สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาว กมลชนก พิกุล เป็นนักศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 3 มีโอกาสได้ไปที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรีมาทั้งหมด 3 ครั้ง ได้มีการทำการประเมินและให้การบำบัดรักษากับผู้รับบริการแบบรายบุคคล โดยวันนี้หัวข้อของเราก็คือ การออกแบบกิจกรรมบำบัดรายบุคคลให้ไปถึงเป้าหมายการมีงานทำได้โดยพึ่งพิงคนอื่นน้อยที่สุดค่ะ
โดยผู้รับบริการ อายุ 38 ปี ได้มีการทำแบบประเมินภาวะเปราะบางได้ผลออกมา ดังนี้
PFFS-T : 6
ระดับเปราะบาง : ไม่เปราะบาง
High 2+ Scores : ยา
การวินิจฉัยโรค : จิตเวช
กิจกรรมที่จะส่งเสริมให้ผู้รับบริการมีงานทำ คือ กิจกรรมการทำอาหาร เนื่องจากผู้รับบริการมีความสนใจในการทำอาหาร เวลาทำรู้สึกสนุก เป็นกิจกรรมที่ผู้รับบริการให้คุณค่า และเคยทำมาก่อน ทำให้ผู้รับบริการมีความมั่นใจและมีแรงจูงใจในการทำกิจกรรมการทำอาหาร โดยขณะจัดกิจกรรมผู้รับบริการจะคอยตอบคำถาม เสนอความคิดเห็น มีความกล้าในการตอบคำถาม สามารถแก้ไขปัญหา ดัดแปลง พลิกแพลงวิธีการได้ ดังนั้น จึงส่งเสริมให้มีงานทำด้วยกิจกรรมการทำอาหาร เพราะมีความสามารถ รับรู้ความสามารถตนเอง สามารถจัดการและทำตามขั้นตอนได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องมีความช่วยเหลือจากผู้อื่น จึงเป็นกิจกรรมที่จะมีการพึ่งพิงน้อยที่สุด
แต่เนื่องจากผู้รับบริการมีอาการปวดหลัง ปวดเข่า ปวดข้อเท้า มีอาการเหนื่อยง่ายและหายใจเร็ว ทั้งจากตัวโรคและการทานยาจิตเวชเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้ทำกิจกรรมต่างๆได้ลำบาก จึงควรมี home program เพื่อส่งเสริมและคงความสามารถปัจจุบันไว้ได้ เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมการทำอาหารได้อย่างต่อเนื่อง
จึงแนะนำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ : ออกกำลังกายง่ายๆ, ท่าบริหารยืดเหยียดร่างกาย, การสังเกตร่างกายและอาการเมื่อเหนื่อย
นอกจากนี้การที่จะมีงานทำได้ จะต้องมีสิ่งสนับสนุนต่างๆ ตั้งแต่ค่าใช้จ่าย ต้นทุน การหาวัตถุดิบ สถานที่ ฯลฯ ทั้งนี้ได้มีการแจ้งทางสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี ว่าหากมีงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถช่วยส่งเสริมให้ทำกิจกรรมดังกล่าวได้ เพื่อที่จะทำกิจกรรมทำอาหาร ช่วยเหลือ ทำเป็นงานในสถานคุ้มครองก่อน และค่อยๆพัฒนาต่อไปเพื่อออกไปทำเป็นอาชีพภายนอก
6323014 กมลชนก พิกุล
ไม่มีความเห็น