๙๗๗. Comfort Zone

Comfort Zone คือ พื้นที่ปลอดภัย เป็นสภาวะชีวิตอยู่ในช่วงที่ทุกอย่างลงตัว หากเปรียบเป็นเรื่องงาน ก็อาจเปรียบได้ว่า ชีวิตการทำงาน ตำแหน่งที่ทำ สังคมการทำงานทุกอย่างดีไปหมด ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ๆ ไม่มีเรื่องให้ตัวเราต้องปวดหัว หรือเครียดอะไรมากนัก

หากชีวิตดีขนาดนี้แล้ว…ทำไมเราถึงต้องหาวิธีที่จะต้องออกจากพื้นที่ปลอดภัยนี้…ก็เพราะว่าเมื่อเราอยู่จุดสบาย ๆ มันกลายเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ทำให้ไม่พัฒนาตัวเอง ในขณะที่โลกข้างนอกหมุนไปอย่างรวดเร็ว การอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยนั้น จึงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ถ้าในทางกลับกันจากข้างต้น…นั่นคือ หากเราต้องการที่จะโบยบินออกจาก Comfort Zone เพื่อไปแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้ว เราก็ควรทำ…เพราะเราต้องการเสาะแสวงหาการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ บนโลกใบนี้…แต่สิ่งที่เมื่อเราได้โบยบินไปในโลกกว้างแล้ว สิ่งที่จะทำให้ตัวเราพบ นั่นคือ การพบเจอปัญหา อุปสรรค นานัปการที่เราจะต้องพบเจอสิ่งดี สิ่งเลวร้ายบางเรื่องบนโลกกว้าง…จะผิดกับที่ตัวเราได้อยู่ในที่ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย เช่นกับ Comfort Zone แต่ในบางครั้ง เมื่อเราอยู่ในพื้นที่ Comfort Zone แล้ว ก็เปรียบเสมือนเป็นกับดักให้กับตัวของเราเองได้ด้วย เพราะเราจะติดอยู่ในกับดักของความปลอดภัยจนทำให้ตัวเราหลงไหลในพื้นที่แห่งนี้แล้วไม่คิดที่จะปรับเปลี่ยนตนเอง หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้โบยบินไปอยู่ในพื้นที่แห่งใหม่เลย เนื่องจากความกังวล ความเกรงกลัวต่อสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวของเราเองบ้าง…แต่สำหรับคนที่ไม่กลัวที่จะปรับเปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว จะสามารถเดินออกมาจากพื้นที่ที่เป็น Comfort Zone ได้

ในการใช้ชีวิตจริงนั้น มีมุมมองให้น่าคิดว่า บางคนอาจคิดว่าเราอาจติดอยู่ในกับดักของ Comfort Zone ได้ เพราะเป็นพื้นที่ที่คนยึดติดที่จะไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง คือ การใช้ชีวิตปกติ ธรรมดา มีชีวิตที่มีความสุขแล้ว ก็อยู่ไปวัน ๆ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องของอนาคตอันไกล เพราะพอใจกับสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ก็พอ หากอยู่ไปเรื่อย ๆ ก็จะมีชีวิตที่อยู่กับที่ ไม่มีความก้าวหน้าไปมากกว่านี้ จนสุดท้าย คือ การมีชีวิตที่หมดไฟกับการใช้ชีวิตจริง

การออกจาก Comfort Zone นั้น เปรียบเสมือนคนที่มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล คิดนอกกรอบในการใช้ชีวิตจริง รู้จักการวางแผนในการใช้ชีวิตของตนเอง มีลักษณะนิสัยที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างชีวิต มีความพร้อมที่จะเดินออกจาก Comfort Zone พร้อมกับการเผชิญสู่โลกกว้างขึ้น ไม่ว่าสิ่งที่จะเผชิญนั้นดีหรือไม่ก็ตาม คนลักษณะแบบนี้จะมีลักษณะที่กล้า เปิดใจ ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งอยู่กับสิ่งที่จำเจ อยู่ไปวัน ๆ โดยมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ก่อน…และพาตัวเองไปอยู่ในที่แห่งใหม่…มีการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะการเรียนรู้ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต…รู้จักที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่พัฒนา ปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม…เลือกความท้าทายในเรื่องที่ตนเองจะทำ ไม่เฉื่อยชา…มีมนุษยสัมพันธ์ ทำความรู้จักคบหา สมาคมกับผู้คนใหม่ ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิต…และรู้จักตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ตนเองบรรลุเป้าหมายได้

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ออกมากจาก Comfort Zone ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะต้องใช้ความพยายาม ความกล้า ความอดทนสูงมากในการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในทุก ๆ เรื่อง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อตนเองและเป็นเรื่องเสี่ยงมาก…แต่สุดท้าย ถ้าผ่านการออกมาจาก Comfort Zone ได้ จะทำให้ตัวเราเองได้ประสบการณ์และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเสมอ…และขอบอกว่า…

“ถ้าคุณคิดอยากจะบิน ต้องออกมาจากกรงให้ได้…ขอบอกเลยว่า ”คุณจะพบ เจอเรื่องราว ปัญหา อุปสรรค นานัปการ ที่คุณไม่เคยพบเจอ เช่นเดียวกับที่คุณอยู่ในกรง…คุณต้องมีความอดทนสูงมาก…แต่ถ้าหากคุณผ่านปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ นั้นมาได้แล้ว จะแสดงให้เห็นว่า คุณนั้นมีความแข็งแกร่ง ที่คุณผ่านสิ่งต่าง ๆ นั้นมาได้…เราขอชื่นชมคุณ เพราะคุณจะเป็นคนที่เข้มแข็ง และแข็งแกร่งในการใช้ชีวิตจริงค่ะ"…ที่พูดมาข้างต้น นั่นคือ ประสบการณ์และชีวิตจริงของผู้เขียน ผู้หญิงที่ชื่อ “บุษยมาศ แสงเงิน” ที่ใช้ชีวิตออกมาจาก Comfort Zone และประสบความสำเร็จต่อการใช้ชีวิตสำหรับการทำงานรับราชการ…แล้วคุณล่ะ!!! มีความแกร่งพอหรือไม่ กับการใช้ชีวิตที่ออกมาจาก Comfort Zone…ก้าวออกมาให้ได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่จะก้าวผ่านออกมาจาก Comfort Zone ค่ะ เพราะแสดงให้เห็นถึง การมีคุณค่าในตนเอง ด้วยความรู้และความสามารถของตัวเราเองค่ะ ปรับเปลี่ยนสิ่งที่เป็นปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ ให้มาเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าให้กับตัวของเราเองค่ะ…และฝึกคิดบวกเสมอกับการอยู่นอก Comfort Zone ค่ะ

จงมีความเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถของเราเอง และเปิดใจยอมรับกับการเรียนรู้ใหม่ ที่พร้อมกับให้เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ปิดกั้นตนเอง กล้าที่จะเผชิญกับโลกกว้างที่น่าท้าทาย และเสี่ยงในการดำเนินชีวิต โดยใช้ชีวิตด้วยการให้เหตุและผลในการอยู่ร่วมกันในสังคมการทำงาน และการรู้จัก Create งานให้เป็นด้วยการนำความรู้เดิมมาปรับประยุกต์ใช้กับการทำงาน ณ ปัจจุบันให้ได้ และให้เป็นค่ะ…เพราะการทำงานขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ เหตุการณ์ กาลเวลา สิ่งแวดล้อม และบริบทของส่วนราชการค่ะ

************************

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาในบันทึกนี้ค่ะ

บุษยมาศ แสงเงิน

๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๕