ที่จริงเป็นการเดินในสถานที่คุ้นเคย และเคยเล่าไว้หลายครั้ง คือออกจากซอยโรงแรมแคนทารีฮิลล์ส ไปเดินบนถนนนิมมานยามเช้าตรู่ยังแทบไม่มีรถ เลี้ยวเข้าซอยนิมมานเหมินท์ ๖ วกออกมาแล้วเข้าไปเดินในสวนสุขภาพ และลานหน้าหอประชุม มช. รวมเป็นเวลา ๕๐ นาที เหมือนเดินที่บ้านปากเกร็ด
แต่คราวนี้เป็นการเดินเว้นช่วงจากคราวที่แล้วน่าจะกว่า ๓ ปี และเป็นช่วงโควิดระบาด คนเดินถนนยังสวมหน้ากากอนามัยกันอยู่ ผมจึงถือโอกาสสังเกตความเปลี่ยนแปลงของอาคารร้านค้า พบว่ามีทั้งที่ยังเหมือนเดิมและที่เปลี่ยนแปลงไป เห็นได้ชัดว่า อาคารชั้นเดียวโดนแทนที่ด้วยอาคารขนาดใหญ่หลายชั้นในหลายที่
ที่เตะตาคือป้ายร้านจะมี ๓ ภาษาคือ ไทย อังกฤษ และจีน ในหลายที่ตัวอักษรจีนใหญ่กว่าอีกสองภาษา สะท้อนความคึกคักของนักท่องเที่ยวจีนยุคก่อนโควิด ที่ตอนนี้ไม่มีเลย เพราะประเทศจีนใช้นโยบาย zero Covid ปิดเมืองปิดประเทศจนกว่าโควิดจะเหลือศูนย์ ที่พูดกันว่าก่อผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างร้ายแรง และไม่สมเหตุสมผล
สวนสุขภาพของ มช. แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง ผมเดินในสวนสุขภาพแล้วออกไปเดินที่ล้านกว้างหน้าศูนย์ประชุม มช. ได้บรรยากาศเก่าๆ ที่เคยมาเดินแทบทุกเดือนเมื่อหลายปีก่อน ที่ต่อไปนี้ไม่มีวันกลับ เพราะข้อจำกัดดด้านความเจ็บป่วยของภรรยา
เป็นการเดินออกกำลังไปพร้อมๆ กับการปลงอนิจจัง ว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
วิจารณ์ พานิช
๑๙ มิ.ย. ๖๕
ห้อง ๑๔๑๒ โรงแรมแคนทารีฮิลล์ส เชียงใหม่
ไม่มีความเห็น