ประสบการณ์ อ่าน เขียน แปล กระบวนทัศน์ใหม่ (12)


วันที่สาม The Sessio Galactico

ถ้ามีใครขยับจะไปเปิดดิกชันนารีภาษาใดก็ตาม ก็ไม่ต้องเสียเวลา เพราะคำนี้คิดขึ้นเอง ล้อ ทีม Real Madrid รวมดาราเขานิดหน่อย ใส่ accent โอ้ๆ โก้ๆ เข้าไปพอได้กลิ่นลาตินติดมา

ตอนเช้าหลังจากที่สมาชิกได้เห็นการ unblock กันต่อหน้าต่อตาของใครต่อใครหลายคน บรรยากาศตอนบ่ายก็เต็มไปด้วยความผ่อนคลายบ้าง ตื่นเต้นบ้าง ข่าวดีก็คือ Le Petit เปิดบ่ายนี้ แปลว่าเราจะได้มี free-time ในห้องขจี (ฝึกฝีมือ) อีกครั้งหนึ่งแกล้มเค้ก และ Espresso ตอนบ่ายเราเอาหนังสือที่พามาจากบ้านมาวางกองกลางห้องกว่าร้อยเล่ม ใหม่เอี่ยมบ้าง เก่าจนภัณฑารักษ์ / บรรณารักษ์ น้ำลายไหลบ้าง มีขีดเส้นเปรอะไปหมดแสดงถึงความ IN ของผู้อ่านบ้าง บางเล่มดูเหมือนมีทั้งรอยแทะ รอยน้ำลายตรงหน้าปก แสดงถึงวิธีการอ่านไม่เหมือนกันของแต่ละบ้าน

หนังสือ "มณฑลแห่งพลัง" ดูจะมีคนเอามามากที่สุด แล้วก็หนังสือของ Margaret Wheatley ของ ส. ศิวรักษ์ ของท่านพุทธทาส มีแม้แต่กระทั่งหนังสือ "เรื่องเล่าสาวไซด์ไลน์" ที่หนุ่มศรชัยเราชี้แจงให้ข้อมูลแก่เพื่อนๆว่าไม่สนุกอย่างที่หน้าปกให้นัยไว้เลย ปล่อยให้เพื่อนๆฉงนฉงาย (ในใจ) ว่าแล้วลื้ออ่านไปทำไมฟ่ะ?

บรรยากาศเหมือนที่พวกเราเดินแผลหนังสือสนามหลวงสมัยอดีต (เรื่องนี้ก็พอจะบอกยุค บอกสมัยคนได้) เดินวนกันแล้ว วนกันเล่า น้องผึ้งกับเก่งก็บอกว่าใครจะเอาเล่มไหน จดชื่อและจำนวนมาเลย เดี๋ยวจะเอาไป xerox มาให้ ฮา ฮา บริการนี้น่าสนใจ เลยขอเอา Flow ของซิกเซนมิฮาลยีมาอ่านซะหน่อยเถิด จะได้ทราบว่าอ่านยากง่ายพอๆกับมณฑลแห่งพลังของท่านโยดาหรือไม่

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าน่าประหลาดใจที่บางครั้ง หนังสือที่เราอ่านมาตั้งแต่เด็ก เรารู้สึกนึกถึงจำได้บางตอนก็ตอนโตแล้วนี่เอง ไม่ว่าจะเป็นกำลังภายใน หนังสือชุด foundation series หนังสือชุด robot series ของไอแซก อาซิมอฟ หรือชุด รามา ของอาเธอร์ ซี คล้าก ความหมายที่ถูกทิ้งคาไว้หลายสิบปีก่อนได้คลี่คลายออกมา จากก้นบึ้งมหาสมุทรแห่ง Theta ของแต่ละคน และพอนำมาพูดดังๆ เกิดเสียงสะท้อนลงไปถึง delta community ว่านี่แหละ ใช่เลย จริงด้วย มันอย่างนี้นี่เอง

เราไปสนทนากันต่อที่ห้องไผ่ขจี มีอาจารย์มนตรี เจ้าแอ๊ด และคุณหมอสุนันท์ และคุณไพลิน เป็นผู้ supply raw material มาให้ขบเคี้ยวในมื้อนี้ เจไดวฆ และคุณ ณา กำลังแลกเปลี่ยน (รอยเขี้ยว) กันอีกมุม อภิปรายถึงศัพท์บัญญัติใหม่ เช่น นักเรียนรอครูอ้าซ่า อะไรทำนองนี้อยู่อย่างเป็นวาระแห่งชาติ อาจารย์มนตรีกำลังมีโครงการที่จะช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 2000 คน และคิดว่าแอ๊ดอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง

ไพลินเสนอประเด็นที่น่าสนใจ คือ ถ้าหากเด็กพวกนี้กลับไปเคารพเชือฟังคำแนะนำ หรือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ ปัญหาต่างๆน่าจะดีขึ้น (มั้ง) ก็กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจ และปัญหาที่อยู่ตรงหน้าดูใหญ่โต ทางออกดูจะรำไรในชั่วขณะหนึ่ง ดูจะริบหรี่ในอีกชั่วขณะหนึ่ง

ผมเติมไปว่าถ้าได้อย่างนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก อะไรก็คงจะไม่ดีไปกว่าการที่เด็กเหล่านี้กลับไปมี reconciliation กับสถาบันรากดั้งเดิมได้ แต่เกรงว่าเราน่าจะต้องมี แผนสำรอง สำหรับในกรณีที่แผนแรก work ได้ไม่เต็มที่

แผนสำรองในที่นี้ก็คือ โจทย์มาจาก ตัวเด็กเอง ณ ขณะนี้ เวลานี้ เขาเป็นอย่างไร อาการเป็นขั้นไหน ระยะไหน มีจุดแข็งจุดอ่อนอะไรบ้าง อะไรที่เป็น viable options ที่แท้จริง

เราเคยมี workshop คล้ายๆกันในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ ให้ไปทำงานกับผู้ป่วยเรื้อรัง สร้างโครงการช่วยเหลือผู้ป่วย ตอนแรกเด็กๆก็คิดกันใหญ่เลย จะทาสีห้องให้ใหม่ จะทำอาหารให้ จะเล่มเกม ซื้อของแจก ฯลฯ คิดโครงการเสร็จ ก็ให้เด็กไปพูดคุยกับคนไข้และญาติกลุ่มนี้ ว่าเขาคิดยังไงกับโครงการนี้ ปรากฏว่าทุกโครงการถูก rejectd หมด ไม่มีใครคิดว่าอยากจะได้สิ่งที่เขานำเสนอเลย !! นศพ.เรากลับมา regroup แล้วก็เกิดพุทธิปัญญา เอ้อ เราลองไปถามคนไข้เขาดูดีกว่า ว่าเขาอยากจะได้อะไร

ผมคิดว่ากรณีเด็กมีปัญหาที่เชียงใหม่ในโครงการของ อ.มนตรีนี้ ต้ออาศัยเทคนิก empowerment มากกว่า intervention นั่นคือ ปรับเปลี่ยนจากภายใน มากกว่ายื่นมือไปกวนๆจากภายนอก การที่กลุ่มอาจารย์มนตรีมีคุณแอ๊ด อดีตพญากระทิงผู้ล้างมือในอ่างทองคำแล้วเป็นพลพรรค นับเป็น great asset ทีเดียว ที่เราจะได้ข้อมูล หนทาง ในการ empower เด็กกลุ่มนี้ได้ เพราะข้อมูลเบื้องต้นว่าเขาเป็นยังไง คิดยังไง อยู่กันยังไง อะไรเป็นคุณค่า อะไรเป็นสิ่งที่ผลักเขาไปข้างหน้าในแต่ละวัน จุดแข็ง จุดอ่อน ทั้งหมด ต้องนำมาอยูในแผน บูรณาการเข้าด้วยกันให้ได้

เราก็สะท้อนต่อไปถึงวาระแห่งชาติ ไปๆมาๆก็พูดถึง Bush บ้าง อิสราเอลบ้าง กลายเป็นวาระแห่งโลก และก็เป็นที่มาของ วาระแห่งกาแลกซี หรือ sessio galactico ที่จั่วหัวเรื่องนั้นเอง

บางทีในการแก้ปัญหานั้น เราเคยชินกับการค้นหา root-cause analysis ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ตามหลักอริยสัจสี่ แต่การแก้ปัญหาสามารถเริ่มจากตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่าสายเกินไป เราตัดตอนปัญหาใหม่ๆจากการวิเคราะหสาเหตุของปัญหา นั่นก็ช่วย แต่ปัญหา ณ ปัจจุบันนี้คงต้อง approach ด้วยปัจจุบัน เพราะเราย้อนเวลาไม่ได้ บางบ้านที่บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่มีพ่อแม่จะย้อนกลับไปหา หรือพ่อแม่บางทีก็เป็นรากของปัญหาเอง เราก็จะต้องสามารถพลิกแพลงตามบริบทได้ เพราะ ชีวิตนั้นมีบริบท เป็นของเลื่อนไหล ไม่ใช่ cross-sectional subject ที่หยุดอยูกับที่ให้เราตัดแต่งเลาะเล็มเป็นอะไรก็ได้ แต่เป็นอะไรที่เราตัดแต่งเลาะเล็มขณะอยูบนหลังม้า ที่คนขี่คนละคนกัน อยู่คนละลู่ เฉียดๆกันบ้างบางครั้งบางเวลา ขอเพียงเราจำไว้ว่าไม่ว่าเด็กตอนนี้จะเป็นเช่นไร อันความหวังนั้น มักจะซ่อนเร้นอยู ณ มุมมืดที่สุดก้นหีบแพนโดรา เพื่อให้มนุษย์อยู่รอดได้เสมอ

