GotoKnow

ชีวิตที่พอเพียง  4312. ทำงานเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา   ๑๖๓. พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาคืออะไร

Prof. Vicharn Panich
เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2565 17:31 น. ()

 

คืนวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๕ ผมเข้านอนพร้อมกับสาระจากการประชุมคณะอนุกรรมการด้านนโยบาย ยุทธศาสตร์ ติดตามและประเมินผล ในคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ครั้งที่ ๔/๒๕๖๕ เมื่อค่ำวันนั้น

คุณูปการของโควิด ช่วยให้เกิด new normal ของการประชุม    คือการประชุม ออนไลน์  any time, anywhere    การประชุมเลิกทุ่มครึ่ง   สามทุ่มผมเข้านอนพร้อมกับข้อมูลพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มอบให้สมองย่อยเองยามหลับ   

ตีสี่วันรุ่งขึ้น สมองก็ย่อย (reflect – ใคร่ครวญสะท้อนคิด) เสร็จ    ออกมาเป็นบันทึกนี้

สมองของผมใช้ Kolb’s Experiential Learning Cycle กลั่นหลักการออกมา ๒ หลักการของการบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา   โดยผมไม่ต้องคิดเองเลย    ๒ หลักการที่ได้มาฟรีๆ นี้ ได้แก่ 

  1. การบริหารแบบกระจายอำนาจ (decentralization) หรือเอื้ออำนาจ (empowerment)   นี่คือรูปแบบที่ต่างจากการบริหารของระบบการศึกษาส่วนกลาง    ข้อเตือนใจคือ การบริหารการศึกษาในจังหวัดนวัตกรรมการศึกษาต้องไม่ถอดแบบเอามาจากส่วนกลาง   เพียงแต่ย้ายฐานบังคับบัญชามาไว้ที่จังหวัด    หากทำเช่นนั้น จะไม่สามารถบรรลุการมีคุณภาพการศึกษาที่ต้องการได้   เพราะโรงเรียนและครูจะไม่เป็นตัวของตัวเอง   ไม่กล้าใช้ความริเริ่มสร้างสรรค์ของตัวเอง    ไม่กล้าคิดและทำแตกต่างจากคำสั่งจากส่วนกลาง   

พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้  ต้องมีวิธีบริหารการศึกษาในพื้นที่แบบเอื้ออำนาจให้โรงเรียนเป็นตัวของตัวเอง   ให้โรงเรียนมีความรับผิดรับชอบต่อพื้นที่ที่ตนตั้งอยู่    และร่วมมือกับกลไกต่างๆ ในพื้นที่ที่ตนตั้งอยู่เพื่อร่วมกันจัด ระบบนิเวศการเรียนรู้ ให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่   ไม่ใช่รับผิดรับชอบต่อผู้บริหารหรือกลไกการบริหารส่วนกลางของจังหวัด

การมีความรับผิดรับชอบ (accountability) เป็นหัวใจสำคัญของโรงเรียน    กลไกการบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาต้องดำเนินการให้มีกลไกความรับผิดรับชอบนี้    มีการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติของภาคีในพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจว่า ความรับผิดรับชอบของโรงเรียนต่อพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ หมายความว่าอย่างไร   

โดยผมมีความเห็นว่า  กลไกการบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ต้องเป็นกลไกที่ช่วยหนุนโรงเรียน ไม่ใช่สร้างความหนักใจให้โรงเรียนและครู   ผมมองว่ากลไกความรับผิดรับชอบต้องเป็นเนื้อเดียวกันกับกลไกความร่วมมือ    ภายใต้แนวคิดหรือความเชื่อว่า โรงเรียนทำงานด้วยตนเองแบบโดดๆ หรือโดดเดี่ยวไม่ได้    ต้องมีเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่ (และนอกพื้นที่ รวมทั้งที่ส่วนกลางของประเทศ)    ร่วมกันสร้างสรรค์ “พื้นที่” หรือ “ระบบนิเวศ” การเรียนรู้ ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่นั้น    ที่เป็นการเรียนแบบ เรียนรู้เชิงรุก (active learning)    โดยเป็นพื้นที่ที่มี “โค้ช” ให้แก่เด็ก ที่ไม่ใช่ครูเท่านั้นที่ทำหน้าที่โค้ช   ยังมีพ่อแม่ผู้ปกครอง และพลเมืองดีอีกจำนวนมาก ที่ร่วมกันทำหน้าที่ โค้ช แก่เด็ก    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโค้ช การเรียนรู้และพัฒนา V  ใน V-A-S-K  

 แต่ละโรงเรียน ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่เหมือนกัน     แต่ละโรงเรียนจึงต้องกำหนด school goal / school concept ของตนเอง    แล้วทำไปเรียนรู้ไป ปรับปรุงไป    ซึ่งจะเข้าสู่หลักการที่สอง ที่สมองของผมกลั่นมาให้                  

  1. การบริหารวงจรการเรียนรู้และพัฒนาต่อเนื่องไม่สิ้นสุด    กลไกบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ต้องบริหารวงจรการเรียนรู้ของตนเอง   และหนุนให้โรงเรียนมีวงจรการเรียนรู้ของโรงเรียนเองด้วย   รวมทั้งหนุนให้มีวงจรเรียนรู้ข้ามโรงเรียน    วงจรเรียนรู้นี้หมุนผ่านการปฏิบัติหรือการทำงานประจำนั้นเอง     โดยที่ต้องพัฒนา “ชาลาการปฏิบัติงาน” (working / operating platform) ให้เป็นไปตาม Kolb’s Experiential Learning Cycle    

หลักการสำคัญคือ กิจกรรมการเรียนรู้ และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน เป็น complex-adaptive process  มีความซับซ้อนและเลื่อนไหล   มีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมายไม่มีใครรู้ทั้งหมด   การทำงานของโรงเรียนและของครูจึงไม่ใช่การทำงานแบบมี blueprint  หรือ roadmap ตายตัว     ไม่ใช่การทำงานแบบเส้นตรง    ที่มีจุดเริ่มต้น กับจุดสิ้นสุดหรือเป้าหมาย     แล้วเดินทางจากจุดเริ่มต้นสู่ป้าหมายตามสูตรสำเร็จ    แต่ในความเป็นจริง ครูและโรงเรียนต้องทำงานเป็นวงจร ที่มีการเรียนรู้และปรับตัวเป็นวงจรอยู่ตลอดเวลา     ไม่มีวันจบสิ้น   

ระบบบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จึงต้องทำงานหนุนวงจรการเรียนรู้หลายระดับ หลายวงที่หนุนเสริมกัน ตามที่กล่าวตอนต้นข้อ ๒   และที่สำคัญ สบน. ซึ่งเป็นกลไกกลางของประเทศ ก็ต้องมีวงจรการเรียนรู้ของตนเอง   และมีวิธีหนุนวงจรการเรียนรู้ร่วมกันของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาทั่วทั้งประเทศ       

วิจารณ์ พานิช

๑๘ ส.ค. ๖๕

 

 

 

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย