้ให้เป็นประโยชน์นะค่ะ  อย่าให้ทางภูมิภาคทำงานอยู่อย่างลำพังกับโครงการมากมายเลย

 

" แม้ว่าบุคคลเดียวจะเก่งกาจและเชี่ยวชาญในงานนั้นสักเพียงใด  แต่ขาดซึ่งความร่วมมือก็ไม่สามารถสำเร็จกิจนั้นโดยลำพังได้" 

 

 

 

คนรู้จริง ข้างๆ ตัวท่านนั่นล่ะ
ไม่มีใครบังคับให้ท่านเป็นนี่ครับ ท่านมีสิทธิ์ปฎิเสธได้ แต่ท่านไม่ทำเอง ดังนั้นการจะมาโอดครวญขอความเห็นใจใดๆนั้น เป็นสิ่งที่ส่อถึงนิสัยหน้าไหว้หลังหลอกครับ
ส่วนใหญ่พวกทำงานราชการไม่ได้ทำงานทุกวัน แบบหามรุ่งหามค่ำ พอได้ทำก็บ่น ทั้งๆที่เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับองค์กรภาคเอกชนที่มีการแข่งขันสูง
อย่าลืมนะครับว่าท่านเองมีชนักติดหลังมากมาย โครงการในอดีตตั้งแต่เรียนจบปริญญาที่อังกฤษ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ทำธุรีกิจอะไรก็เจ๊งหมด ดีแต่สร้างภาพไปวันๆ ทำตลาดหุ้นก็ไม่ขึ้น อย่าลืมด้วยว่าท่านจบอะไรมา ถนัดอะไรจริงๆบ้าง ไม่ใช่ไปยุ่งเรื่องการเมืองการปกครอง ออกพระราชบัญญัติแก้ไขไม่ถูกจุด เรื่องที่ยุ่งอยู่แล้ว ก็ยิ่งบานปลายไปใหญ่ เวลาแต่งตั้งที่ปรึกษา ก็เอาแต่พวกหมอ ทั้งที่ไม่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารมหภาคเลย
ผมรู้ดีว่าท่านทำมาหากินอะไรไม่ได้แล้ว เลยมุ่งบรรยายในสายสังคม สายคุณธรรม และการจัดการความรู้  เพราะเรื่องพวกนี้ใครๆก็พูดได้ จบอะไรมาก็ทำได้ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ได้แต่พูด ทำจริงๆ ไม่เป็นซักอย่าง
ผมจะเฝ้ารอดูผลงานท่านต่อไป ว่าจะมีน้ำยาแค่ไหนกัน ฝากถึงหมอคนอื่นๆ ที่หันไปบรรยาย KM ด้วยนะครับ ว่าอย่าดีแต่ปาก ด พูดได้ แต่ตัวเองยังทำไม่ได้เลย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท