การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการเรียนรู้จากการปฏิบัติ หรือจากประสบการณ์ตรงของตนเอง เป็นการเรียนรู้ที่ลึกและเชื่อมโยง ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะด้านต่างๆ อย่างครบถ้วน คือครบองค์ประกอบ VASK (V = values - ค่านิยม, A = attitude - เจตคติ, S = skills -ทักษะ, K = knowledge -ความรู้) ไม่ใช่แค่เรียนวิชาความรู้ และบางทักษะทางเทคนิคเท่านั้น
การเรียนรู้ที่ถูกต้องจึงเน้นการฝึกปฏิบัติ โดยครูทำหน้าที่โค้ช หรือ facilitator ของการฝึกนั้น
แต่ฝึกเท่านั้นไม่พอ ต้องคิดไปพร้อมๆ กันด้วย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ครบด้านของ VASK การคิดแบบนี้เรียกว่า “ใคร่ครวญสะท้อนคิด” (reflection - โยนิโสมนสิการ) จากการปฏิบัติ ครูทำหน้าที่ชวนนักเรียนใคร่ครวญสะท้อนคิด โดยตั้งคำถาม คำถามที่ดี มีความเหมาะสม จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ในมิติที่ลึกและเชื่อมโยงครบด้านของ VASK ครูจึงต้องเรียนรู้วิธีตั้งคำถามกระตุ้นการเรียนรู้ของศิษย์ เป็นคำถามที่เหมาะสมต่อศิษย์แต่ละกลุ่ม การเรียนรู้เรื่องนี้ของครูควรอยู่ในเป้าหมายของกระบวนการ PLC – Professional Learning Community ของครู เป็นการเรียนรู้ที่เป็นวงจรยกระดับสมรรถนะครูต่อเนื่อง ไม่มีสิ้นสุด
โรงเรียนจึงเป็นระบบนิเวศการเรียนรู้จากการปฏิบัติอย่างน้อยสองชั้น คือการเรียนรู้ของนักเรียน และการเรียนรู้ของครู โดยนักเรียนร่วมกันหมุนวงจรการเรียนรู้ของตน มีครูเป็นโค้ช และครูก็ร่วมกันหมุนวงจรการเรียนรู้ของตน โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน (ครูใหญ่) เป็นโค้ช
ขอย้ำว่า ทั้งสองวงจร (คือวงจรของนักเรียนและวงจรของครู) ต้องมีเป้าหมายเรียนรู้ฝึกฝนสมรรถนะครบองค์สี่ของ VASK โดยในปัจจุบันองค์ประกอบที่ถูกละเลยมากที่สุดคือ V – values - ค่านิยม สำหรับครู วงจรเรียนรู้นี้ควรได้ช่วยยกระดับค่านิยมในการเป็นครู ช่วยยกระดับศักดิ์ศรีในการเป็นครู และสำหรับนักเรียน วงจรเรียนรู้นี้ควรได้ยกระดับค่านิยมด้านความเป็นคนดี
วงจรเรียนรู้จากการปฏิบัติ หรือจากประสบการณ์ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า experiential learning เป็นการเรียนรู้ที่เริ่มจากการลงมือทำ ตามด้วยการสะท้อนคิด (reflection) จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า reflective learning
เพื่อให้การเรียนรู้จากการปฏิบัตินำสู่การเรียนรู้ที่มีพลังแท้จริง ขอแนะนำ Kolb’s Experiential Learning
วงจรนี้เริ่มจากประสบการณ์ตรงของตนเอง (concrete experience) ตามด้วยการสังเกตและคิดไปพร้อมกัน (reflective observation) โดยที่การคิดนั้นไม่ใช่คิดแบบธรรมดา แต่เป็นการใคร่ครวญสะท้อนคิด (reflection) ที่มีองค์ประกอบสำคัญคือการตั้งคำถาม จะเรียนรู้ได้ตื้น-ลึก แคบ-กว้าง ขึ้นกับคำถามที่ผุดขึ้นหรือมีครูช่วยถาม หากตั้งคำถามไปที่เทคนิคหรือวิธีการ ก็ได้เรียนรู้เชิงเทคนิค ซึ่งมีประโยชน์มาก แต่จะไม่เป็นการเรียนรู้ที่มีคุณภาพสูง
จะให้เกิดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพสูง คำถามเพื่อการใคร่ครวญสะท้อนคิดต้องมีหลายมิติ หลายระดับ เป็นคำถามปลายเปิดที่ไม่เน้นคำตอบถูกผิด แต่เน้นคำถามที่กระตุ้นการคิดใคร่ครวญ ที่สำคัญยิ่งคือ เป็นคำถามที่นำสู่การคิดตกผลึกเป็นข้อเรียนรู้เชิงหลักการ หรือเชิงทฤษฎี (conceptualization) ที่ในวงจร Kolb’s Cycle เรียกว่า abstract conceptualization
การเรียนรู้จากการปฏิบัติจึงต้องไปให้ถึงการฝึกตั้งทฤษฎีหรือหลักการด้วยตนเอง จากการใคร่ครวญสะท้อนคิดข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติของตนเอง นักเรียนต้องได้รับการฝึกให้กล้าคิดหลักการหรือทฤษฎีจากการปฏิบัติของตน โดยไม่กังวลว่าจะเป็นหลักการที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามตำรา เป็นการสะท้อนคิดที่ยึดหลักฐานจากการปฏิบัติ
นักเรียนต้องได้รับการฝึกให้ตระหนักว่า การตกผลึกทฤษฎีหรือหลักการของตนอาจถูกต้องก็ได้ หรืออาจผิดก็ได้ คือเชื่อในทฤษฎีที่ตนสร้างขึ้นแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ต้องมีการพิสูจน์ต่อไป ในขั้นตอนที่ ๔ ของ Kolb’s Cycle คือ Active Experimentation ซึ่งหมายถึงการนำเอาทฤษฎีนั้นไปทดลองใช้ ในกิจการเดิมวงรอบต่อไป เพื่อดูผลว่า ช่วยให้ได้รับผลดีกว่าเดิมหรือไม่ หากผลดีกว่าเดิม ข้อสรุปเชิงหลักการนั้นก็น่าจะถูกต้อง
อาจนำเอาหลักการหรือทฤษฎีนั้น ไปลองใช้ในสถานการณ์ใหม่ หรือกิจกรรมใหม่ หากได้ผลดี ก็เป็นหลักฐานว่าหลักการนั้น น่าจะถูกต้อง
นักเรียน (ครู และคนเราทุกคน) ต้องฝึกหมุนวงจรการเรียนรู้ สู่สมรรถนะในการตกผลึกหลักการหรือทฤษฎีจากการปฏิบัติ ตามแนวทางของ Kolb’s Experiential Learning Cycle เพื่อการเรียนรู้ในระดับลึกและเชื่อมโยง ต้องไม่หยุดอยู่แค่ใคร่ครวญสะท้อนคิดเพื่อเรียนรู้เชิงเทคนิคเท่านั้น
ในเชิงลึก ครูในแต่ละโรงเรียน ควรร่วมกันตั้งคำถามว่า ครูจะช่วยตั้งคำถามให้นักเรียนได้ตกผลึกหลักการในมิติของ V, A, S, K อย่างไร แล้วลองนำไปใช้ และนำผลที่เกิดขึ้นมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวง PLC ของครู ก็จะเท่ากับวง PLC นี้ เป็นวงหมุน Kolb’s Cycle เพื่อครูทำหน้าที่ facilitator ให้ศิษย์พัฒนาสมรรถนะครบด้าน
ในมุมของนักเรียน นี่คือการเรียนรู้สามชั้น ชั้นแรก เรียนรู้เพื่อยกระดับ VASK ของคน ชั้นที่สอง เพื่อฝึกทักษะการใคร่ครวญสะท้อนคิด ที่เป็นทักษะสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต และชั้นที่สาม เพื่อฝึกสมรรถนะการตกผลึกหลักการหรือทฤษฎีจากประสบการณ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้เป็นคนที่มีความลึกซึ้ง ไม่ตื้นเขิน
วิจารณ์ พานิช
๑๖ มิ.ย. ๖๕
ไม่มีความเห็น