Health and wellness in communities

ภายหลังการจัดนิทรรศการ ในรายวิชา PTOT 262 Health Promotion and Prevention across Life Span ซึ่งเป็นรายวิชาที่มีเป้าหมายให้นักศึกษากิจกรรมบำบัด ชั้นปีที่2 ได้ มีส่วนร่วมในการคิด สร้างสรรค์โครงการ เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพในรูปแบบต่างๆ โดยใช้องค์ความรู้ในรายวิชาร่วมกับองค์ความรู้ต่างๆทางด้านกิจกรรมบำบัด แล้วมาจัดนำเสนอในรูปแบบของนิทรรศการ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะกันและกัน ระหว่างเพื่อนในชั้นเรียนและคณะอาจารย์

    เห็นได้ว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำโครงการ HOP ในแง่มุมของการทำงานร่วมกันเป็นทีม

• ได้ทำงานและปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ ได้เห็นมุมมองและความคิดเห็นที่หลากหลาย
• ได้ค้นคว้า และศึกษาข้อมูลใหม่ๆ รวมไปถึงการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลร่วมกับคนอื่นๆ
• ได้นำความรู้เกี่ยวกับ PEO Model มาปรับใช้กับบทเรียน ในการพิจารณาปัญหาที่รอบด้านทั้งตัว Person, Environment, Occupation 
• ได้ฝึกบริหารเวลาและการดำเนินโครงการอย่างเป็นระบบตามขั้นตอนใหญ่ 3 ขั้นตอน คือ การวางแผนโครงการ การดำเดินการ และการประเมินผลโครงการ
• ได้ฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 
• ได้ฝึกทักษะการนำเสนอและตอบคำถาม ร่วมกับเพื่อนในทีมและคณะอาจารย์

พัฒนาต่อยอดโครงการสู่ชุมชนอย่างไร?

           เท้าความไปที่ตัวโครงการของเราที่มุ่งเป้าหมายไปที่การนำเสนอทางเลือก Homeschool รูปแบบต่างๆแก่ผู้ปกครองของเด็ก CP (ภาวะสมองพิการ) ชนิดพิการไม่รุนแรง ในช่วงปฐมวัย ซึ่งรูปแบบการเรียนนั้นจะต้องสามารถตอบโจทย์กับความต้องการ ความสามารถ ศักยภาพ และพัฒนาการของตัวเด็กมากที่สุด เพื่อสร้างโอกาสในการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก CP และเพื่อนำไปสู่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ตัวเด็กและผู้ปกครอง ทั้งในเรื่องของกิจกรรมการดำเนินชีวิต,การศึกษา, การเล่น, งานอดิเรก และอื่นๆ รวมไปถึงการค้นพบตนเองที่จะนำไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคต แทนการผลักดันให้เด็กพิการเข้าเรียนที่โรงเรียนตามระบบปกติ ที่นอกจากจะมีปัญหาหรือการตัดขาดโอกาสแล้ว ยังมีข้อเสียอีกมากมาย เช่น การล้อเลียน หรือถูกกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจของเด็กและผู้ปกครอง โดยเราจะมีนำเผยแพร่ความรู้ผ่าน สื่อในการนำเสนอความรู้ นั่นคือ “โบชัวร์ และอินโฟกราฟฟิก”

            และจากโครงการที่ได้ทำขึ้นนี้ จากตัวดิฉันผู้จัดทำโครงการคิดว่าสามารถพัฒนาต่อยอดสู่ชุมชนได้ โดยการสร้าง “เครือข่าย”

เครือข่ายในที่นี้ แบ่งย่อยออกเป็น 2 เครือข่าย

1. เครือข่ายนักกิจกรรมอาสา โดยเราจะประชาสัมพันธ์โครงการนี้ผ่านช่องทางต่างๆ ที่จะสามารถรวบรวมนักกิจกรรมบำบัด ผู้ซึ่งสนใจจะมาร่วมโครงการนี้กับเรา ทำหน้าที่คอยช่วยประเมินศักยภาพ พัฒนาการ และความสามรถของเด็ก รวมไปถึงการวางแผน การดำเนินการต่างๆ ประกอบกับเสนอรูปแบบ Home school แบบต่างๆ เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีทางเลือกในรูปแบบการศึกษาของลูกที่เป็นเด็กสมองพิการ โดยนักกิจกรรมบำบัดจะเป็นผู้ที่คอยอยู่ข้างๆผู้ปกครองเป็นทั้งเพื่อนร่วมทางที่ดี เป็นผู้รับฟัง ที่ปรึกษา คอยช่วยเหลือและเลือกรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กมากที่สุด ทุกขั้นตอนนักกิจกรรมบำบัดเหล่านี้จะร่วมมือไปด้วยกันกับผู้ปกครอง เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเด็กและผู้ปกครองต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้แล้ว เมื่อเรามีเครือข่ายนักกิจกรรมบำบัดที่พร้อม เราสามารถนำโครงการนี้ไปเผยแพร่ หรือ  มอบความรู้แก่คนในชุมชนบริเวณใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย โดยเราจะสำรวจว่าครอบครัวไหน มีเด็กสมองพิการ และสนใจในรูปแบบของการเรียน Homeschool อยู่บ้าง หลังจากนั้นเราก็นำความรู้เหล่านี้ไปเผยแพร่พร้อมกับนำนักกิจกรรมบำบัดอาสาที่จะคอยประเมิน ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ วางแผนการเรียนรู้ต่างๆที่เหมาะสมกับเด็ก CP และในการจัดอบรมมอบความรู้แก่ผู้ปกครองนั้นจะใช้ลานอเนกประสงค์ของชุมชน เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ของชุมชนโดยผู้ปกครองหรือคนในชุมชนที่สนใจก็จะสามารถเข้ามาเรียนรู้และร่วมกิจกรรมได้

1. เครือข่ายผู้ปกครอง เพื่อให้มีช่องทางการในการแลกเปลี่ยน สื่อสาร ปรึกษา ให้ความรู้ แก่ผู้ปกครองด้วยกัน อาจจะมีการจัดกิจกรรมให้ทุกคนมาเจอกัน บอกเล่าประสบการณ์ การดำเนินการ การแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับ Homeschool  

จะเห็นได้ว่าในอนาคต โครงการ HOP ของเรานั้น จะมุ้งเน้นไปที่ การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองหรือผู้ที่สนใจใน Homeschool ผ่านเครือข่ายต่างๆ ที่เราจะสร้างขึ้นมา เพื่อสร้างความหวัง ความมั่นใจ ความเชื่อมั่น ให้ผู้ปกครองเด็กสมองพิการ ว่าเราจะคอยอยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือ เป็นเพื่อนร่วมทางไปจนถึงวันนั้น วันที่ผลลัพธ์ออกมาอย่างดี และถ้าหากไม่เป็นดังหวัง ก็ไม่เป็นไร ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้ เราทุกคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณ และเคียงข้างกันเสมอ

ชัญญานุช ขุนนุ้ย