เราคุยกันจนหมดเวลา สัญญากับเจไดวฆไว้ว่าวันนี้รอบดึกหลัง session กลางคืน เราจะไปตั้งวง "ชาเขียว" กันที่แป้นเกร็ด มีคนแลบเลียริมฝีปาก (อย่างออกนอกหน้า) พยักหน้าเป็นแถวๆ แบ่งปันหน้าที่หากับแกล้ม เอ๊ย ของว่างกินกับชาเขียวกันเรียบร้อย คืนนี้ท่านโยดาจะแนะนำ VOICE DIALOGUE ของใหม่เอี่ยม แต่วันนี้เป็นวันที่อะไรๆก็ดีไปหมด หมด block หมดปัญหา เราพร้อมที่จะรับได้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง

หมายเลขบันทึก: 83516เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2007 16:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

โอ้อ่านมากๆเดี๋ยวหน้าของเราจะติดจอคอมฯเอา ขอพิมพ์น้อยๆสั้นๆได้ใจความมีอรรถรส(เนื่องจากเป็นเด็กก่อนจะพิมพ์คำว่าอรรถรสถึงกับวิ่งไปเอาพจนานุกรมมาเปิดหา)เช่น"อสุนีบาต"ฯลฯ

หนังสือ"มณฑลแห่งพลัง"อ่านไม่เข้าใจหรอกแต่การตั้งวง"ชาเขียว"กันที่แป้นเกร็ดคงเจ๋งดีตั้งวันไหนครับผมก็อยู่แป้นเกร็ดและกลับบ่ายวันที่5พร้อม"อสุนีบาต"กลางฝันตอนขากลับ

อยากเข้าวง"ชาเขียว"จังงงงง

เอื้อ 

น้องเอื้อจ๊ะ

   พี่ว่าน้องมาตั้งวงเป็ปซี่กับพี่จะดีกว่านะ วงชาเขียวปล่อยให้เหล่าท่าน สว.จะดีกว่า คุณแม่คงอนุญาต   วงชาเขียวกว่าจะตั้ง น้องเอื้อก็คงจะหลับปุ๋ยไปแล้ว ว่างๆจะขอยืมหนังสือกำลังภายในอ่านใหม่นะ ตอนนี้กำลังอ่านมุซาชิอยู่ สนุกมาก ต้องรีบไปซื้อเล่มต่อไปอ่าน เพราะกลัวศรชัยจะไปแฮ๊บไปซะก่อน เพราะที่นครสวรรค์รู้สึกว่าจะมีเล่มเดียว

                                    พี่หมอสุนันท์

ขออภัยที่อาจจะทำให้น้องเอื้อเข้าใจผิด (รึเปล่าหว่า?) เรื่องชาเขียวนะครับ ชาเขียววงนี้มี age-limited ครับ และก็มี watershed หลัง 4 ทุ่ม น้องเอื้อไปอ่านการ์ตูน หรือ หนังสือกำลังภายในฝึกปรือไปพลางๆก่อนนะครับ อีกไม่นานคงจะได้มาร่วมวงชาเขียวกันจริงๆ

 I will be looking forward to.

อาจารย์สกลคะ

ขอชื่มชม ชื่นใจมากๆกับ ตำแหน่ง สุดคนึง ประจำเดือนนี้นะคะ พี่มั่นใจค่ะว่า ไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะเข้ามาอ่านบทความที่อาจารย์ลงทุกครั้ง ก็ได้กับได้ทุกครั้งเลยค่ะ ขอบคุณทุกๆบทความอีกทุกครั้งเข้ามาอ่านค่ะ

พี่มาริษา

ขอบคุณมากครับพี่มาริษา

ตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าอะไรคือสุดคะนึงครับ (ฟังดูเหมือนละครทีวีชุดใหม่ แต่คิดดูอีกทีไม่น่าจะใช่ จะไปถามภรรยาว่าผมได้เป็นที่สุดคะนึง เดี๋ยวก็เรื่องไปกันใหญ่) จนกระทั่งไปอ่าน mail ของพี่เต็ม เจอว่าอะไรเป็นอะไร ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตามระเบียบ (ของใครก้ไม่รู้)

ถ้าจะให้รางวัลเมื่อผมได้อะไรจากใคร ผมคงให้ไม่หวาดไม่ไหว เพราะได้อยู่ตลอดเวลา ได้จากพี่มาริษาด้วย (กำลังใจ) น่าจะมีรางวัลคนให้กำลังใจด้วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท