ชีวิตของผมเข้าสู่ปลายทาง เพราะปีนี้ปลายปีอายุก็จะเต็ม ๘๒ จึงเตรียมตัวตายด้วยการไปเข้า คอร์ส Living and Dying with Dignity ที่ผมเล่าไว้ที่ (๑) และ (๒)
หนังสือ ปลายทางชีวิต...ขอลิขิตการรักษา โดย ศ. ดร. แสวง บุญเฉลิมวิภาส ให้คำแนะนำทางกฎหมายเกี่ยวกับการแสดงเจตนาเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในระยะสุดท้ายของชีวิต (living will) และความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย หนังสือเล่มนี้ เชื่อมโยงกับการก่อตั้ง ศูนย์ธรรมศาสตร์ ธรรมรักษ์ ที่เป็นศูนย์วิชาการด้านการดูแลแบบประคับประคอง (palliative care) (๑)
สภากาชาดไทย มี ศูนย์ชีวาภิบาล ให้บริการผู้ป่วยระยะสุดท้าย
เมื่อ ๑๑ ปีที่แล้ว ผมร่วมคณะเดินทางไปดูงานกิจการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น เล่าไว้ที่ (๒)
ปลายทางชีวิตของผม โชคดีที่เตรียมนิสัยออกกำลังกายแบบแอโรบิคไว้ตั้งแต่อายุ ๔๐ และทำสม่ำเสมอตลอดมา ได้ผลด้านการฝึกจิตไปด้วยในตัว และโชคดีอีกชั้น ที่ชีวิตผมผูกพันอยู่กับวงการด้านพัฒนาจิตวิญญาณ รวมทั้งในช่วงสิบกว่าปีหลังผมสนใจเรื่องการเรียนรู้มากขึ้น ส่งผลให้ฝึกฝนตนเอง หรือเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติเพิ่มขึ้นหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาตัวตน ไปจนเข้าสู่การลดละตัวตน ช่วยให้ชีวิตเบาสบาย
น่าจะเป็นโชคดีมากกว่าโชคร้าย ที่ต้นปีที่แล้วโรคร้าย (มะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดร้ายแรงมาก) มาเตือนสติ ให้ เรียนรู้และฝึกฝนด้านในของตนเองมากยิ่งขึ้น ด้วยการบอกตนเองว่า “กายป่วยแต่ใจไม่ป่วย” มีโรคแต่ไม่ป่วย ยังดำเนินชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมได้
วิจารณ์ พานิช
๑๑ ก.พ. ๖๗
ไม่มีความเห็น