“หลวงรามภรตศาสตร์”
“หลวงรามภรตศาสตร์” พระเอกหนังคนแรกของสยามประเทศ
**"พระเอกหนังคนแรกของสยามประเทศ "หลวงรามภรตศาสตร์" ขอคืนทรัพย์สินศักดินาทั้งหมดหลัง ร.6 สวรรคต"
* แม้จะถูกบันทึกว่าเป็น "พระเอกภาพยนต์คนแรก" ของประเทศไทย แต่คงจะมีน้อยคนที่รับรู้ว่า "ขุนรามภรตศาตร์" หรือ "หลวงรามภรตศาสตร์" นักแสดงนำจากหนังเรื่อง "นางสาวสุวรรณ" เป็นใครมาจากไหน?
* ที่สำคัญคงจะมีน้อยคนที่รับรู้ว่าทายาทรุ่นเหลนของเจ้าตัวนั้นปัจจุบันก็เป็นนักแสดงอยู่ในแวดวงการบันเทิงด้วยเช่นกัน...
*"คุณทวดของไอซ์คือ หลวงรามภรตศาสตร์ เป็นมหาดเล็กหลวง ข้าราชการในสังกัดกรมโขนหลวงและได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และราชทินนามมาจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ชื่อเดิมคือ ยม มงคลนัฏครับ"
*"พิชพงศ์ โสมกุล" หรือ ไอซ์ นักแสดงหนุ่มจากช่อง 3 ที่เคยฝากฝีมือการแสดงมาแล้วผ่านผลงานละคร อาทิ เรือนนารีสีชมพู, หวานใจกับนายจอมหยิ่ง, ก้นครัวตัวแสบ, นางสาวทองสร้อย ฯ บอกกล่าวถึงเรื่องราวของผู้เป็นทวดที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณย่า "อุไรวรรณ (มงคลนัฏ)โสมกุล"
*"คุณย่าของผมเป็นลูกสาวคนโตของท่านและใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับคุณทวดมาตลอด เวลามีเวลาว่างผมจะเข้าไปพูดคุยกับคุณย่าเสมอ และคุณย่าก็จะเล่าเรื่องคุณทวดให้ผมฟังตลอด เมื่อได้ฟังผมก็มองว่าเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ไทยและคุณทวดก็เป็นบุคคลสำคัญที่คนรุ่นหลังน่าจะเก็บไว้"
*"ฉะนั้นในฐานะลูกหลานที่รับสารตกทอดมา ก็อยากจะนำเรื่องราวที่เป็นความทรงจำดีๆ ของคนไทยมาเล่าสู่กันฟัง ไม่อยากให้เลือนหายไปตามกาลเวลา เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยในอดีต และเป็นสิ่งที่ควรแก่การอนุรักษ์ไว้"
*"นางสาวสุวรรณ" ได้ชื่อว่าเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกของประเทศไทย โดยทีมสร้างจากฮอลลีวูดนำโดย "นายเฮนรี เอ. แมคเร" ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่ง "หลวงรามภรตศาสตร์" รับบทเป็นนาย "กล้าหาญ" คู่กับนางเอก "เสงี่ยม นาวีเสถียร"
*"ตอนนั้นคุณทวดเป็นข้าราชการมหาดเล็กรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท สังกัดกรมมหรสพหลวง ซึ่งนอกจากเป็นมหาดเล็กรับในรัชกาลที่ 6 แล้ว ท่านยังเป็นโขนหลวง สังกัดกรมศิลปากร และเป็นครูโขนสอนตัวยักษ์ และแสดงเป็นพระรามด้วย"
*"พอทางทีมงานสร้างหนังเดินทางมาจากต่างประเทศทรงโปรดเกล้าให้เลือกตัวแสดงท่านก็ได้รับเลือกให้แสดง รับบทเป็น นายกล้าหาญ พระเอกในเรื่อง ดังนั้นคุณทวดจึงถือเป็นคนไทยคนแรกที่เป็นพระเอกภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ไทยครับ"
* ย้อนไปเมื่อกว่าร้อยปีก่อนด้วยความที่บ้านเราไม่ค่อยจะมีความบันเทิงอะไรมากนัก ภาพยนตร์เรื่องนางสาวสุวรรณจึงสร้างความตื่นเต้นให้ประชาชนชาวสยามอย่างมาก
* "ทราบมาว่าคนไทยทั้งประเทศตื่นเต้นกับการฉาพภาพยนตร์อย่างมาก และมีการทำของชำร่วย และผลิตน้ำหอมของเรื่องนางสาวสุวรรณจำหน่ายเป็นของที่ระลึกด้วย แต่น่าเสียดายที่ฟิลม์ต้นฉบับสูญหาย ข้อมูลต่างๆ จึงเหลือเพียงเล็กน้อย"
* "ข้อมูลจากหอภาพยนตร์แห่งชาติทำให้ทราบว่าหนึ่งในผู้ที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ส่วนท่านอื่นๆ ที่ได้ดูก็นำมาเขียนในคอลัมน์ถึงเรื่องนางสาวสุวรรณ แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดถึงตัวพระเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้มากนัก"
**"ฉากรักของขุนรามภรตศาสตร์ กับเสงี่ยม นาวีเสถียร ถ่ายทำในบริเวณวัดพระแก้ว"
* นักแสดงหนุ่มยังบอกต่อไปด้วยว่าทวดของตนเองมีความจงรักภักดีต่อองค์ในหลวงรัชกาลที่ 6 เป็นอย่างมากถึงขนาดที่ว่าเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จสวรรคตทวดของตนก็ออกจากราชการพร้อมคืนศักดินาทั้งหมดทันที
"ตลอดระยะเวลาที่รับราชการอยู่ คุณทวดมักจะได้รับของพระราชทานเสมอ โดยเฉพาะจี้ทองคำล้อมเพชร พระราชทาน ซึ่งเป็นพระปรมาภิทัยย่อ วปร.(มหาวชิราวุธ ปรมราชาธิราช)คุณย่าเล่าว่าท่านพระราชทานคล้องคอให้ด้วยพระองค์เอง และจะเลื่อนชั้นยศเป็นคุณพระ"
* "แต่ล้นเกล้ารัชกาลที่6 เสด็จสิ้นสวรรคตเสียก่อน สุพรรณบัฏจึงยังไม่ได้ออกอย่างเป็นทางการ จึงได้ดำรงตำแหน่งสุดท้ายแค่ชั้นยศคุณหลวง ซึ่งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณทำให้คุณทวดรู้สึกจงรักภักดีต่อล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 6 เป็นอย่างมาก"
* "ถึงขนาดที่ว่าเมื่อครั้นล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต คุณทวดก็ออกจากราชการทันที พร้อมคืนศักดินาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือที่ดินแปลงใดๆ ท่านออกมาจากวังโดยไม่ขอรับอะไร ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แล้วท่านก็พูดว่าในชีวิตนี้จะไม่รำละครให้ใครดูอีกแล้ว"
* "ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไม่ค่อยมีประวัติของคุณทวดปรากฏมากเท่าไหร่นัก เพราะท่านหยุดทุกอย่าง แม้กระทั่งภาพถ่ายในหนังเรื่องนางสาวสุวรรณที่ผมไปหาจากหอภาพยนตร์ยังมีไม่ถึง 10 รูปเลย รวมถึงฟิล์มภาพยนตร์ทั้ง 2 ม้วนก็ได้สูญหายไปหมดแล้ว"
ไอซ์ พิชพงศ์ โสมกุล
* เรื่องราวของคุณทวดเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยากเข้าวงการด้วยหรือเปล่า?
"จริงๆ คุณทวดมีลูกชายคนเล็กท่านคนหนึ่งคือ ภูษิต อภินันท์ ท่านเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ท่านก็เป็นพระเอกละครเก่า เราก็เหมือนสืบเชื่อสายในความบังเอิญ ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าต้องมาเป็นนักแสดง ผมเองเริ่มเข้าวงการมาจากการถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ ตั้งแต่มัธยมปลาย"
* "พอมาวันหนึ่งที่ได้เรียนมหาลัยก็มาเจอกับป้าแจ๋ว แกเป็นคนพามาเล่นละครเรื่องแรก เรือนนารีสีชมพู ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะมาสายนักแสดง อาจไม่ใช่อาชีพหลัก แต่เป็นสายที่เรารักมาตลอด ถามว่าประสบความสำเร็จมั้ย คงไม่หรอก แค่รู้สึกว่าทำในสิ่งที่เรารัก แล้วเราก็เต็มที่กับมัน"
*"อย่างตอนเล่นละครเรื่องแรก ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีละครเรื่องที่สอง สาม สี่ จนตอนนี้ผ่านมา 10 ปี ก็มีประมาณ 10 เรื่องแล้ว ถามว่าประสบความสำเร็จมั้ยคงไม่ เพราะถ้าสำเร็จคงดังแบบคนอื่นๆ ไปแล้ว สิ่งที่ประสบความสำเร็จสำหรับพี่มันอยู่ที่ใจ ที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก ก็ถือว่าเรามีสิ่งที่ต้นตระกูลได้ทำเอาไว้"
* นอกจากธุรกิจที่ทำกับ "มาร์กี้" (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) ตอนนี้มีงานอื่นอีกมั้ย?
*"ตอนนี้มีละครที่ถ่ายทำเสร็จแล้วรอออนแอร์ ซิงเกิ้ลมัม คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง ทางช่อง 3 น่าจะออนแอร์ภายในปีนี้ ก็มีรับเชิญละครอีกเรื่อง บุญหล่นทับ อันนั้นถ่ายทำเสร็จแล้ว แล้วก็เป็นอาจารณ์พิเศษที่ ม. กรุงเทพ สอนวิทยุ-โทรทัศน์ครับ..."