เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ “งานแสดงสินค้า”


สถานที่จัดงานแสดงสินค้าหรือ Venue ในบ้านเรา เมื่อครั้งในอดีต มีตั้งแต่ สวนลุมพินี ซึ่งใช้จัดงานในสมัยรัชกาลที่ 6-7 ต่อมาก็มีสวนอัมพร และที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรามคำแหงปัจจุบัน ก็เคยใช้จัดงานแสดงสินค้ามาก่อน เรียกว่าสถานที่เหล่านี้เป็นตำนานสถานที่จัดงานแสดงสินค้าที่มีมาก่อนศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือไบแทค และอินแพค จะเกิดเสียอีก

               เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ “งานแสดงสินค้า”

 

          “งานแสดงสินค้า” เป็นกิจกรรมที่ใช้ในการส่งเสริมธุรกิจการค้า รวมทั้งใช้ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ถ้าใครสนใจเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ ก็จะรู้ว่าสถานที่จัดงานแสดงสินค้าหรือ Venue ในบ้านเรา เมื่อครั้งในอดีต มีตั้งแต่ สวนลุมพินี ซึ่งใช้จัดงานในสมัยรัชกาลที่ 6-7 ต่อมาก็มีสวนอัมพร และที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรามคำแหงปัจจุบัน ก็เคยใช้จัดงานแสดงสินค้ามาก่อน เรียกว่าสถานที่เหล่านี้เป็นตำนานสถานที่จัดงานแสดงสินค้าที่มีมาก่อนศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  หรือไบเทค และอินแพค จะเกิดเสียอีก

คำในภาษาอังกฤษ งานแสดงสินค้ามีใช้กันอยู่หลายคำ ไม่ว่าจะเป็น Exposition, Salon, Trade Display, Trade Fair, Road Show ฯลฯ แต่ที่นิยมใช้กันมากๆ ก็คือ Trade Show และ Road Show ความแตกต่างของสองคำนี้ จะอยู่ที่ขนาดของงาน กล่าวคือ Trade Show จะเป็นงานที่มีขนาดใหญ่กว่า Road Show ตัวอย่างของ Trade Show เช่น งานมอเตอร์โชว์ หรืองานมอเตอร์เอ็กซ์โป เป็นต้น

ส่วนงาน Road Show จะเป็นงานที่ย่อส่วนจาก Trade Show เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปจัดตามสถานที่ต่างๆ และสินค้าที่นำไปแสดงก็อาจมีบางรุ่น บางประเภท ขึ้นอยู่กับที่ที่เราจะไปว่าสินค้ารุ่นไหนขายดี สินค้ารุ่นใดที่ทางบริษัทต้องการกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความสะดวก หรือความเหมาะสมของสถานที่ที่จะไปอีกด้วย

งานแสดงสินค้าจึงช่วยตอบสนองเป้าหมายทางการตลาด สร้างภาพลักษณ์แก่องค์กร ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้าใหม่ หรือการเปิดโอกาสให้บริษัทได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า รวมทั้งช่วยให้กลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาสสัมผัสกับสินค้าโดยตรง

ผลการวิจัยของ The Center for Exhibition Industry Research พบว่างานแสดงสินค้ามีประสิทธิผลมากกว่าการทำ  Direct Mail หรือการส่งเสริมการตลาดอื่นๆ เนื่องจาก 87% ของผู้เข้าชมงานจะเกิดแรงจูงใจจากสินค้าที่นำมาแสดง และอีก 49% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับงานแสดงมอเตอร์โชว์ในบ้านเราที่มีผู้สนใจจองรถภายในงานเพิ่มขึ้นทุกปี

นอกจากนี้ The Organization for Exhibitors หน่วยงานในสังกัด Center for Exhibition Industry Research ได้กล่าวถึงผลการวิจัยอีกว่า งานแสดงสินค้าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากกว่าการโฆษณา เพราะเอื้อให้เกิดการซื้อขาย และยังได้รับคำแนะนำ รวมทั้งคำสั่งซื้อ หรืออาจได้ลูกค้าใหม่ พันธมิตรใหม่ตลอดระยะเวลาที่จัดงาน

กล่าวได้ว่าข้อดีของงานแสดงสินค้าคือ การเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสกับสินค้า และเจ้าของสินค้า หรือผู้ที่ทำการตลาดเองก็ยังสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของงานแสดงสินค้ายังขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และการอบรมพนักงานขายให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก

ปัจจุบัน งานแสดงสินค้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากภายในงานเป็นที่รวมลูกค้าคุณภาพ และส่วนใหญ่ผู้ที่เข้าชมมักจะเป็นกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อ หรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อ และงานแสดงสินค้าบางงานยังเปิดรอบพิเศษให้นักธุรกิจ ซัพพลายเออร์ได้ติดต่อธุรกิจกัน จึงเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และอาจสานต่อความสัมพันธ์จนกลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจได้ในอนาคต

เครดิตภาพ : อินเทอร์เน็ต

หมายเลขบันทึก: 714383เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2023 22:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน 2023 07:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท