ค่าย ปนน. อาสาแนะแนว หมุนวนมาอีกครั้ง ... กรรมการชมรมต่างช่วยกันวางแผน เตรียมการ ระดมสรรพกำลังและระดมทุนทรัพย์ เพื่อนำไปใช้ “ทำค่าย” ในนิยามของชาว ปนน. หลายเดือนที่เตรียมการกันไว้ ประชุมหารือ และประสานกับทางโรงเรียน เพื่อขออนุญาตไปจัดค่าย รวมถึงการ “เปิดหมวก” รับบริจาค การขอสนับสนุนจากห้างร้านและสถานประกอบการ การจำหน่ายเสื้อที่ระลึก และการขอความอนุเคราะห์จากพี่ ๆ ศิษย์เก่า... ค่าย จึงดำเนินการไปได้ ตามวิถี
ปนน. เคยไปทำค่ายที่โรงเรียนโพธิ์ตากพิทยาคมแล้ว เมื่อปี 2563 การย้อนกลับไปจัดค่ายในสถานที่เดิม จึงน่าจะมีความพิเศษเฉกเช่นกัน อะไรคือคำตอบของคำถามนี้????
โดยปรกติ ปนน. จะมีสมุดค่ายที่มอบให้แต่ละคน อาจารย์ที่ปรึกษาจะได้เขียน “สาร” เพื่อไปบรรจุเป็นส่วนหนี่งของสมุดค่าย ... รอบนี้ก็รอลุ้นว่าจะต้องเขียนให้หรือเปล่า???? เมื่อไปร่วมพิธีเปิดค่าย จึงได้คำตอบที่กระจ่างชัดว่า เมื่อเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน รูปแบบจึงเปลี่ยน ยังคงไว้เพียง “อุดมการณ์” ที่แน่วแน่ยึดเหนี่ยวโยงใจพวกเราชาว ปนน. ไว้
24 สิงหาคม 2567 ขับรถด้วยความตั้งใจจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มุ่งหน้าสู่โรงเรียนโพธิ์ตากพิทยาคม อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย หมายใจว่าจะไปให้ทันพิธีเปิด และไปถึงหอประชุมโรงเรียนตอนกำลังถ่ายภาพหมู่หลังพิธีเปิดพอดี จึงได้มีโอกาสกล่าวทักทายชาวค่าย....
“ความสุขของการเป็นที่ปรึกษาชมรมและที่ปรึกษาค่าย คือการได้เห็นชาวค่ายสนุกกับการทำหน้าที่แห่งตน ค่ายสอนให้เราเหนื่อย แต่เป็นความเหนื่อยเพื่อเสียสละ แบ่งปัน ... “เสียสละ” ความสุขแห่งตนเพื่อ “แบ่งปัน” ให้ผู้อื่น แต่ที่สุดแล้ว ตนกลับปีติสุขมากกว่าที่เสียสละและแบ่งปันไป”
“วันนี้กล่าวทักทายชาวค่าย ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรเลย แต่มีประโยคหนึ่งที่ตั้งใจกล่าวคำขอบคุณทุกคนที่เสียสละเวลาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของค่าย ขอบคุณโรงเรียนและครูที่มอบห้องเรียนอันสำคัญให้พวกเราชาวมอขอไข่ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ขอบคุณพี่ค่ายและน้องค่ายที่เสียสละเวลามาร่วมกันทำค่าย ขอบคุณผู้ปกครองและผู้นำชุมชนที่มอบลูก ๆ มาให้ มอบข้าวสารอาหารแห้งมาสมทบ ขอบคุณผู้สนับสนุนทุนทรัพย์ที่แบ่งปันมาให้พวกเราจำนวนมากโข เป็นสารตั้งต้นความดีงาม ขอบคุณ มข. ที่ยังเห็นความสำคัญของค่าย ที่เป็นเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา แล้วพวกเรานี่แหละ จะช่วยกันพัฒนาสังคมโลกให้เป็นในแบบที่พวกเราอยากมี อยากเห็น อยากเป็น อยากอยู่”
สาย ๆ ของวันที่ 25 สิงหาคม 2567 ขับรถกลับมาทักทายชาวค่ายก่อนเดินทางกลับ มข. ได้กินมื้อกลางวันก่อนขับรถออกจากโรงเรียน ... ปล่อยให้ชาวค่ายได้เรียนรู้ ฝึกทำ นำอุดมการณ์อันเท่ ๆ แผ่กระจายให้คละคลุ้ง เพื่อน้อง ๆ เพื่อสังคม และสำคัญที่สุดคือเพื่อตนเอง ที่ได้เรียนรู้ ฝึกฝน ฝึกตน ฝึกใจ ในการเป็นผู้ให้และผู้แบ่งปัน
ชาวค่ายคงเหนื่อย โดยเฉพาะแกนนำ กรรมการค่าย ที่ต้องรับผิดชอบ คิดรอบคอบ คิดให้ละเอียด ใจเย็น และแก้ปัญหาให้ทันการณ์ ... และแล้ว ค่ายก็สำเร็จ เสร็จสมบูรณ์ ตามประสงค์
ขอชื่นชมกับทุก ๆ คน ที่ตั้งใจ ใส่ใจ เรียนรู้ แบ่งปัน ดูแลกันและกัน สืบต่ออุดมการณ์ชาวค่าย ปนน. .... เป็นดั่งพี่น้อง เพื่อนผอง และกำลังใจ เสมอ เสมอ
ไม่มีความเห็น