GotoKnow

อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์

ครูแป๊ว กัลยาณี
เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2568 21:01 น. ()
แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม 2568 07:35 น. ()

อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควน้อยทางทิศเหนือในเขตตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แวดล้อมด้วยทิวเขาเป็นแนวยาวอยู่โดยรอบ เดิมปราสาทแห่งนี้มีชื่อปรากฏในจารึกปราสาทพระขรรค์ว่า ศรีชัยสิงห์ปุระ ลักษณะผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลง กว้างประมาณ 800 เมตร หมายถึงส่วนกว้างของเมือง ยาวประมาณ  850 เมตร และกำแพงสูง 7 เมตร มีประตูเข้าออก 4 ด้าน มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ภายในเมืองมีสระน้ำ 6 สระ

ปราสาทเมืองสิงห์ตั้งอยู่บนบริเวณที่ราบริมฝั่งทิศเหนือของแม่น้ำแควน้อย พื้นที่โดยรอบโอบล้อมด้วยภูเขาขนาดไม่สูงมากนัก บริเวณโบราณสถานจะมีกำแพงและคูคันดินเป็นชั้นๆ แนวกำแพงดังกล่าวมีลักษณะเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยม คือ แม่น้ำแควน้อยไหลผ่านด้านทิศใต้ ดังนั้นพื้นที่ด้านนี้จึงขยายออกไปตามแนวแม่น้ำ สำหรับด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศเหนือ แนวกำแพงต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม รอบนอกกำแพงจะเป็นคูคันดินล้อมรอบอยู่ โดยเฉพาะด้านตะวันตกปรากฏซากคันดินอยู่ถึง 7 ชั้น กำแพงและคันดินนี้จะล้อมรอบกลุ่มโบราณสถานสำคัญ ซึ่งประกอบด้วยโบราณสถานหมายเลข 1 - 4  กำแพงและประตู คูคันดิน สระน้ำ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ

ปราสาทเมืองสิงห์มีจุดมุ่งหมายในการสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน จากการขุดตกแต่งของกรมศิลปากรอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่พ.ศ.2478  แต่มาเริ่มบุกเบิกจริงจังเมื่อพ.ศ.2517 และแล้วเสร็จเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมื่อพ.ศ.2530 จึงสวยงามดังที่เห็นอยู่ในวันนี้ ปราสาทเมืองสิงห์นี้กล่าวว่าสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรมคล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (พ.ศ. 1720 - 1780) กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอม จากการขุดแต่งของกรมศิลปากร พบศิลปกรรมที่สำคัญยิ่งคือ พระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และนางปรัชญาปารมิตา และยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่ง รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครแล้ว คงเหลือแต่องค์จำลองไว้

จากศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์ เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ซึ่งจารึกโดย พระวีรกุมาร พระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จารึกชื่อเมือง 23 เมืองที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างไว้ มีชื่อเมือง  ศรีชัยสิงห์บุรี ซึ่งสันนิษฐานกันว่าคือเมืองสิงห์ นี่เอง และยังมีชื่อของเมือง ละโวธยปุระ หรือ ลพบุรี ที่มีพระปรางค์สามยอด เป็นโบราณสถานร่วมสมัย

แต่ในเรื่องดังกล่าวรองศาตราจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม เห็นว่าการที่นำเอาชื่อเมืองที่คล้ายคลึงกันในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาไปเปรียบเทียบกับบรรดาเมืองในเส้นทางคมนาคมในจารึกปราสาทพระขรรค์อย่างง่ายๆ โดยไม่คำนึงถึงหลักภูมิศาสตร์ เท่ากับเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างมักง่าย เพราะบรรดาปราสาทขอมที่เรียกว่าอโรคยาศาลนั้นมักพบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีรูปแบบแตกต่างจากปราสาทขอมที่พบในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสิ้นเชิง ตรงข้ามกับบรรดาปราสาทที่พบบนเส้นทางคมนาคมจากละโว้ถึงเพชรบุรี และปราสาทแต่ละแห่งก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป จะมีความคล้ายคลึงกันแต่รูปเคารพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และนางปรัชญาปารมิตาที่บ่งชี้ว่าน่าจะแพร่หลายมาจากเมืองละโว้ และพระโพธิสัตว์บางองค์น่าจะมาจากเมืองพระนครก็มี แต่หลักฐานทั้งหมดก็มิได้ปฏิเสธความสัมพันธ์ทั้งสังคมและวัฒนธรรมระหว่างละโว้กับเมืองพระนครในกัมพูชา

ในสมัยรัชกาลที่ 1 เมืองสิงห์ได้มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่าน ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้เจ้าเมืองสิงห์เป็นพระสมิงสิงห์บุรินทร์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล ดังนั้นจึงยุบเมืองสิงห์ให้เหลือฐานะเป็นเพียงตำบลหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อพ.ศ.2521 มีการค้นพบศิลาจารึกปราสาทเมืองสิงห์ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 พบคำจารึกนามผู้ครองเมืองว่า พญาไชยกร น่าจะเป็นผู้ปกครองเมืองหรือเจ้าเมืองสิงห์ ในสมัยขอมเมืองพระนครแผ่อิทธิพลเข้ามาถึงดินแดนแห่งนี้

นอกจากนี้ภายในอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีการจัดแสดงโบราณวัตถุ แสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ขุดค้นพบในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์อีกมากมาย เช่น เศียรพระศิวะ แม่พิมพ์พระพุทธรูป ภาชนะดินเผา และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นรูปจำลอง ส่วนของจริงกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
MyThaiSpot
Healthy Travel, Thai Discoveries
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย