สวัสดีค่ะทุกท่าน พบกันอีกแล้วนะคะ เรื่องที่ดิฉันนำมาแบ่งปันในวันนี้คือบุคคลเปราะบางและการให้กิจกรรมบำบัดกับ บุคคลเปราะบาง เพื่อส่งเสริมให้มีงานทำและพึ่งพาคนอื่นน้อยที่สุดค่ะ
ก่อนอื่นเรามารู้จักบุคคลเปราะบางกันก่อนดีกว่าค่ะ
-ผู้ที่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่น ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระหรือตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
-เป็นกลุ่มคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่าย
-ผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
-เด็กทารก ผู้ที่มีความพิการทางด้านสมอง
-ผู้ป่วยวิกฤต , ผู้ป่วยทางจิตใจ
-หญิงตั้งครรภ์ , ผู้ด้อยโอกาส
-นักโทษ ทหารเกณฑ์ แรงงานต่างด้าว
----------กรณี ศึกษา -----------------------------
ชื่อ คุณดาว นามสมมุติ
เพศหญิง
อายุ 46 ปี
ผลการประเมินจากแบบประเมินภาพภาวะเปราะบาง (PFFS-T) ระดับ 14
ระดับเปราะบางปานกลาง ด้านการปวดและการเดิน
Dx. จิตเวช และ HIV
-Allen cognitive level 5.0
-ผู้รับบริการหลงผิดจากความเป็นจริง Delusionจากการถามซ้ำและถามผู้ดูพบว่ามีความจริง และไม่จริง
-มี Motivation ในการใช้ชีวิต อยากออกไปจากที่นี้ เมื่อvอกไปแล้วจะไปบวช
-มีปัญหาสายตาสั้น
-ผู้รับบริการสามารถทำกิจกรรมวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
-จากการประเมินระดับความเจ็บ พบว่า ระยางค์ล่างตั้งแต่สะโพกลงไป เมื่อต้องเคลื่อนไหว และตอนนอน นอนหงายไม่ได้ ปวดบริเวณข้อสะโพก ระดับ Pain scale 10 / 10 ส่งผลให้ อาการปวดมากยิ่งขึ้นและเสี่ยงต่อการล้ม
- ประเมินการเดิน ผู้รับบริการมีการเดินแบบ Knock Knee หรือแบบเข้าชนกัน ลักษณะของหัวเข่าหมุนเข้าไปในทิศทางด้านในของลำตัว ( Internal rotation )
-ผู้รับบริการมีสีหน้ายิ้มแย้ม มีความสุข สบตาขณะพูดคุย ไม่ล่อกแล่ก ตื่นตัว ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมดี มีความมั่นใจในการแสดงความคิดเห็นของตนเองและสามารถพูดคุยสื่อสารกับผู้อื่นได้ สามารถแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือเพื่อนเมื่อเพื่อนเกิดปัญหาได้
-จากการสัมภาษณ์ตามหลัก MoHo พบว่า ผู้รับบริการความสนใจอยากจะประกอบอาชีพ อาชีพที่สนใจเกี่ยวกับการทำอาหาร เพราะผู้รับบริการเคยทำและเกี่ยวข้องกับประสบการณ์เดิม ผู้รับบริการมีความสนใจและอยากลองทำกิจกรรมทำอาหารที่หลากหลาย ผู้รับบริการอยากออกจากที่นี่ อยากจะเลี้ยงดูตนเองและพ่อแม่ได้ มีความเข้าใจในอาการป่วยของตนเอง แต่ยังไม่รู้แนวทางในการบำบัดฟื้นฟูให้หายหรือดีขึ้น รวมถึงมีความสนใจอยากจะประกอบอาชีพ อาชีพที่สนใจเกี่ยวกับการทำอาหาร เพราะผู้รับบริการเคยทำและเกี่ยวข้องกับประสบการณ์เดิม ผู้รับบริการมีความสนใจและอยากลองทำกิจกรรมทำอาหารที่หลากหลาย
เมื่อได้สรุปข้อมูลทั้งหมด ผู้บำบัดจึงได้วางแผนกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมการมีงานทำโดยพึ่งพาคนอื่นได้อย่างน้อยที่สุด รวมถึงยังช่วยดึงและพัฒนาความสามารถของผู้รับบริการ
1.ยืดเหยียดด้วยเก้าอี้
- วางขาข้างหนึ่งบนเก้าอี้ที่มีเบาะรอง
- พับขาให้เหมือนท่าขัดสมาธิ แล้วจัดท่าให้ต้นขาแนบไปกับเบาะ
- เหยียดขาอีกข้างไปด้านหลัง
- ยืดหลังตรง จากนั้นค่อย ๆ โน้มตัวลงมาข้างหน้า แต่หากใครนั่งหลังตรงไม่ไหว ก็ปล่อยตัวให้เอนพิงเบาะไว้ได้
- โน้มตัวลงมาแล้วใช้ศอกกดขาเอาไว้ พยายามให้ขาทุกส่วนแนบไปกับเบาะ
