แนวคิดเชิงคำนวณจะเป็นทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สำหรับการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในโลกดิจิทัล แม้หลายภาคส่วนจะให้ความสนในเกี่ยวกับการสอน วิทยาการคำนวณมากขึ้น แต่ทักษะการคิดเชิงคำนวณนั้นกลับไม่ได้ถูกใช้ในการเรียนรู้ของนักเรียน กล่าวคือครูผู้เน้นสอนการใช้เครื่องมือในโปรแกรมต่าง เช่น โปรแกรมเขียนโค้ดแบบ Block-based programming ที่ครูสอนใช้เพียงการใช้งานโปรแกรม แทนที่จะฝึกให้นักเรียนคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
ปัญหาช่องว่างระหว่างแนวคิดทฤษฎีกับการปฏิบัตินั้นเกิดขึ้นจากการ เน้นใช้เครื่องมือทางซอฟต์แวร์มากเกินไป จนนักเรียนขาดทักษะการคิดเชิงคำนวณ ซึ่งปัญหาในการจัดการเรียนการสอนวิทยาการคำนวณที่พบคือ หลักสูตร ออกแบบมาไม่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละท้องถิ่น ขาดการฝึกอบรมครูทำให้เกิดปัญหาการบูรการข้ามศาสตร์
อีกทั้งความคาดเคลื่อนในการสอน การคิดเชิงคำนวณ ที่ทำให้มองว่าเป็นแนวคิดสำหรับการแก้ปัญหาอย่างง่าย ลดทอนความความยากของบทเรียนลงจนแก้ปัญหาซับซ้อนไม่ได้ นอกจากนี้ ในการพัฒนาวิชาชีพบางครั้ง ผู้สอนเองอาจช่วยเสริมให้เกิดการ คาดเคลื่อนของแนวคิดเชิงคำนวณโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น ในกรณีที่ครูไม่เข้าใจแนวคิดของ การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) และต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม แต่ผู้ฝึกอบรมครูไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ จึงนิยาม การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) อย่างง่ายว่าเป็นการ "ระบุสิ่งที่สำคัญที่สุด" ส่งผลให้ครูตีความว่า การทำความเข้าใจองค์ประกอบของปัญหา ซึ่งแท้จริงแล้วคือ การแบ่งปัญหา (Problem Decomposition) เป็น การคิดเชิงนามธรรม Abstraction
การเรียนรู้แนวคิดเชิงคำนวณ ควรคำนึงถึงปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมของผู้เรียนเพื่อให้เกิดหลากหลายความหลากหลายและความเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิด อคติที่เกี่ยวข้องกับเพศ เชื้อชาติ และสถานะทางเศรษฐกิจสังคม
กรอบการทำงานเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ แนวคิดเชิงคำนวณ
1. อบรมพัฒนาการใช้เทคโนโลยี ให้โอกาสครูและนักเรียนได้ฝึกฝนการใช้เครื่องมือพื้นฐานก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจและลดอุปสรรคทางเทคนิค รองลงมาคือความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และการนำเครื่องมือใหม่มาใช้
2. พัฒนาแนวคิดเชิงลึกเกี่ยวกับ CT การเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน เป็นวิธีหนึ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงแนวคิดโดยเชื่อมโยง CT กับปัญหาที่ซับซ้อนในชีวิตจริง
3. ร่วมกันออกแบบหลักสูตร ให้ครู นักเรียน และผู้เชี่ยวชาญมีส่วนร่วมในการออกกิจกรรมการเรียนรู้ วิทยาการคำนวณ ที่เหมาะสมกับบริบทในท้องถิ่นของตน
4. ส่งเสริมชุมชนแห่งการเรียนให้เกิดขึ้นกับครู ผู้บริหาร และผู้ปกครอง
อ้างอิง
Liu, Z. (2023). Integrating computational thinking into K-12 education: Bridging the gap between theories and practices. STEM Education Review, 1(14). https://doi.org/10.54844/stemer.2023.0467
ไม่มีความเห็น