การต่อสู้กันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์จะไม่มีใครได้ชัยชนะ
การต่อสู้กันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์จะไม่มีใครได้ชัยชนะ
ดร.ถวิล อรัญเวศ
อธิปไตย ความเป็นชาติ ความเป็นเอกราชนั้นถือว่า
เป็นเรื่องสำคัญมาก ชนชาติที่เป็นอธิปไตย และเป็น
เอกราชแล้ว แม้จะใหญ่หรือเล็กก็ตาม ก็ถือว่ามีเกียรติและ
ศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน นั้นคือจะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยี และ
มารุกรานหรือทำอะไรตามใจชอบได้ แต่ละชนชาติเขาก็จะ
คิดต่อสู้ต้านทานจนกว่าจะสุดความสามารถแล้วเท่านั้น
ปัจจุบัน การต่อสู้ก้นด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์นั้น จะ
ไม่มีใครได้รับชัยชนะ มีแต่แพ้ด้วยกันทั้งคู่เท่านั้น
เพราะเหตุไร ?
เพราะว่าปัจจุบัน ความร้ายกาจของอาวุธยุ่ทโธปกรณ๋นั้น
ได้พัฒนนาไปไกลมากแล้ว และอาวุธหรือขีปนาวุธที่ได้
พัฒนามาแล้วนั้น สามารถจะทำลายหรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
และเผาผลาญได้เพียงไม่กี่พริบตา
ทำไม ?
ท่านทั้งหลายก็ลองนึกย้อนหลังไปดูสงครามโลกครั้งที่สอง
ที่บางประเทศใช้อาวุธร้ายกาจหรือที่เรียกว่านิวเคลียร์มา
อวดศักดิ์ดา และประลองดูคู่ต่อสู้ว่าจะยอมจำนนไหม เมื่อลองนำมาใช้
ดูตูมเดียวส่งผลทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากจนต้องเปลี่ยนใจ
เปลี่ยนท่าที ยอมจำนนไปก่อน เพราะ
ขืนต่อสู้ไปก็ไม่มีอะไรดี มีแต่ความเสียหายย่อยยับของ
ประชาชนที่ต้องล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก และส่ง
ผลให้เกิดความเสียหายต่ออาคารสถานที่ ตลอดทั้งแผ่นดินของประเทศด้วย
ก็นับว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ที่ไม่อยากให้
คนเราต้องล้มหายตายจากไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอานุภาพมากมาย
จากฝีมือมุนษย์เราที่ได้สร้างขึ้นมา และ
ก็กลับมาทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง
นั้น คือเหตุการณ์ที่อานุภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้
ทำลายฆ่าคนตายเพียงไม่กี่พริบตาเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว
เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ท่านทั้งหลายลองนึกดูมาปัจจุบัน เขาจะพัฒนา
ความร้ายแรงความร้ายกาจของอาวุธยุทโธปกรณ์ไปไกลเพียงใดแล้ว
เราก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่ทดลองใช้ หรือ
ทดลองแต่ก็ไม่ได้นำมาทำลายฆ่ากันตรง ๆ
แน่นอน ย่อมมีอานุภาพมาก อาจจะมากกว่าอาวุธ
นิวเคลียร์เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว
ทำไม ?
เพราเขาพัฒนาความร้ายกาจของอาวุธยุทโธปกรณ์
ไปไกลหลายสิบเท่าแล้ว
เพราะฉะนั้น ต่อนี้ไป คิดว่า การต่อสู้กันด้วยอาวุธ
ยุทโธปกรณ์นั้น จะไม่มีใครได้รับชัยชนะอีกแล้ว มีแต่เสียหาย
ด้วยกันทั้งคู่
เพราะเหตุไร ?
เพราะว่าอานุภาพของอาวุธยทโธปกรณ์ที่จะนำออก
มาใช้จะมีอานุภาพสามารถฆ่าคนให้ตายได้เป็นจำนวนมาก
เพียงไม่กี่พริบตา และทำลายสิ่งก่อสร้าง ให้เสียหาย
ไปในภายในไม่กี่พริบตา และความร้ายกาจของมันอาจจะแผ่ขยายไป
ในวงกว้างมากกว่าแต่ก่อน เพราะขนาดเชื้อไวรัส
โควิด 19 ซึ่งไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ร้ายกาจ ก็ยังสามารถทำลายชีวิต
ของมวลมนุษย์โลกให้ตายไปอย่างเลือดเย็น ค่อยตายไปวันละนิด วันละนิด
แต่อานุภาพของอาวุธยุทโปกรณ์ที่พัฒนาไปไกลมากแล้ว จะมีผลร้ายกาจไปกว่านั้น ฆ่าคนให้
ตายภายในไม่กี่พริบตา
เพราะฉะนั้น จึงฟันธงได้เลยว่า การที่จะต่อสู้กัน
ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ร้ายกาจ ซึ่งมนุษย์เราได้พัฒนาไป
ไกลมากแล้วนั้น จะไม่มีใครได้ชัยชนะอีกแล้ว มีแต่แพ้ด้วยกันทั้งคู่
เพราะผู้คนจะล้มตายไปเป็นจำนวนมาก และส่งผลต่อความเสียหาย
ให้แก่ประเทศชาติไปในวงกว้าง ผู้คนล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก
อาคารสถานที่ซึ่งสร้างมา
ด้วยเงินจำนวนมหาศาล ต้องพังย่อยยับไปภายในพริบตา ยาก
ที่จะซ่อมแซมให้ดีคงเดิมได้
ฉะนั้น ทางออกที่ดี คือ การแก้ปัญหาอย่างสันติ
วิธี จะทำให้ได้ชัยชนะทั้งคู่ เพราะผู้คนไม่ต้องล้มหายตายจาก
ไปเป็นจำนวนมาก และประเทศชาติ อาคารสิ่งก่อสร้างก็
ไม่ต้องเสียหายไปแต่อย่างใด
การค้าขายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีอานุภาพมากนั้น
แม้จะทำให้ได้เงินกำไรมากก็จริง แต่ก็เสมือนเป็นดาบสองคม
ซึ่งสามารถกลับมาทำลายมนุษย์เราได้ง่าย ทำให้ผู้คน
ตายง่ายเป็นจำนวนมากภายในไม่กี่พริบตา
เมตตาธรรม เท่านั้น จะค้ำจุนโลก คงไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว
นอกจากเมตตาธรรม ค้ำจุนโลก ศีลธรรม จงกลับมา
เพราะถ้าศีลธรรมไม่กลับมา จะทำให้โลกาพินาศ
-----------------
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น