- ค้างท่าไว้ 10-30 วินาที แล้วสลับทำอีกข้าง
2.ท่าผีเสื้อ
- นั่งหลังตรง ขยับฝ่าเท้ามาชิดกันในท่าขัดสมาธิ
- หายใจเข้า ค่อย ๆ ยืดตัวตรง หายใจออก ค่อย ๆ โน้มตัวลงมาข้างหน้า ค้างท่าไว้ 5 ลมหายใจเข้า-ออก ท่านี้จะรู้สึกตรงบริเวณสะโพกด้านนอก
- จากนั้นทำท่าผีเสื้อ ดึงฝ่าเท้าเข้ามาใกล้ ๆ ลำตัว มือจับปลายเท้าไว้
- หายใจเข้า พร้อมยืดตัวขึ้น
- หายใจออก ค่อย ๆ โน้มตัวลงมาข้างล่าง ท่านี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อขาด้านใน
แนะนำท่าออกกำลังกายเพิ่มเติม
แนะนำการจัดท่าตอนนอน
-นอนตะแคงข้างก่ายหมอน นอนตะแคงข้างที่ถนัด หนุนหมอนที่ศีรษะตามปกติ งอเข่าทั้งสองข้างและวางหมอนหนุนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เข่าที่อยู่ด้านบนแตะที่นอน มิเชิ่นนั้นกระดูกสันหลังส่วนล่างจะพลิก ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดหลังและสะโพกได้
-นอนหงายหนุนเข่า นอนหงายหนุนหมอนที่ศีรษะ ปล่อยตัวตามสบายโดยวางหมอนหนุนอีกใบไว้ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยรักษาความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ท่านี้เหมาะสำหรับผู้มีอาการปวดหลังที่ไม่รุนแรงมากนัก
กิจกรรมที่ดิฉันให้เพื่อช่วยส่งเสริมผู้รับบริการทำอาชีพได้ คือกิจกรรมทำอาหาร ( ยำวุ้นเส้น ) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้รับบริการสนใจและให้คุณค่า รวมถึงเป็นกิจกรรมที่เคยทำมาก่อน ขณะการทำกิจกรรมพบว่าผู้รับบริการให้ความร่วมมือสนใจตลอดการทำกิจกรรม มีความกล้าและอาสาในการเสนอความคิดเห็นหรือตอบคำถามเป็นคนแรกกับผู้บำบัด สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง และช่วยเมื่อเพื่อนมีปัญหาได้ ผู้รับบริการมีความรู้ด้านโภชนาการอาหาร การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สามารถตอบคำถามของผู้บำบัดรวมถึงเพื่อนกลุ่ม แต่มีปัญหาเรื่องการเริ่มต้นบทสนทนา ต้องใช้เวลาในการเนอะ และกล้าในการถามคำถามออกไป ผู้บำบัดจึงคอยช่วยกระตุ้น ชี้นำด้วยคำพูดเกี่ยวกับการเริ่มต้นถามคำถามหลังจากนั้นเมื่อผู้รับบริการสามารถทำได้แล้วจึงค่อยๆลดความช่วยเหลือลง หรือกระตุ้นให้ผู้รับบริการสามารถถามคำถามอื่นๆได้ด้วยตนเอง
กิจกรรมทำสุกี้ม้วน
เหตุผลที่เลือก
-เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจของผู้รับบริการที่อยากทำอาหาร
-อาหารแนวสุขภาพที่กำลังเป็นที่นิยม ขายได้ง่าย
-เป็นกิจกรรมที่มี outcome product สามารถนำไปมอบให้ผู้อื่นในโอกาสต่างๆได้
-ช่วยให้ผ่อนคลายและเกิดความคิดสร้างสรรค์
-เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้รับบริการเห็นคุณค่า ความสามารถในตนเองว่าตนเองสามารถทำงาน ออกมาได้สำเร็จและเป็นที่หน้าพึงพอใจของตนเอง
-ช่วยฟื้นฟูทักษะในด้านต่างๆเช่น attention, fine motor, การทำงานสหสัมพันธ์ , การทำงานตามคำสั่ง , การทำงานตามขั้นตอน รวมถึง ทักษะทางด้านสังคมเมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น
การส่งเสริมกิจกรรมให้กับบุคคลเปราะบาง นอกจากที่เราจะต้องนึกถึงการฟื้นฟูด้านจิตใจแล้วเรายังต้องนึกถึงทักษะทางด้านร่างกาย เพื่อการมองสุขภาพเป็นองค์รวมนำไปสู่สุขภาวะที่ดี รวมถึงการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการให้คุณค่าความสำคัญ ประสบการณ์เดิมจัดส่งผลให้ผู้รับบริการมีแรงจูงใจในการทำอยากทำมากขึ้นค่ะ
ไม่มีความเห็น