วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมการขับเคลื่อนระบบ อววน. ประชุมกันเรื่อง NQI – National Quality Infrastructure ที่ช่วยให้ผมได้เรียนรู้มาก ว่ากับดักรายได้ปานกลางของประเทศไทยมีความซับซ้อนยิ่ง และระบบ NQI เป็นหนึ่งในกับดักเหล่านั้น เป็นกับดักที่เราพอใจอยู่กับมัน ไม่คิดจัดการให้สำเร็จ
เรื่องที่นำเข้ามาหารือเป็นเรื่องของกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ที่เป็นกรมเก่าแก่ ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองมามากมายและยาวนาน แต่บัดนี้ต้องปรับตัวอย่างแรง รองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ที่จริงเรื่องมันเริ่มมาตั้ง ๒๐ ปีมาแล้ว ในปี ๒๕๔๕ สมัยที่ วศ. สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีมติ ครม. ให้ดำเนินการเปลี่ยนฐานะไปเป็นองค์การมหาชน แล้วเรื่องก็ค้างเติ่งเรื่อยมา จนในช่วงยกร่าง พรบ. กระทรวง อว. ปี ๒๕๖๑ ที่ควบรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กับการอุดมศึกษาเข้าด้วยกัน ก็มีมติทำนองเดียวกันอีก ว่าให้ดำเนินการเปลี่ยน วศ. ไปเป็นองค์การมหาชนภายใน ๓ ปี บัดนี้เลย ๓ ปีแล้ว มีการนำเรื่องมาผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ เพื่อนำเข้า ครม. ขอขยายเวลา ๓ ปีออกไป
วศ. ทำหน้าที่ให้บริการการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ แก่บางจุดของระบบ NQI ที่ประกอบด้วย
ปัญหาอยู่ที่ระบบ NQI เป็นระบบที่ซับซ้อนยิ่ง และเชื่อมโยงกับระบบมาตรฐานโลกด้วย เป็นที่รู้กันว่า ระบบแบบนี้ของราชการไทยจะมีหน่วยงานเกี่ยวข้องมากมาย มีกฎหมายรองรับที่ต่างกัน ขาดกลไกประสานงานภายในระบบ การทำงานอยู่ในสภาพต่างหน่วยต่างทำ เป็นระบบที่ล้าหลังขาดทั้งประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
ปัญหาที่นำเข้าสู่คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ในวันนี้จึงมี ๒ ประเด็นซ้อนกัน คือเรื่องการสังคายนาระบบ NQI กับการเปลี่ยนฐานะ วศ. ไปเป็นองค์การมหาชน ที่ต้องการความรู้ความเข้าใจทั้งด้าน NQI, เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง, เรื่องการปฏิรูประบบราชการ และที่สำคัญที่สุด เรื่องการเมืองภายในระบบเหล่านั้น ที่ผมเป็นเณรน้อยในทุกเรื่อง จึงร่วมประชุมแบบฟังรู้เรื่องบ้างนิดหน่อย ไม่รู้เรื่องเป็นส่วนใหญ่
ที่พอจะเข้าใจคือ ระบบ ววน. ของประเทศยังต้องการการสะสางสังคายนาอีกมาก ต้องการการวิจัยเชิงระบบเป็นอย่างยิ่ง กำลังและสมรรถนะที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ
ผมเขียนเรื่องระบบ NQI ของประเทศไว้เมื่อสองปีครึ่งมาแล้ว ที่ https://www.gotoknow.org/posts/675558
วิจารณ์ พานิช
๙ ก.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น